ป่วน3จว.ใต้เผา30จุด
ลอบวางบึ้ม!ทหารพรานพลีชีพ1เจ็บ3
ผบช.ภ.9สั่งจนท.คุมเข้มพื้นที่
ดูแลประชาชน/หวั่นก่อเหตุซ้ำ
คาดป่วนช่วงก่อนเลือกตั้งใหญ่
โจรใต้เหิมหนัก ป่วน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลอบเผาสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์-เผายางรถยนต์30 จุด ขณะที่ จ.ยะลา ลอบวางบึ้ม ทหารพรานพลีชีพ 1 นายบาดเจ็บ 3 นาย ด้านผบช.ภ.9 คาดคนร้ายป่วนช่วงก่อนวันเลือกตั้งใหญ่ กำชับจนท.ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง หวั่นคนร้ายก่อเหตุซ้ำ เร่งดูแลปชช.-สถานที่สำคัญ
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบฝ่าย เผายางรถยนต์และลอบวางเพลิงสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 30 จุด ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยที่ จ.ปัตตานี พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายตระเวนวางเพลิงเสาสัญญาณโทรศัพท์และยางรถ รวม 16 จุด ประกอบด้วย พื้นที่ อ.เมือง 3 จุด โดยจุดแรก ที่หน้า อบต.กะมิยอ หมู่ 7 ต.กะมิยอ อ.เมือง จ.ปัตตานี เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ทรูได้รับความเสียหายอย่างหนัก จุดที่ 2 ด้านหลัง อบต.กะมิยอ หมู่ 2 ต.กะมิยอ ด้านหลัง อบต.กะมิยอ อ.เมือง จ.ปัตตานี เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เสียหายเล็กน้อย และจุดที่ 3 ริมถนนพื้นที่หมู่ 3 ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เสียหายเล็กน้อย
ขณะที่พื้นที่ อ.หนองจิก 5 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 เผาเสาไฟฟ้าพื้นที่หมู่ 1 บ้านดอนรัก ต.ดอนรัก จุดที่ 2 เผาเสาสัญญาณโทรศัพท์ พื้นที่หมู่ 5 บ้านคลองวัว ต.ดอนรัก จุดที่ 3 เผาเสาไฟฟ้าแรงสูง ในหมู่ 6 บ้านปะกาจินอ ต.ดอนรัก จุดที่ 4 เผาเสาสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณหมู่ 4 บ้านต้นสะท้อน ต.คอลอตันหยง จุดที่ 5 เผาเสาสัญญาณโทรศัพท์ พื้นที่หมู่ 3 บ้านโคกโตนด ต.คอลอตันหยง
พื้นที่ อ.ยะรัง 2 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 เผาเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือดีแทค หมู่ 5 บ้านเจาะบองอ ต.เขาตูม และจุดที่ 2 เผาเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือทรู หมู่ 5 บ้านเจาะบองอ ต.เขาตูม พื้นที่ อ.โคกโพธิ์ 2 จุด ดังนี้ จุดที่ 1 เผาเสาสัญญาณโทรศัพท์ หมู่ 4 บ้านคลองช้าง ต.นาเกตุ และจุดที่ 2 เผายางรถยนต์ หมู่ 4 บ้านห้วยเงาะ ต.ทุ่งพลา สำหรับพื้นที่ อ.ยะหริ่ง 1 จุด คือเผาเสาสัญญาณโทรศัพท์ CAT บ้านบือเจาะ หมู่ 1 ต.บางปู พื้นที่ อ.มายอ 2 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 เผาสายไฟฟ้า ริมถนนสาย 4061 บ้านกูวิง หมู่ 1 ต.สาคอใต้ จุดที่ 2 เผาสายไฟฟ้า ริมถนนสาย 4061 บ้านเกาะจัน หมู่ 4 ต.เกาะจัน ขณะที่พื้นที่ อ.สายบุรี 1 จุด คือเผาเสาสัญญาณโทรศัพท์ หมู่ 3 บ้านเจาะกือแย ต.ตะปิ้ง
ขณะเดียวกัน ที่ จ.นราธิวาส ได้แก่ 1.เผายางรถยนต์ เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ทรู พื้นที่บ้านโต๊ะนอ หมู่ 4 ต.มะนังตายอ อ.เมือง 2.เผาเสาสัญญาณโทรศัพท์ พื้นที่หมู่ 3 บ้านศรีพงัน ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ 3.เผายางรถยนต์ เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ หมู่ 2 ต.สาวอ อ.รือเสาะ และ 4.ที่บ้านจือแร อ.รือเสาะ
ส่วนที่ จ.ยะลา ได้แก่ 1.เผาเสาสัญญาณโทรศัพท์ บ้านบูโละห์สะนีแย หมู่ 4 ต.บ้านแหร อ.ธารโต 2.เส้นทางรามัน-อาซ่อง 3.บ้านเนียง อ.เมือง 4.พื้นที่ ต.ลิดล อ.เมือง 5.เผายางรถยนต์ เสาไฟฟ้าหน้าศูนย์เด็กเล็กเจ๊าะซีโปะ หมู่ 8 ต.บ้านแหร อ.ธารโต 6.พื้นที่หมู่ 4 บ้านศรีท่าน้ำ ต.ธารโต อ.ธารโต 7.พื้นที่หมู่ 1 ข้างโรงเรียนธารโตวัฒนวิทย์ ต.ธารโต อ.ธารโต 8.บ้านมาแน ต.ปะแต อ.ยะหา 9.บ้านยือเราะ ต.ยะหา อ.ยะหา 10.บ้านกือเต ต.ยะหา อ.ยะหา และ 11. พื้นที่บ้านบาโงยซิแน อ.ยะหา
นอกจากนี้ในช่วงเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน ได้เกิดเหตุระเบิดที่ริมถนนสาย 410 ยะลา–เบตง หมู่ 1 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ใกล้กับโรงเรียนบ้านเตาปูน เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 3006 ชุดลาดตระเวนเส้นทาง เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 3 นาย ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ. 9 ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบเหตุและติดตามคนร้าย โดยให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะลอบก่อเหตุซ้ำในช่วงใกล้กับการเลือกตั้งทั่วไป
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าคนร้ายได้แอบซุ่มอยู่ที่สวนยางด้านหลังโรงเรียนดังกล่าว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดลาดตระเวน เดินเท้าผ่านมาถึงหน้าโรงเรียน จึงกดชนวนระเบิด เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นเส้นทาง เพื่อรอให้ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
สำหรับผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ ส.อ.สมหมาย นาถสืบวงศ์ ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 3 นาย ประกอบด้วย อส.ทพ.ณัฐพล อุปาทา , อส.ทพ.โกมินทร์ สารถี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และ อส.ทพ.พรเจริญ หยกพูลผลดี
ด้าน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ได้ลงพื้นที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา ตรวจกำลังพล พร้อมทั้งกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) ในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุป่วนเผาเสาสัญญาณโทรศัพท์ ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเกรงว่าคนร้ายจะนำระเบิดแสวงเครื่อง เพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้วกดระเบิดซ้ำ พร้อมทั้งสั่งกำชับไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรทั้ง 3 จังหวัด ให้เพิ่มความเข้มงวด และเพิ่มความระมัดระวังในมาตรการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยสูงสุด ในห้วงเวลานี้ เนื่องจากใกล้วันเลือกตั้ง ซึ่งคนร้ายพยายามสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ท.นันทเดช กล่าวอีกว่า คืนที่ผ่านมา คนร้ายได้ก่อเหตุเผาสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์มือถือแทบทุกระบบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน ว่าเกิดจากสาเหตุใด จุดที่เกิดเหตุเป็นจุดเสี่ยง เป็นเส้นทางที่มีความล่อแหลม ดังนั้นมาตรการเชิงรุก และปฏิบัติการจะมีการใช้ทั้งเครื่องมือ และกำลังเจ้าหน้าที่ในการเข้าเคลียร์พื้นที่ ก่อนที่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จะเข้าปฏิบัติการ พร้อมกับสั่งกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง โดยใช้มาตรการเชิงรุก รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับพี่น้องประชาชน เป้าหมายอ่อนแอ และการดูแลหน่วยงานราชการ และสถานที่สำคัญต่างๆ
ขณะที่ นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง จ.ยะลาได้สั่งให้บูรณาการความร่วมมือในการปฏิบัติทั้งฝ่ายปกครอง ร่วมกับทหารและตำรวจ ตั้งจุดตรวจบนถนนสุขยางค์ เส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง อ.ธารโต และขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยแจ้งข้อมูลข่าวสาร หากพบบุคคลต้องสงสัย หรือสิ่งของหรือวัตถุต้องสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าตรวจสอบทันที
นอกจากนี้กองกำลังที่รับผิดชอบเฝ้าตรวจพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้งทหาร ตชด. และ อส.ได้ลาดตระเวนทั้งเดินเท้าและลาดตระเวนด้วยรถยนต์ ตลอดแนวชายแดนเพื่อป้องกันบุคคลเป้าหมายด้านความมั่นคง ลักลอบเข้าออกผ่านช่องทางธรรมชาติ ควบคู่กับจุดตรวจบนถนนเลียบชายแดนไทย-มาเลเซีย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี