ตำรวจเมืองลพบุรีตามรวบได้แล้ว คนร้ายสวมหมวกกันน็อคเต็มใบสีดำ สวมเสื้อคลุมแขนยาวบุกเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ พร้อมใช้อาวุธมีดทำครัวบุกจี้ชิงทรัพย์ถึง 2 สาขาในเวลาไล่เลี่ยกันระยะทางระหว่างร้านสะดวกซื้อห่างกัน 12 กิโลเมตรได้เงินไปกว่า 6 หมื่นบาท
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 29 พ.ค.66 ที่ผ่านมา ภายหลังรับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 2 แห่ง พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูการวิก โชติกเสถียร รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี จึงได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุร้านสะดวกซื้อดังกล่าว พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการดูกล้องวงจรปิดของทางร้านสะดวกซื้อ พร้อมเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.พัฒนานิคม และ กก.สส.ภ.จว.ลพบุรี ได้ร่วมกันสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายบำเพ็ญ อายุ 21 ปีชาว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ 92/2566 ในข้อหากระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ร้านสะดวกซื้อ 2 แห่งคือเซเว่น สาขาพัฒนานิคม ซอย 13 ริมถนนสายลพบุรี - วังม่วง หมู่ที่ 1 ต.ดีลัง และเซเว่น สาขาแยกนารายณ์ฮิลล์ ริมถนนพุแค - หล่มสัก หมู่ที่ 5 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักผู้ก่อเหตุพร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า แกรนด์ฟิลาโน่ สีเทา ทะเบียน หมวกกันน็อค เสื้อคลุมสีน้ำเงิน กางเกงขายาว และอาวุธมีดยาว 30 ซม.ที่ใช้ก่อเหตุรวมทั้ง เงินสดจำนวน 35,960 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการจี้ชิงทรัพย์ดังกล่าว
จากนั้น พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิทัศน์ จิตตวิทยานุกูล รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.ชยชัย นาธนกาญจน์ ผกก.สภ.พัฒนานิคม พ.ต.ท.ธนวัฒน์ กัญจนกาญจน์ รอง ผกก.ป.พร้อมชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.พัฒนานิคม
พล.ต.ต.อภิรักษ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหารายนี้ปกติทำงานอยู่ กทม.และช่วงนี้กลับมาบ้านที่ อ.พัฒนานิคม และต้องการเงินไปจ่ายหนี้ค่าซ่อมจักรยานยนต์ จึงไปดูข้อมูลข่าวในโลกโซเชียลและพบว่ามีการจี้ชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อตอนกลางคืนจะได้เงินง่ายและสะดวกต่อการหลบหนี จึงได้เอารูปแบบดังกล่าวมาใช้จี้ชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อถึง 2 แห่งในเวลาไล่เลี่ยกัน จากนั้นได้หลบหนีไปและนำเงินบางส่วนไปใช้ กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบและขอหมายจับจนเข้าจับกุมตัวได้ที่บ้านพักของคนร้ายดังกล่าว
ดังนั้น จึงขอเตือนผู้ประกอบการและพนักงานร้านสะดวกซื้อทุกแห่งว่าในยามค่ำคืนขอให้ระมัดระวังและป้องกันจุดล่อแหลมที่อาจเป็นความเสี่ยงให้มีการก่อเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะสาขาที่มีแต่ผู้หญิง ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่คนร้ายสามารถก่อเหตุได้อย่างสะดวก - 003