จังหวัดยื่นมือช่วยลูกจ้างสาวถูกนายจ้างกระทืบ ข่าวดีลูกยังมีสัญญาณชีพ
27 พฤษภาคม 2566 จากกรณีนายจ้างทำร้ายร่างกายลูกจ้างสาวอาการสาหัส จนหัวกะโหลกร้าวและแท้งลูก ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา จากเหตุที่ภรรยาของนาย ช. (นามสมมติ) ได้ชวนลูกจ้างสาวไปช่วยกันตามหาสามีที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่แถวถนนเลี่ยงเมือง-สนามบินแม่ฮ่องสอน แล้วพบว่าสามีนั่งดื่มกินอยู่ที่ร้านนี้จนมีปากเสียงกัน ก่อนที่ภรรยานาย ช.จะไปขอพักอยู่กับที่พักของลูกจ้างสาว
เมื่อนาย ช.กลับมาแล้วไม่สามารถเข้าบ้านได้ จึงตามไปและพบว่าภรรยาอยู่ที่บ้านเช่าของลูกจ้าง จนเกิดปากเสียงและทะเลาะวิวาทลงไม้ลงมือกัน ทำให้ลูกจ้างที่ช่วยเข้าห้ามปรามโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บไปด้วย
ต่อมาวันที่ 21 พฤษภาคม 2566 ลูกจ้างได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุมาดูแลค่ารักษาพยาบาล และเกรงว่าจะกระทบต่อลูกในครรภ์ที่มีอายุครรภ์ได้ 4 เดือนด้วย แต่กลับมีข่าวออกมาว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ล่าสุดนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประชุมร่วมกับหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม เจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงานจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 26 พ.ค.66 เพื่อพิจารณาในการให้ความช่วยเหลือกรณีลูกจ้างสาวรายนี้
ที่ประชุมได้มีการหารือทั้งในเรื่องของการดูแลรักษาด้านสุขภาพ ซึ่งขณะนี้ผู้เสียหายนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล การเยียวยาค่าตอบแทนแก่ผู้เสียหาย รวมถึงค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจากการวิเคราะห์เบื้องต้นในคดี หากลูกจ้างที่ถูกนายจ้างทำร้าย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ.2559
ทั้งนี้ มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน ตามแนวทางพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนที่จะได้รับ คือ 1. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาลไม่เกิน 40,000 บาท 2. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่ายกายและจิตใจไม่เกิน 20,000 บาท 3. ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติไม่เกิน 1 ปี และ 4. ค่าตอบแทนความเสียหายอื่นไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งได้แจ้งให้ญาติผู้เสียหายได้รับทราบในสิทธิที่จะได้รับค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แก่จำเลยในคดีอาญาแล้ว
นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนได้เชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือทั้งในเรื่องของคดี เรื่องดูแลสุขภาพ และเรื่องการเยียวยาแก่ผู้เสียหาย เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้เสียหายที่เป็นลูกจ้างและถูกนายจ้างทำร้ายร่างกาย เพื่อให้เขาได้รับสิทธิตามกฎหมายทุกประการ โดยเฉพาะการเยียวยาค่าตอบแทนจากการถูกกระทำให้ได้รับสิทธิตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเงินกองทุนในการฟ้องคดี นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในการดูแลเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่ได้รับบาดเจ็บเกิดจากความรุนแรง โดยเบื้องต้นได้ทราบจากทางแพทย์ที่ดูแลรักษาว่าเด็กในครรภ์ยังมีชีพจรอยู่ ไม่ได้รุนแรงตามที่ปรากฏในข่าว แต่ผู้เสียหายยังเกิดความวิตกกังวลและมีอาการเครียด ซึ่งแพทย์ยังคงดูแลอย่างใกล้ชิด และยังจะอยู่ในความดูแลของสถานคุ้มครองภาครัฐต่อไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
ส่วนในเรื่องคดีทางเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดได้สอบถามไปยังพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.บุญรับ ยุบล สารวัตรสอบสวนที่เข้ามาทำคดีแทน สรุปความได้ว่าคดีนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานโดยรอผลการตรวจจากแพทย์ว่าผู้เสียหายแท้งบุตรหรือไม่ และเหตุที่ไม่ได้ระบุความผิดฐานบุกรุกเคหสถานไว้ในบันทึกประจำวัน โดยระบุเพียงความผิดฐานทำร้ายร่างกายเท่านั้น เนื่องจากห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องกรรมสิทธิ์ของนายจ้างซึ่งให้ผู้เสียหายอยู่โดยไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งทางสำนักงานยุติธรรมจะได้ติดตามและให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายในการดำเนินคดีดังกล่าวต่อไป
-005