นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานการแถลงข่าว การขับเคลื่อนวาระจังหวัดขอนแก่น เรื่องการจัดทำแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของจังหวัดขอนแก่น แบบบูรณาการ โดยมีผศ.ดร.โพยม สราภิรมย์ ผู้อำนวยการสถาบันทรัพยากรน้ำใต้ดิน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น แถลงถึงสถานการณ์น้ำในจังหวัดขอนแก่น มาตรการป้องกันผลลัพธ์ ผลกระทบ ในการจัดทำแผน, พระโสภณพัฒนบัณฑิต รศ.ดร.รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น (ม.) แถลงถึงความพร้อมในการสนับสนุนของภาคศาสนา, ดร.ทวีสันต์ วิชัยวงษ์ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่นแถลงถึงความพร้อมในการสนับสนุนของภาคเอกชน โดยมี นายอำเภอทั้ง 26 อำเภอ ส่วนราชการ ภาครัฐเอกชน และสื่อมวลชน ร่วมรับฟังการแถลงข่าว
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการที่มีข้อมูลจากหลายแห่งโดยเฉพาะนักวิชาการที่ชี้ให้เห็นว่า ขณะนี้ กำลังจะเข้าสู่ปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งจะรุนแรงถึงขั้น Super เอลนีโญ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดสภาวะแล้งติดต่อกัน 3-5 ปี ดังนั้น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีน้ำโดยเฉพาะน้ำท่าปีละ 3,000 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิ เลย เพชรบูรณ์ อีกประมาณ 3,000 กว่าล้านรวมเป็น 6,000 กว่าล้าน แต่สามารถจัดเก็บน้ำไว้ในพื้นที่ได้ ประมาณ 2,800 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงต้องหาวิธีบริหารจัดการน้ำโดยบริหารจัดการร่วมกันทั้งคณะสงฆ์ ภาคเอกชนหอการค้าสภาอุตสาหกรรม ที่จะช่วยกัน ในการเตรียมรับมือกับภาวะ เอลนีโญ ที่จะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้เพราะน้ำคือชีวิต หากขาดน้ำจะส่งผลกระทบทั้งในเรื่องของการลงทุน การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ทุกระบบ ซึ่งเรื่องน้ำถือเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญ ตัวอย่างที่นำเสนอในครั้งนี้ คือ การสร้างฝายแกนดินเหนียว ที่สามารถทำได้ ในระยะเวลาอันสั้นและมีต้นทุนไม่มากนัก สามารถทำได้ในระยะเวลาจำกัด เพียง 1 สัปดาห์ ที่จะกักเก็บน้ำได้ถึง 900,000 ลบ.ม. คิดเป็นต้นทุนโดยเฉลี่ย 3 สตางค์/ลบ.ม. ถือว่ามีความคุ้มค่าในแง่ของการลงทุน เมื่อมีน้ำแล้วจะทำให้เป็นประโยชน์ต่อพืช คน สัตว์ สิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม และโดยเฉพาะในเรื่องสภาพจิตใจของพี่น้องประชาชน
ผู้ว่าฯ ขอนแก่น กล่าวอีกว่า การพยากรณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จากข้อมูลสถิติตัวเลขปริมาณฝนในพื้นที่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วง คือ มีค่าเฉลี่ยฝนในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ปกติจะอยู่ที่ 158 มม. แต่ในปี 2566 ช่วง 4 เดือน มีปริมาณฝนตกเพียง 91 มม. ซึ่งพายุฤดูร้อนในช่วงที่ผ่านมาจะมีเพียงลม แต่ไม่มีฝน และพายุที่ทำให้เกิดฝนตกล่าสุดคือ โมคาเท่านั้น ดังนั้น ปรากฏการณ์ที่มีฝนตกน้อยและได้ปริมาณน้ำน้อย หรือ การเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นระยะเวลานาน และมีปริมาณฝนไม่มาก เมื่อฝนมาต้องรีบกักเก็บน้ำ จากนี้ไปเมื่อมีน้ำมาในปริมาณมาก จะต้องรีบจัดเก็บไว้ให้ได้มากที่สุด หรือเมื่อเกิดภาวะน้ำท่วมก็จะท่วมในปริมาณที่ไม่มาก เป็นการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมทั้งหมด ตั้งแต่ป่าต้นน้ำการมีฝายชะลอน้ำบนเขา ตามลำห้วยต่างๆ ต้องมีฝายขั้นบันได การมีแหล่งน้ำสำรอง แหล่งน้ำของทางราชการ เช่น ชลประทาน ที่มีสภาพตื้นเขิน จะดำเนินการจัดการอย่างไร ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการโดยบูรณาการทุกภาคส่วน ในทุกมิติ ทั้งน้ำฝน น้ำผิวดินและน้ำใต้ดิน ที่จะต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย รวมถึงคณะสงฆ์และภาคเอกชน เพื่อที่จะทำให้เกิดความมั่นคงของน้ำในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นได้
ด้าน พระโสภณพัฒนบัณฑิต รศ. ดร.รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น (ม.) กล่าวว่า ในส่วนของคณะสงฆ์ ถือว่าเป็นพันธกิจที่สำคัญตอบสนองกับนโยบายของจังหวัด คืองานสาธารณูปการ และงานสาธารณสงเคราะห์โดยได้จัดทำผ้าป่าสมทบในการจัดทำฝายกั้นน้ำ เช่น ที่อำเภอแวงน้อย นี้ซึ่งมีพื้นที่ติดแม่น้ำชี ในฤดูฝนจะเกิดน้ำท่วม ส่วนในฤดูแล้งจะเกิดความแห้งแล้งไม่สามารถเก็บกักน้ำในแม่น้ำชีไว้ใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอำเภอแวงน้อย จึงได้ดำเนินการจัดสร้างฝายแกนดินแบบซอยซีเมนต์ บริเวณแม่น้ำชี จำนวน 2 จุด คือจุดที่ 1.บริเวณท่าสูบน้ำท่าหนองแดง และจุดที่ 2.ท่าสูบน้ำบ้านโนนเขวา โดยจุดที่ 1 ได้งบประมาณสนับสนุนจากจังหวัดขอนแก่น และอำเภอแวงน้อย คณะสงฆ์และญาติได้จัดทอดผ้าป่าสมทบ ทำให้เกิดความร่วมมือ ความเกื้อกูลของทุกฝ่าย ส่งผลให้โครงการสำเร็จเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างมาก โดยคณะสงฆ์ทั้ง 26 อำเภอ จะได้ให้การสนับสนุนภารกิจอันสำคัญนี้ร่วมกับจังหวัดขอนแก่นต่อไป
สมใจ นามสุดตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี