ความคืบหน้ากรณีเด็กวัย 13 ปี กระโดดลงน้ำมูลที่แพบ้านแก้งจมเสียชีวิต ผู้ประกอบการแพขายอาหารฝากให้นักท่องเที่ยวดูแลตัวเองให้ดี แพมีระเบียบก่อนลงเล่นน้ำให้สวมชูชีพหรือใช้ห่วงยาง
28 พฤษภาคม 2566 กรณีที่นักประดาน้ำมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน และนักประดาน้ำมูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ ช่วยกันลงค้นหาบุคคลสูญหายใต้น้ำ ที่แพอาหารชื่อแพครัวสามชาย ลำน้ำมูล บริเวณสะพานบ้านแก้ง ตำบลคูซอด อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งว่ามีเด็กกระโดดน้ำแล้วจมหายไป ทราบชื่อคือ เด็กชาย เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ชาวบ้านอำเภออุทุมพรพิสัย นักเรียนชั้นมัธยามศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง นักประดาน้ำค้นหาตั้งแต่เวลา 14.40 น.ของวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 จนกระทั่งเวลา 18.00 น.วันเดียวกันจึงพบร่างของเด็กชายเอ จมอยู่ใต้น้ำนำขึ้นบนแพพบว่าเสียชีวิตแล้ว
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.40 น.วันที่ 28 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายสำเนียง เป้งทอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 5 ตำบลสร้างปี่ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าของแพที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ทางผู้ประกอบการแพอาหาร ได้มีระเบียบในเรื่องของความปลอดภัยอยู่ คือถ้าจะลงเล่นน้ำต้องสวมชูชีพ หรือใช้ห่วงยางทุกครั้ง ห้ามใส่กางเกงขายาวลงเล่นน้ำโดยเฉพาะกางเกงยีนส์หนาๆ ซึ่งจะทำให้ไม่สะดวกต่อการเคลื่อนไหว
“ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะไม่ค่อยปฏิบัติตามกฎระเบียบ ซึ่งทางแพเราก็พยายามไปตักเตือนให้ปฏิบัติตามกฏระเบียบ แต่ก็ไม่ต้องการที่จะไปเข้มงวดกับนักท่องเที่ยวมากนักเดี๋ยวจะไม่พอใจเราก็อาจจะเสียลูกค้า ตนในฐานะผู้ประกอบการอยากฝากถึงนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวพักผ่อนรับประทานอาหาร ให้ดูแลตัวเองให้ดีจะที่สุด เสื้อชูชีพ ห่วงยางมีบริการอย่างเพียงพออยู่แล้ว และพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานตัวเล็กๆมาต้องดูแลเป็นพิเศษ อย่าให้คลาดสายตา” นายสำเนียง กล่าว.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี