ธรรมวารี ขายกะเพราถาดละ 19 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักสงฆ์สวนธรรมวารี อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เปิดโรงครัวทำกะเพราสูตรโบราณไร้น้ำมันขายในราคาประหยัด เริ่มต้นเพียงถาดละ 19 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระญาติโยมในช่วงภาวะข้าวของราคาแพง ต้นทุนเก็บไว้หมุนเวียนซื้อวัตถุดิบ ส่วนกำไรนำไปต่อยอดทำบุญช่วยเหลือพัฒนาสังคม ทั้งยังเป็นการดึงดูดให้ญาติโยมได้หันมาเข้าวัดมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งหลังจากเปิดมาได้กว่า 2 เดือน ก็มีนักเรียน  นักศึกษา  และญาติโยมทั่วไปมารับประทานอย่างต่อเนื่อง  โดยกะเพราถาดที่ทางสำนักสงฆ์ทำขายนอกจากจะราคาประหยัดแล้ว  ยังเป็นสูตรโบราณไร้น้ำมันด้วย ซึ่งก็จะมีให้เลือกทั้งกะเพราหมู กะเพราเนื้อ กะเพราไก่  กะเพราทะเล และกะเพราหมูยอ ทุกถาดจะมีน้ำซุปแถมให้ด้วย ด้านนายสมร งามโพธิ์ศรี พ่อครัวประจำ “โรงครัวธรรมวารี” กล่าวว่า การเปิดครัวธรรมวารีขายกะเพราถาด ราคา 19 บาท เป็นแนวนโยบายของพระอาจารย์มหานรินทร์เทพนรินทร์โท หรือหลวงพ่อมหาน้อย หัวหน้าที่พักสงฆ์สวนธรรมวารี ซึ่งท่านได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่มีรายได้น้อย ให้ได้รับประทานอาหารในราคาประหยัด

หนุ่มพะเยาเพาะลูกอ๊อดขายรายได้งาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจักรกฤษณ์ สมวงศ์ อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 298หมู่ 3 บ้านดงเคียน ต.ห้วยยางขาม อ.จุน จ.พะเยา ลงมือเปิดฟาร์มกบจักรกฤษณ์ โดยใช้พื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ภายในบ้าน ทำบ่อกว่า 20 บ่อ เพื่อเพาะเลี้ยงลูกอ๊อดหรือลูกกบขาย ซึ่งกบที่เลี้ยงเป็นกบพื้นเมืองและกบสายพันธุ์ผสม โดยจัดจำหน่ายทางออนไลน์ อีกทั้งยังส่งขายตามตลาด ทั้งในจังหวัดพะเยาและนอกพื้นที่ โดยจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงฟาร์ม ซึ่งเริ่มต้นขายตั้งแต่ตัวละ 1 บาท จนถึงตัวละ 5 บาท อีกทั้งยังมีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาทถึง 100 บาท โดยธุรกิจนี้สามารถสร้างรายได้ปีละหลายแสนบาท ด้านนายจักรกฤษณ์ สมวงศ์ เจ้าของฟาร์มกบจักรกฤษณ์เล่าว่า ได้เพาะพันธุ์กบ หรือลูกอ๊อด ขายมากว่า 20 ปี โดยใช้พื้นที่ภายในบ้าน สร้างบ่อเลี้ยงกบจำนวน 20 บ่อ เพราะพันธุ์ลูกอ๊อดหรือลูกกบขาย และขายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ สำหรับกบที่นำมาเพาะพันธุ์ขายเป็นกบพื้นเมืองและกบสายพันธุ์ผสม ซึ่งจะเริ่มเพาะพันธุ์ขายตั้งแต่ลูกอ๊อด อายุ 1 เดือน จะขายตัวละ 1 บาท และ 2 เดือน จะขายตัวละ 2 บาท สำหรับพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ขายกิโลกรัมละ 80 บาทถึง 100 บาท

วอนหาเจ้าของ น้องหมารอมา2เดือน

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังริมถนน หมู่ 13 บ้านสวนใหม่ ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้พบกับชาวบ้านรายหนึ่งชื่อ ป้าน้ำค้าง ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ชอบเลี้ยงหมาได้เปิดเผยว่า ตัวป้าเองเห็นหมาตัวดังกล่าวเป็นเพศเมียมีปลอกคอสวมใส่อยู่มาชะเง้อเฝ้ารอดูเจ้าของที่เลี้ยงเค้ามาในช่วงเวลาใกล้เย็นและช่วงเช้าอยู่บริเวณหน้าริมถนนทุกวัน แต่ตัวป้าเองไม่ทราบว่าเป็นหมาของใคร และไม่ทราบว่าหมาตัวดังกล่าวหลุดล่วงตกมาจากรถกระบะหรือไม่ หรือมีใครนำมาปล่อยแถวบริเวณนี้ ซึ่งเป็นเวลากว่าสองเดือนแล้วก็ยังไม่มีเจ้าของมาตามหา ตัวป้าเองและชาวบ้านที่อยู่ใกล้ก็จะสังเกตเห็นหมาตัวดังกล่าวจะมายืนอยู่ริมถนน บางครั้งก็วิ่งตามรถไปแล้วก็กลับมาที่เก่า ซึ่งตัวป้าเองและชาวบ้านก็สงสารคอยเอาข้าวเอาน้ำมาให้กินอยู่เป็นประจำแต่ก็ยังไร้วี่แววที่เจ้าของจะมาตามหาจึงได้ถ่ายรูปหมาดังกล่าวช่วยกันลงโพสต์ตามหาเจ้าของให้มารับหมากลับบ้าน