วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ประณามพ่อตาโหดฆ่าจุดไฟเผาลูกสะใภ้ 'ยาย'เข่าทรุดรับร่างหลานสาว วอนประหารชีวิต

ประณามพ่อตาโหดฆ่าจุดไฟเผาลูกสะใภ้ 'ยาย'เข่าทรุดรับร่างหลานสาว วอนประหารชีวิต

วันศุกร์ ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2566, 23.01 น.
Tag : พ่อตาโหด ฆ่าเผาลูกสะใภ้
  •  

ปริ่มจะขาดใจตายตาม!!! ยายเข่าทรุดรับร่างไร้วิญญาณหลานสาววัย 29 ปี กลับบ้านเกิด หลังถูกพ่อตาวัย 60 ปี ฆ่าโหดเหี้ยมก่อนจุดไฟเผา ขณะที่แม่ยังไม่กล้าเปิดดูศพลูก รุมประณามคนก่อเหตุเป็นสัตว์ไม่ใช่คน วอนให้รับโทษประหารชีวิต หลังพ่อตาโหดเพิ่งพ้นโทษมาได้แค่ 3 เดือน

เมื่อเวลา 20.00 น. วันนี้ 9 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักสงฆ์กันตังใต้ ต.กันตังใต้ อ.กันตัง จ.ตรัง นางมณทิพย์ เกตุแก้ว อายุ 52 ปี ผู้เป็นแม่ และบรรดาญาติพี่น้อง ได้นำร่างของ น.ส.นรมล เกตุแก้ว อายุ 29 ปี ชาว ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง เดินทางมาด้วยรถยนต์กระบะจากตัว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อมาทำพิธีบําเพ็ญกุศลศพที่วัดดังกล่าว โดยเมื่อเคลื่อนศพที่ห่อด้วยผ้าดิบขาวมาถึงศาลา ได้มีบรรดาญาติพี่น้องร่วม 30 ชีวิตยืนรอรับ ก่อนจะมีการทำพิธีสงฆ์ และการนำลงหีบโลงศพ ท่ามกลางญาติพี่น้องต่างร้องไห้ระงม หนึ่งในนั้นคือคุณยายของผู้เสียชีวิต เมื่อเห็นศพต่างกับหลั่งน้ำตาร้องไห้เสียใจ และได้ล้มฟุบลงไปกับพื้น เนื่องจากผู้เป็นยายได้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กๆ


สำหรับการเสียชีวิตของน.ส.นรมล เกตุแก้ว ได้ถูกนายเล็ก ขุนรัตน์ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นพ่อของสามี ก่อเหตุใช้มีดพร้าฟันเข้าบริเวณขาทั้งสองข้าง ก่อนจะปิดล็อคประตูไม่ให้ลูกสะใภ้ออกมาด้านนอก จนเกิดเพลิงไหม้ขนำคลอกร่างลูกสะใภ้ดำเป็นตอตะโกเสียชีวิตคาซากกองเพลิงดัง ที่บ้านเลขที่ 191/1 หมู่ 4 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 8 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ในระหว่างก่อเหตุผู้ก่อเหตุได้มีอาการมึนเมาสุราด้วยเช่นกัน

นางมณทิพย์ เกตุแก้ว อายุ 52 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวว่า ถ้าถามถึงความรู้สึก แม่พูดไม่ออก ไม่รู้จะพูดยังไง ความเป็นแม่ความรู้สึกของการเป็นแม่ ถ้าเกิดว่าเค้ารับรู้ได้ โทษนี้อยากให้ประหารจริงๆ ถ้าคนร้ายยังออกมา ก็ยังคงใช้นิสัยอย่างนี้ เพราะเขาก็เพิ่งออกจากเรือนจำได้แค่สามเดือน แล้วมามีพฤติกรรมก่อเหตุอย่างนี้ ไม่ว่าแม่คนไหนก็รับไม่ได้ ในคดีที่คนร้ายติดเรือนจำ แม่ก็ไม่ทราบว่าติดในคดีอะไรมาเหมือนกัน ที่ผ่านมาไม่ได้ติดต่อกับลูกสาวประมาณ 1 ปี ลูกสาวไปอยู่บ้านสามี ประมาณ 4-5 ปี ประมาณปีกว่าไม่ได้ติดต่อกลับมาหาแม่ ก่อนหน้านี้ลูกได้กลับมาบ้าน เพราะต้องมาเลือกตั้ง อบต. ก็ไม่ได้พูด หรือเล่าอะไรว่ามีปัญหาอะไรกับแฟนหรือกับพ่อตาก็ไม่เคยพูด ปกติเป็นคนเงียบ เก็บกด ไม่ค่อยอยากจะระบายกับใคร ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ทราบเลยว่าปัญหาเกิดจากอะไร แต่ฟังจากคำเล่าที่คนใกล้ตัวพูด เขาว่าพ่อตาอยากจะฆ่าให้ตายตั้งนานแล้ว แต่ไม่ทราบสาเหตุด้วยว่าเขาเคืองอะไรกันมาหรือว่าทะเลาะอะไรกันมากับพ่อตา  หลังจากเกิดเหตุก็ไม่ได้พูดคุยกับลูกเขยเพราะไม่รู้จะพูดอะไรกันแล้ว ให้มันจบแค่ลูกเราพอแล้ว

"เคสนี้ก็อยากให้ถึงขั้นประหารชีวิต เพราะคิดว่าพ้นโทษออกมาแล้วก็คงใช้พฤติกรรมเช่นนี้ เพราะว่าเขาเคยติดคุกมาก่อน แต่ไม่น่ามาทำถึงขั้นฆ่ากันตายมันไม่ใช่นิสัยของคน แต่เป็นนิสัยของ สัตว์ ไม่ใช่คน ไม่ใช้มนุษย์ที่ทำกันได้อย่างนี้ โหดร้ายมาก ถึงแม้ว่าคนเราทะเลาะกันก็ไม่น่าถึงขั้นลงมือฆ่ากัน"นางมณทิพย์ กล่าว

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นผู้ก่อเหตุรับสารภาพไม่หมด รับเพียงว่า ว่าไฟคลอกเอง เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร ไม่ได้รับว่าจุดไฟเผา แต่คนในละแวกที่เกิดเหตุข้างๆบ้าน บอกว่าเป็นการจุดไฟเผา ที่ฟังข่าวจากเพื่อนบ้านเล่ามา แม่ก็ไม่ได้ดูข่าวด้วย เป็นไปไม่ได้ที่ไฟฟ้าจะลัดวงจรนอกจากว่าจุดไฟเผา มันทำอย่างโหดร้ายทารุณ 

สำหรับสภาพศพเริ่มจากตีก่อน ตีเสร็จใช้มีดพร้าฟันที่ขา จากนั้นผู้ตายวิ่งเข้าบ้าน แล้วพ่อตาได้เอากุญแจล็อกประตูไว้ขังไว้ในบ้านจากนั้นก็วางเพลิง สภาพศพลูกตอนนี้ยังทำใจที่จะดูไม่ได้ แม่มีลูก 5 คน พ่อเดียวแม่เดียวกัน ผู้ตายเป็น ลูกสาวคนที่ 3 นิสัย เงียบ ร่าเริง แต่ถ้ามีปัญหาอะไรมักไม่ค่อยคุย บางทีก็จะพูดคุยกับน้องบ้าง  แต่รู้สึกว่าจะเก็บกดมากกว่า แต่แม่ยืนยันว่าลูกสาวไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง

"ในส่วนของผู้ก่อเหตุ ไม่เคยเจอไม่เคยพูดคุย กับพ่อตาก็ไม่เคยรู้จักด้วยว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ตั้งแต่คบหากับลูกสาวประมาณ  7-8 ปี ไม่เคยรู้หน้าตาพ่อเป็นยังไง บ้านก็ไม่ทราบว่าอยู่ตรงไหนและไม่เคยไปด้วย"แม่ผู้ตาย กล่าวอย่างสุดเศร้า-001

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

สกู๊ปพิเศษ : ถอดบทเรียนแก้ปัญหาการพนันในสถานประกอบการไทย

‘สมชัย’แนะ‘สว.’ไปตามหมายเรียก ดึงสติ‘ศักดิ์’กินไม่ได้ ‘โทษอาญา-ตัดสิทธิ’นั่นของจริง

ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ 11-17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

คุยกัน7วันหน : โป๊ปเลโอที่ 14 จะนำพาคริสตจักรคาทอลิกไปทิศทางใด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved