เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ที่ สภ.เมืองอุดรธานี นายเสริม อายุ 54 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สรวิศิษฏ์ มีเพียร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ว่า มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดเข้าไปลักเอาทรัพย์สินภายในห้องพัก เหตุเกิดที่บริเวณเพิงพักก่อสร้างริมหนองบัว เขตเทศบาลนครอุดรธานี อยากให้ตำรวจติดตามตัวเอาข้าวสารมาคืนด้วย เพราะไม่มีข้าวจะกินทำงานแล้ว จากนั้น ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
นายเสริม เล่าว่า ตัวเองเป็นชาวนครราชสีมา มาทำงานก่อสร้างบ้านหรูแห่งหนึ่งที่ จ.อุดรธานี โดยเดินทางมาพร้อมครอบครัวและลูกน้องเกือบ 20 คน เมื่อมาถึงอุดรเถ้าแก่ก็เช่าพื้นที่ให้ จากนั้นก็พากันสร้างแคมป์คนงานขึ้นมาติดกับสวนสาธารณะหนองบัว โดยทุกวันจะเข้าไปทำงานก่อสร้างที่ชุมชนหนองเหล็ก ซึ่งใกล้ๆ แคมป์คนงานแถวนั้น เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่พวกเรากำลังทำงานปกติโดยไม่ได้กลับบ้านในช่วงพักเที่ยงที่แคมป์ คนงาน ประกอบกับฝนตกเลยให้ลูกเขยกลับมาที่แคมป์เพื่อปิดกระจกรถยนต์เนื่องจากรถยนต์เปิดกระจกแง้มไว้
นายเสริม บอกอีกว่า เมื่อลูกเขยมาถึงได้เข้าไปเอากุญแจในห้อง แต่เมื่อเข้าไปในห้องพบว่าห้องผิดสังเกตมีข้าวสารหกเต็มพื้นห้อง และข้าวของเครื่องใช้ถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย จากนั้นลูกเขยก็กลับไปดูที่ห้องตัวเองก็พบว่าถูกรื้อค้นเช่นกัน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีข้าวสารจำนวน 1 กระสอบ จำนวน 70 กก. , โทรศัพท์ยี่ห้อซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง , เงินในกระปุกออมสิน ประมาณ 1,400 บาท , พระเครื่องพระพิฆเนศ พร้อมสร้อยทับทิม จำนวน 1 ชุด ได้หายไป
ส่วนตัวรู้สึกเสียใจที่มีคนร้ายเข้ามาขโมยลักทรัพย์ตนเอง โดยเฉพาะข้าวสารที่เราหอบเอามาจาบ้านด้วย หมดกันข้าวสารที่จะเอาไว้กัน ลำพังค่าแรงจะเอาไปซื้อข้าวสารใหม่ก็ไม่เหลืออะไรแล้ว อีกอย่างพวกเราก็เป็นชาวบ้านหาเช้ากินค่ำและที่สำคัญเราเป็นคนต่างถิ่น สาเหตุที่ตนไม่ได้มาแจ้งความเพราะตนรอคุยกับเถ้าแก่ เพราะเรามาจากทางไกลเป็นคนแปลกถิ่นเรามาทำมาหากินและไม่อยากมีศัตรู ฝากถึงคนร้ายหากว่า ทรัพย์สินอื่นๆ เอาไปได้แต่ข้าวสารไม่น่าเอา มันไม่ดี แต่ของที่หายไปแล้วตนก็ไม่ได้เรียกร้องอยากจะได้คืน อยากให้สังคมคนอุดรรู้ว่าที่นี้มีขโมยและขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความเมตตากรุณาช่วยติดตามคนร้ายดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
- 006