ผู้สื่อข่าวรายงาน ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ของ กกต.จ.แม่ฮ่องสอน เขต 1 (อ.ปาย, อ.ปางมะผ้า, อ.เมืองแม่ฮ่องสอน และ อ.ขุนยวม) นายปกรณ์ จีนาคำ พรรคพลังประชารัฐ คะแนน 18,777 คะแนน นับเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 2 ส.อ.สมเกียรติ บุญคำมา พรรคก้าวไกล คะแนน 13,870 คะแนน อันดับ 3 ดนุภัทร์ เชียงชุม พรรคประชาธิปัตย์ คะแนน 12,460 คะแนน เขต 2 (อ.สบเมย,อ.แม่สะเรียง และ อ.แม่ลาน้อย) นายสมบัติ ยะสินธิ์ พรรคประชาธิปัตย์ คะแนน 20,345 คะแนน (นับแล้ว 99.56 เปอร์เซ็นต์) อันดับ 2 นายวิทยา หวานซึ้ง พรรคเพื่อไทย คะแนน 17,497 คะแนน อันดับ 3 นายจำลอง ศรีสวัสดิ์ พรรคพลังประชารัฐ คะแนน 14,709 คะแนน เปิดเบื้องหลังการชนะคะแนนแบบพลิกโผ 2 ตลบมาจาก การจับมือกันระหว่าง ขาใหญ่ นายกอบจ.แม่ฮ่องสอน กับ กำนันผู้ใหญ่บ้านที่กะล้มช้าง คือ รวมไทยสร้างชาติ ที่เคยอยู่บ้านเดียวกันกับพลังประชารัฐ ซึ่งสายสัมพันธ์ของ ร.อ.ธรรมนัส กับ นายก อบจ.แม่ฮ่องสอน ที่มีคอนเนคชั่นกับนักธุรกิจบริษัทรับเหมาก่อสร้างในภาคเหนือ ขณะที่ ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเชื่อผู้นำในแต่ละแห่ง และเห็นแก่เงิน บวกกับการมองเห็นการดูแลประชาชน เมื่อถนนหนทางมีปัญหา รถจักรกลหนักของ อบจ.วิ่งกันเกร่อ ย่อมทำให้ได้รับการยอมรับจากประชาชนในแทบทุกพื้นที่ ขณะที่ตัวเต็ง เข้าไม่ถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้งที่ นายใหญ่สั่งมา แต่กลับไปคอนแทคกับ นายก อบต.แทบทุกแห่ง ทั้งที่ นายกเหล่านั้น ฐานเดิมก็มาจากกำนันผู้ใหญ่บ้าน ส่งผลให้ตกม้าตายไม่เหลือลายให้เห็น แบบที่ว่าคิดผิดชีวิตเปลี่ยน
อย่างไรก็ตามในส่วนของเขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้รับคะแนนนำลิ่ว ก็มาจากมีความสัมพันธ์ที่แน่นปึ๊กกับ นายก อบจ.แม่ฮ่องสอน อานิสงส์เลยเผื่อแผ่ถึงกันอย่างมั่นคง ในส่วนของพรรคก้าวไกล เยาวชนม้ามืดทั้งหลาย ที่ไปเรียนและทำงานนอกเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน พากันเทคะแนนให้พรรคก้าวไกลอย่างถวายหัว ส่งผลให้คะแนนพรรคของก้าวไกล นำโด่งกว่าทุกพรรค