ตำรวจภูธรสืบฯภาค 4 จับหนุ่มชาวลาวได้ทันควันหลังใช้ปืนปลอมชิงทรัพย์ร้านทองใน สปป.ลาว หลังสืบทราบหนีกบดานในไทยพบของกลางทองรูปพรรณ 8 เส้น เงินสด 300,020 บาท สารภาพนำทองไปขาย 3 เส้น เตรียมหนีเข้ากรุงเทพฯ แต่ไม่รอดโดนจับได้ขณะเตรียมเก็บกระเป๋าเดินทางหนี
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 10 มิ.ย.66 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย ทางเจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 นำโดย พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 ,พ.ต.อ.กฤชมงกุฏ บูรณะภักดี ผกก.ตม.จว.หนองคาย, พ.ต.ท.สมภพ กองสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน1ฯ, พ.ต.ท.เอกวิทย์ บาดาล รอง ผกก.สืบสวน1ฯ, พ.ต.ท.สืบวงค์ สุดหนองบัว สว.กก.1 บก.สส.ภ.4 ได้ร่วมกันส่งมอบตัวท้าวสิระสอน อายุ 27 ปี สัญชาติลาวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สปป.ลาว ซึ่งนำโดย พ.ท.ไซซะนะ พูสะหวัน รองหัวหน้ากรมตำรวจสืบสวนสอบสวน สปป.ลาว และคณะที่เดินทางมารับตัวพร้อมของกลางทองรูปพรรณ 8 เส้น เงินสด 300,020 บาทไปดำเนินคดีใน สปป.ลาว
จากการสืบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับการประสานงานจาก พ.ท.สมเพชร สุโพธิ์ทิพย์ ตำแหน่งหัวหน้าแผนกสืบสวนคดีอาญากรมตำรวจสืบสวนสอบสวน กรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว ว่าได้มีบุคคลซึ่งเป็นชายสัญญาติลาวชื่อ "ท้าวสิระสอน คำสุขสวัสดิ์" ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองหลายครั้งในพื้นที่ สปป.ลาว แล้วหลบหนีเข้ามาภายในประเทศไทย จึงได้ประสานมายังตำรวจภูธรภาค 4 ติดตามจับกุม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่าบุคคลดังกล่าวมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปพบชายตำหนิรูปคล้ายกันกับท้าวสิระสอน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบสอบถามถึงชื่อ-นามสกุลทราบว่าชื่อ ท้าวสิระสอน คำสุขสวัสดิ์ อายุ 27 ปี สัญชาติลาวจริง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางของท้าวสิระสอน พบว่าไม่ได้ขออนุญาตอยู่ภายในประเทศตามที่กฎหมายกำหนดจึงได้สอบถามรายละเอียดในการก่อเหตุชิงทรัพย์ ร้านทองที่ สปป.ลาว ท้าวสิระสอน ยอมรับว่าก่อเหตุจริงโดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าตนใช้ปืนปลอมไปก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา กลางตัวเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว จากนั้นก็หลบหนีข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ เข้ามาฝั่งไทยก่อนจะเดินทางไป จ.ขอนแก่น ทองที่ได้มาได้นำไปขายแล้ว 3 เส้นได้เงินมาประมาณ 3 แสนกว่าบาทซึ่งใช้ไปบางส่วนแล้วและมาถูกจับกุมได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดของกลางซึ่งเป็นทองรูปพรรณจำนวน 8 เส้น เงินสด 300,020 บาทไว้เป็นหลักฐานก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขอนแก่น ดำเนินคดี และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ก่อนประสานทางการ สปป.ลาว รับมอบตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ส่งมอบให้ทางการลาวเพื่อนำตัวกลับไปดำเนินคดีตามกฎหมายของ สปป.ลาว ทั้งนี้ด้วยความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ราชอาณาจักรไทยและ สปป.ลาว ซึ่งได้มีการประสานงานกันด้วยดี มาโดยตลอด จนสามารถนำไปสู่การจับกุมได้ในครั้งนี้ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี