เมื่อคืนวันที่ 23 พ.ค.66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง พร้อมอาสาสมัครกู้ภัยพัทลุง ได้เข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บภายในโรงจอดรถของโกดังศูนย์จำหน้าเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง ติดถนนสายเอเซียฝั่งขาล่อง ในท้องที่ ต.เขาเจียก อ.เมือง จ.พัทลุง หลังได้รับแจ้งมีคนถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อนายวิพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี มีบาดแผลฉีกขาดจากการถูกของแข็งทุบตีเข้าบริเวณศีรษะเลือดไหลนอง อยู่ในอาการสลึมสลือ นอนอยู่ข้างกำแพงใกล้โรงจอดรถ กู้ภัยปฐมพยาบาลเบื้องต้นและต้องคอยเขย่าตัวพร้อมตะโกนเรียกให้รู้สึกตัวก่อนรีบนำขึ้นรถส่งรักษาต่อ รพ.พัทลุง
จากการสอบถามนายประภาส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี และนายภิญโญ ผขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เพื่อนร่วมงานที่ขับรถอยู่ที่เดียวกันเล่าให้ฟังว่า ผู้บาดเจ็บได้โทรศัพท์ไปหาตนพร้อมบอกว่า "ไม่รู้ถูกใครตีหัวเข้าแล้ว ให้รีบมาที่โรงจอดรถในโกดังด่วน" เมื่อพวกตนพร้อมภรรยาของนายวิพร มาถึงก็พบว่านายวิพร ถูกตีนอนจมกองเลือดอยู่ข้างกำแพงใกล้กับรถพ่วงหัวลากคันที่เขาขับ จึงเข้าไปเรียกและสอบถามว่า "เกิดเรื่องอะไรขึ้น ใครตี แต่นายวิพร ไม่ได้บอกอะไร ไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนตี เพราะเป็นช่วงที่ขับรถเข้าจอดและจังหวะลงจากรถปิดประตูก็ถูกตีเข้าที่ศรีษะก่อนจะเซไปล้มอยู่ข้างกำแพงดังกล่าว"
นายฐาแสน ธราขวัญนุ้ย หนึ่งในอาสาสมัครกู้ภัยที่เข้าช่วยเหลือ เมื่อทราบว่าผู้บาดเจ็บเป็นคนที่ขับรถบรรทุกหัวลากยี่ห้อฮุนได สีเขียว ป้ายทะเบียนหัว พัทลุง ป้ายทะเบียนท้าย พัทลุงก็จำได้ว่าก่อนที่จะเกิดเหตุรถคันนี้ได้ไปจอดซ่อมที่อู่ใกล้เคียงบ้านของตนและช่วงจังหวะที่รถคันนี้ถอยออกจากอู่ได้ถอยไปชนกับป้ายบอกความเร็วจนหักล้ม ตนได้ช่วยกันตะโกนบอกแต่คนขับก็ไม่ได้ยิน จากนั้นได้ขับออกไปจากอู่และได้ปาดหน้ารถกระบะที่วิ่งมาทางตรงจำนวน 2 คันทำให้มีการขับรถไล่ตามบีบแตรตลอดทาง ส่วนรถบรรทุกหัวลากคันนี้คนขับที่อยู่ในอาการมึนเมาก็ได้ขับส่ายไปส่ายมา คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุของการถูกทำร้ายร่างกายดังกล่าว
ด้านนายสิทธิชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ลูกเจ้าของอู่ซ่อมรถที่ผู้บาดเจ็บนำรถไปซ่อมได้เล่าว่า เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 23 พ.ค.ผู้บาดเจ็บได้พารถเข้ามาซ่อมยางที่อู่จากนั้นได้มีการนั่งดื่มสังสรรค์กัน จนกระทั่งตกดึกคนขับมีอาการมึนเมาแล้วตนได้บอกว่าให้จอดรถไว้ที่อู่ก่อน เพราะเมามากแล้วอย่าขับไปเลย แต่คนขับไม่ยอมยืนยันที่จะขับรถกลับ จนถอยชนป้ายบอกความเร็วหน้าร้านและปาดหน้ารถกระบะ 2 คัน ส่วนเหตุการณ์หลังจากนั้นตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามหาหลักฐานเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางระหว่างอู่ซ่อมรถ จนถึงโกดังที่จอดรถ ซึ่งมีระยะทางห่างกันประมาน 1 กม.เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์นี้เพื่อหาผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี