ต่อยปาก‘ศรีสุวรรณ’

อดีตอาจารย์เกษียณวัย67หมั่นไส้

ปมชงกกต.สอบพท.แจกเงินดิจิทัล

ชี้ไม่สร้างสรรค์-ร้องเรียนพร่ำเพรื่อ

เจ้าตัวโร่แจ้งตร./ฟ้องเรียก1ล้าน

อดีตอาจารย์เกษียณสุดทน โดดต่อยปาก “ศรีสุวรรณ” หน้าสำนักงาน กกต. ปมร้องสอบนโยบายเงินดิจิทัล พรรคเพื่อไทย ชี้ไม่สร้างสรรค์ ยอมรับหมั่นไส้ไม่พอใจร้องเรียนพร่ำเพรื่อขัดขวางประชาธิปไตย เพราะกำลังจะเลือกตั้งอีกไม่กี่วัน ด้านพี่ศรีโอดปากเจ่อ กินน้ำพริกไม่ได้อีกหลายวัน ลั่นฟ้องเอาผิดถึงที่สุด จ่อเรียกค่าเสียหาย 1 ล้าน ไม่ถอยจะร้องเรียนให้มากขึ้น เผยแฟนคลับห่วง พร้อมส่งทีมช่วยดูแลความปลอดภัย

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 พฤษภาคม ที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุทำร้ายร่างกายนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย หลังให้สัมภาษณ์นักข่าวกรณีเดินทางมาให้ข้อมูลกับ กกต.ช่วงเช้าวันนี้หลังยื่นคำร้องให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย (พท.) หาเสียงนโยบายแจกเงินดิจิทัล1หมื่นบาท ผู้ก่อเหตุ คือ นายทศพล ธนานนท์โสภณกุล อายุ 67ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งมาสังเกตการณ์ตั้งแต่ก่อนที่นายศรีสุวรรณให้สัมภาษณ์จนจบและนักข่าวกำลังจะไปสัมภาษณ์ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ซึ่งเดินทางมาที่ กกต.เช่นกัน นายทศพล ได้เดินไปหานายศรีสุวรรณและลงมือทำร้ายร่างกาย สาเหตุเบื้องต้นเพราะไม่พอใจการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ มองว่า เป็นการให้ร้ายผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย จึงเกิดความหมั่นไส้

ขณะเกิดเหตุ ตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในอาคารเข้ามาแยกทั้งสองฝ่าย เกรงจะเกิดการทะเลาะวิวาทกันอีกครั้ง เนื่องจากในอาคารยังมีนายเรืองไกร ซึ่งมาร้องเรียนประเด็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อ ซึ่งนายศรีสุวรรณให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ช่วงเกิดเหตุทำร้ายนายศรีสุวรรณนั้น นักข่าวกำลังสัมภาษณ์นายเรืองไกร จึงไม่มีใครบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ทัน และไม่คาดคิดจะเกิดเหตุดังกล่าว แต่ทุกคนได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะวิวาทกัน จึงหันไปมอง เห็นนายศรีสุวรรณตะโกนว่า “มาตบผมทำไม” ซึ่งนายศรีสุวรรณยืนยันว่าไปแจ้งความแน่ เจอกันในชั้นศาล พร้อมเปิดหน้ากากอนามัยให้ดูด้วยว่า หลังเกิดเหตุริมฝีปากล่างด้านขวามีเลือดไหล

ด้านนายเรืองไกรให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเห็นเหตุการณ์ก็เข้าไปสอบถาม นายศรีสุวรรณเปิดหน้ากากอนามัย ให้ดูแผล ต่างให้กำลังใจกัน และรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันจะเดินหน้าร้องเรียนต่อ เพราะมองว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย

ขณะที่นายทศพล ธนานนท์โสภณคุณ อาจารย์เกษียณราชการ วัย 67ปี เปิดเผยหลังก่อเหตุว่า ตนเดินทางมาทำธุระที่ศูนย์ราชการ แล้วเห็นว่าสื่อมวลชนกำลังสัมภาษณ์นายศรีสุวรรณ ก็รอฟังจนเสร็จแล้วคิดว่าอีก 2-3 วันกำลังจะเกิดการเลือกตั้ง มองเป็นการร้องเรียนพร่ำเพรื่อ จะผิดหรือถูกก็ต้องเป็นหน้าที่ กกต.พิจารณาเอง ถือเป็นเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ต่อสังคม เป็นการบ่อนทำลายประชาธิปไตยโดยตรง จึงเข้าไปตบเพื่อสั่งสอนเพียงครั้งเดียว แต่หากไม่มีคนห้าม คงทำยิ่งกว่านี้ ยืนยันว่าทำไปในนามส่วนตัว และยินดีถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่สน.ทุ่งสองห้อง นายศรีสุวรรณเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายทศพล ธนานนท์โสภณกุล อายุ 67 ปี อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชน ที่ปัจจุบันเกษียณแล้ว ข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งพนักงานสอบได้สอบสวนลงบันทึกประจำวัน และทำหนังสือส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อนำมาประกอบสำนวน ยืนยันขะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ไม่มีคำว่าเจรจาต่อรองหรือยอมรับคำขอโทษใดๆทั้งสิ้น จะพิจารณาเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 1 ล้านบาท

นายศรีสุวรรณให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังแจ้งความว่า เหตุที่เกิดเป็นครั้งที่สอง แต่ไม่กระทบการยื่นคำร้อง มีแต่ทำให้ร้องเรียนมากยิ่งขึ้น ตนไม่คิดว่าจะมาถูกทำร้ายร่างกายซ้ำอีก ทั้งที่มีคนอื่นเข้ามาร้องเรียน รวมถึงตัวแทนผู้สมัครพรรคการเมืองต่างๆ และการร้องเรียนถือเป็นสิทธิชอบธรรมตามกฎหมาย ดังนั้น ถือว่าการทำร้ายร่างกายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี ไม่เคารพสิทธิผู้อื่น ย้อนแย้งกับคำพูดเรื่องหลักประชาธิปไตย ยอมรับว่ากังวลว่าอนาคตอาจจะมีเหตุเกินเลยกว่านี้ หลังเกิดเรื่องมีหลายฝ่ายติดต่อเข้ามาว่าต้องการจัดทีมรักษาความปลอดภัยมาให้

“สังเกตว่าบุคคลดังกล่าวมาบริเวณที่ยื่นร้องเรียนหลายครั้ง ผมไม่ใช่เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก เราเพียงแต่ว่าไม่รู้จักเขาเท่านั้นเอง เคยเห็นหน้าหลายครั้งแสดงว่ามีเจตนาที่จะหาโอกาส หาช่องทางจะมาทำร้ายหรือไม่ จะหาว่าไม่เจตนาคงไม่ได้” นายศรีสุวรรณกล่าว และว่าขณะนี้พูดยังไม่ค่อยถนัด เพราะปากเจ่อ คงกินน้ำพริกไม่ได้ไปหลายวัน

นายศรีสุวรรณยังกล่าวถึงกรณีผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ยิงแสงเลเซอร์เชิญชวนคนไปเลือกพรรคตัวเองบนสะพานพระราม 8 ว่า เรื่องนี้ตนโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงไปแล้วว่ามีหนังสือตอบกลับจาก กกต.ว่าการกระทำดังกล่าวไม่ถือว่าผิดระเบียบ กกต.เรื่องการหาเสียง เมื่อไม่ผิดตนจะออกมาร้องเรียนให้โง่ทำไม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุนายทศพล ถูกตำรวจควบคุมตัวไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยนายทศพลยืนยันพร้อมสู้คดี มองว่า ไม่เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เป็นการสั่งสอน ขณะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า เรื่องพยานหลักฐาน ตอนนี้ยังไม่มีคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ได้ ต้องนำตัวนายทศพลไปทำใบบันทึกประจำวัน เพื่อนำกลับมาขอคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ศูนย์ราชการฯแจ้งวัฒนะ