24 พ.ค.66 จากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลานสัก จ.อุทัยธานี แจ้งว่า มีพ่อค้ากับพ่อค้า ชกต่อยตีกันกันกลางตลาดนัดคลองถม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ในช่วงที่ประชาชนกำลังจับจ่ายใช้สอยกันเป็นจำนวนมาก หลังจากได้รับแจ้ง จึงวิทยุแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ลานสัก ไปยังที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำคู่กรณี ทั้ง 2 ฝ่าย ไปที่ สภ.ลานสัก แล้วก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปถึงยังตลาดนัดดังกล่าว
จึงได้เข้าไปสอบถามกับนางอุไรวรรณ (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านฝรั่งแช่อิ่ม และขายฝรั่งสด เป็นภรรยาของนายสวัสดิ์ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นสามีของตนเองเป็นพ่อค้าขายฝรั่งด้วยกันกับตนเอง โดยนางอุไรวรรณ ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ เป็นช่วงเวลาที่พ่อค้าแม้ค้าที่จะตั้งร้านขายของตามจุดที่เจ้าของจัดตลาดจัดนัดไว้ให้ตั้ง และตนเองก็ขายมาแล้วหลายปี และขายอยู่จุดดังกล่าวเป็นที่ประจำ
ล่าสุดได้มีเจ้าของตลาดนัดได้ให้พ่อค้าขายหัวหมู มาขายใกล้ร้านตนเอง เพราะว่าเจ้าของเดิมไม่มาขาย จึงให้พ่อค้าขายหัวหมูมาตั้งแทน เมื่อสามีของตนเองพูดกับเจ้าของที่จัดตลาดไปว่า หากร้านที่ขาย หัวหมู ใส้หมูพะโล้ชั่งกิโลขีด มาขายใกล้ที่ร้านของตนเอง ตนเองไม่ยอม จังหวะนั้นตนเองก็ไม่คิดว่าพ่อค้าขายหัวหมูเดินตามหลังมาด้วย จนเป็นเหตุให้พ่อค้าขายหัวหมู ได้ยินที่ตนเองพูด จนเกิดการไม่พอใจ แล้วทำให้พ่อค้าขายหัวหมูไม่พอใจเดินไปหยิบมีด เดินมาที่หน้าร้านตนเอง แล้วด่าด้วย คำหยาบพร้อมกับ พวกรวม 5 คน หน้าร้านของตนเอง หลังจากนั้นได้เกิดมีปากเสียงกันทั้ง 2 ฝ่าย ระหว่างสามีตนเองกับพ่อค้าหัวหมูทำให้เกิดการชกต่อยกันกลางตลาดนัด โดยมีพ่อค้าแม่ค้าร้านใกล้เคียงมาห้ามไว้ได้ แล้วจึงแจ้งจนท.มายังที่เกิดเหตุพร้อมนำตัวทั้งสองไปที่สภ.ลานสัก เพื่อนำทั้งสองไปพูดคุย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ สภ.ลานสัก ได้พบกับพ่อค้าทั้ง 2 ฝ่าย และพวกฝั่งพ่อค้าขายหัวหมูพะโล้ระหว่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำทั้งสองฝั่ง พร้อมกับไกล่เกลี่ยต่อมาทั้งสองฝั่งก็ยังเคลียร์กันไม่ลงตัว จนท.จึงเรียกสอบที่ละฝั่ง
ผู้สื่อข่าว จึงได้สอบถามกับพ่อค้าขายหัวหมูทราบชื่อ นายลาย อายุ 32 ปี เป็นคนจังหวัดชัยนาท ซึ่งมีอาชีพขายหัวหมู ใส้หมู ข้อหมูพะโล้ ออกขายตามตลาดนัดคลองถมทั่วไป ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองน้อยใจ เสียความรู้สึกที่ตนเองได้ยินเสียง นายสวัสดิ์ หรือพ่อค้าขายฝรั่งพูดจาไม่ถูก ที่จะไม่ให้ตนเองมาตั้งร้านขายของที่จุดดังกล่าว ที่เจ้าของจัดตลาดจัดให้ขาย ทั้ง ๆ ที่นายสวัสดิ์ไม่สิทธิ์ที่จะพูดเลยความจริงต้องตั้งขายตามที่เจ้าของที่จัดตลาดนัดจัดที่ให้ขาย พร้อมกับตนเองยอมรับว่าตนเองหัวร้อนเดินถือมีดมาที่หน้าร้านขายฝรั่งจริง คือตนเองต้องการแค่คำขอโทษจากพ่อค้าฝรั่ง ว่าไม่สมควรพูดว่าไม่ให้ตนเองมาตั้งร้านขายใกล้ แล้วก็อ้างว่าตนเองใช้โทรโข่งส่งเสียงดังใกล้ร้านของเค้า จนเกิดมีปากเสียงกันที่ร้านฝรั่ง แต่ฝ่ายพ่อค้าฝรั่งนั้นได้เข้ามากระชากดึงคอภรรยาของตนเองก่อน พร้อมกับมีการชกต่อยฝ่ายของตนเองกัน จนเป็นเหตุให้ทางฝ่ายของตนเองก็ได้ชลมุนชกต่อยกับพ่อค้าขายฝรั่งเช่นกัน พร้อมกับมีสร้อยทองคำข้อมือน้ำหนัก 2 บาท ขาดเสียหายในครั้งนี้ พร้อมกับตนเองก็เสียใจที่หมูพะโล้ของตนเองที่จะนำมาขายร้อยกว่าร้อยโล ต้องเน่าเสียหายไม่ได้ขายของในวันนี้ เนื่องจากต้องมาทะเลาะกันก่อนที่จะตั้งจัดร้านขาย ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจว่าร้านอื่นก็ใช้เครื่องขยายเสียงในการขายของเช่นกัน แต่ตนเองกลับใช้ไม่ได้
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวก็สอบถามอีกฝั่งเป็นพ่อค้าขายฝรั่งนายสวัสดิ์ หรือพ่อค้าขายฝรั่ง ได้เล่าว่าตนเองก็ได้รับบาดเจ็บที่หน้าผากกับขาเช่นกัน ยอมรับว่าตนเองเผลอปากพูดไปจริงที่ไม่ให้พ่อค้าขายหมู มาตั้งร้านใกล้ เนื่องจากมีการใช้เสียงโทรโข่งส่งเสียงดังมาก เนื่องจากใช้เสียงไม่เหมือนร้านอื่น ตนเองก็หวั่นจะปวดหู ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนเป็นเหตุให้มีการชกต่อยกัน
ล่าสุด ทั้งสองฝ่ายก็ยังคุยกันไม่ลงตัว ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะคุยกันได้ จนจนท.ได้กล่าวว่าคนเราต้องพึ่งพาอาศัยกัน พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องเจอกันอีก จะทะเลาะกันไปทำไม อาชีพพ่อค้าแม่ค้าด้วยกันต้องรักกัน เนื่องจากเป็นอาชีพที่ต้องยืนขายของในตลาดเหมือนกัน ต่อมาทั้งสองฝ่าย ก็เริ่มใจเย็น หลังจากนั้นก็เข้าใจเดินจับมือกัน ขอโทษกัน แต่ทางฝ่ายพ่อค้าขายหมู ขอให้รับผิดชอบในเรื่องการต่อเส้นข้อมือทองให้เพียงเท่านั้น ส่วนทางพ่อค้าขายฝรั่งก็ยินยอมชดใช้ในการต่อเส้นทองให้ในครั้งนี้ จนเรื่องราวจบด้วยดียอมจับมือกันดังกล่าว.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี