อุตุฯ ประกาศเตือน ฝนกระหน่ำทั่วไทยทุกภาคสูงสุด 70% ของพื้นที่ จากอิทธิพลมรสุมพาดผ่านจากเมียนมามีผลถึง 10 มิถุนายน ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มโดยเฉพาะ “อีสาน- ตะวันออก – ใต้” ฝนตกหนักถึงหนักมาก

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง คลื่นลมแรงและฝนตกหนักถึงหนักมากมีผลกระทบถึงวันที่ 10 มิถุนายน 2566ระบุ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมชายฝั่งประเทศเมียนมา ลักษณะเช่นนี้ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 10 มิถุนายน

ขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประเทศจีนตอนใต้ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น มีฝนตกหนักบางแห่ง ฝนตกหนักมากบางพื้นที บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ดินโคลนถล่ม

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยายังพยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปใน 24 ชั่วโมงข้างหน้าเป็นรายภาคว่า ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ เช่นเดียวกับ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ทะเลมีคลื่นสูง 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ตั้งแต่จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ทะเลคลื่นสูง 2 เมตร บริเวณ ตั้งแต่จ.นครศรีธรรมราชลงไปทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ตั้งแต่จ.ภูเก็ตขึ้นมาทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ตั้งแต่จ.กระบี่ลงไปทะเลมีคลื่นสูง 2 เมตร

ส่วนภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจ.อุทัยธานี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และนครปฐม กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ฝนตกหนักบางแห่ง

ขณะที่หลายจังหวัดออกประกาศเตือนประชาชนให้ระวังฝนตกหนัก น้ำท่วม เกิดจากอิทธิพลของมรสุมที่มีกำลังแรงในระยะนี้ โดยนายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีเผยว่า ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงกับกรมอุตุนิยมวิทยา จึงประกาศเตือนพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังถึงวันที่ 11 มิถุนายน ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ศรีสวัสดิ์ ทองผาภูมิ และสังขละบุรี

เช่นเดียวกับ นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ออกประกาศเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยจากฝนตกหนัก โดยมี จ.แม่ฮ่องสอน ที่อยู่ในเขตเสี่ยงภัย จึงขอเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำเชิงเขา ที่ลาดลุ่มและริมลำห้วยสายต่างๆ ให้พร้อมรับมือน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน ย้ายสิ่งของมีค่าและสัตว์เลี้ยงไปอยู่บนที่สูง และเตรียมจัดชุดกู้ชีพฉุกเฉินของแต่ละอบต.ให้พร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนที่จ.ตรัง เกิดเหตุคลื่นน้ำทะเลกัดเซาะบ้านประชาชนและลมกรรโชกแรงพัดต้นไม้ล้มทับหลังคาบ้านพังเสียหาย ที่หมู่ 3 บ้านมดตะนอย ต.เกาะลิบง อ.กันตัง 2 หลัง โดยนายณัฐวัฒน์ ทะเลลึก ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.เกาะลิบง ออกสำรวจความเสียหาย และประสานขอความช่วยเหลือจากอบต.เกาะลิบง เร่งเข้าตรวจสอบช่วยเหลืออีกครั้ง