ผู้ว่าฯกาญจนบุรีสั่งตรวจสอบโรงเรียนดังหลังตกเป็นข่าวลูกค้าเข้าพักถูกย่องฉกทรัพย์สูญกว่า 7 แสนบาท ด้าน ผจก.โรงเรียนเผยโรงแรมแห่งนี้ซื้อมาจากเจ้าของเดิมได้ 4 ปี หากตำรวจผลพิสูจน์พบทางโรงแรมผิด พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้
จากกรณีนายเอษณะ หรือปอ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี และ น.ส.ปาณิศา หรือปลา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 สองสามีภรรยาพร้อมลูกสาววัย 7 เดือน ชาวอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เดินทางมาทำธุระส่วนตัว แล้วเข้าพักที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 26 เม.ย.66 เมื่อตื่นนอนในช่วงเช้าของวันที่ 27 เม.ย.ประกฎว่าทรัพย์สินประเภทสร้อยคอทองคำ รวมทั้งพระเลี่ยมทอง รวม 11 รายการ มูลค่า 710,000 บาทหายไป ขณะที่นายปริญญา (ขอสงวนนามสกุล) ที่พักอยู่ห้องติดกันเงินสดหายไปจำนวน 7,000 บาทโดยผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรีเมื่อวันที่ 27 เม.ย.66 แต่คดีก็ยังไม่คืบหน้า ผู้เสียหายจึงร้องเรียนสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมาตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (19 มิ.ย.66) ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้นายปกรณ์ กรรณวัลลี ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายเอกศักดิ์ เศรษฐพิศาล จ่าจังหวัดกาญจนบุรี นายอนุสรณ์ สง่าแสง ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองกาญจนบุรี นางนันทกร บุญสร้อย ปลัดอำเภอชำนาญการ อำเภอเมืองกาญจนบุรี ร่วมกับ ว่าที่ พ.ต.ต.ธนภัทร ทองไพบูลย์ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 กาญจนบุรี กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองปากแพรก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางไปตรวจสอบโรงแรมที่เกิดเหตุ โดยมีผู้จัดการโรงแรมให้การต้อนรับพร้อมนำพาคณะเจ้าหน้าที่เดินสำรวจห้องพักที่เกิดเหตุ คือห้อง วีไอพี 101 และ วีไอพี 102 สำหรับโรงแรมดังกล่าวมีห้องพักทั้งหมด 38 ห้องจากการตรวจสอบปรากฏว่าจุดที่เป็นกระจกหน้าต่างของโรงแรมด้านนอกนั้นทางโรงแรมได้เชื่อมกลอนหน้าต่างติดกันแล้ว จึงไม่สามารถเปิดดูได้ และนอกจากนี้ทางโรงแรมยังได้นำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งเอาไว้หลังห้องพักอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้จัดการโรงแรมให้ข้อมูลเบื้องต้นกับนายปกรณ์ กรรณวัลลี ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี และนายเอกศักดิ์ เศรษฐพิศาล จ่าจังหวัดกาญจนบุรีว่า โรงแรมแห่งนี้ซื้อมาจากเจ้าของเดิมได้ประมาณ 4 ปี ส่วนรูปแบบของโรงแรมที่เราซื้อมานั้นมันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ส่วนกรณีที่เป็นข่าวว่าช่อหน้าต่างที่มีไว้สำหรับหลบหนีเราได้ข้อมูลมาจากพนักงานของโรงแรมชุดแรกในช่วงที่เราซื้อมาและเราก็เข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด ถามว่าช่องหน้าต่างดังกล่าวตั้งแต่เราซื้อโรงแรมมานั้นเราเคยใช้งานหรือไม่นั้นตอบได้เลยว่าเราไม่เคยใช้งานและไม่เคยมีปัญหาอะไรมาก่อน
ถามว่าแล้วมีเอาไว้ทำอะไร เรามีเอาไว้ใช้ในช่วงเวลาที่พนักงานเข้ามาทำความสะอาด เพราะภายในห้องพักมีพัดลมระบายอากาศเพียงตัวเดียว เมื่อเปิดหน้าต่างก็จะสามารถระบายอากาศได้ดี ซึ่งห้องพักทุกห้องจะมีหน้าต่างเหมือนกันทุกห้อง แต่ก็ต้องยอมรับว่า เราไม่ได้แจ้งให้ลูกที่เข้ามาพักทราบว่ามีหน้าต่างอยู่ และจากการได้ตรวจสอบข้อมูลของหน้าต่างทางอินเตอร์เนต ก็ทราบว่าหน้าต่างดังกล่าวมีเอาไว้ในยามฉุกเฉิน เช่นอาจจะมีคนที่มาพักฆ่าตัวตาย หรือเกิดการทะเลาะวิวาทกัน หรือในบางครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะต้องการมาจับคนร้ายที่หลบหนีมาพักภายในห้อง ซึ่งก็สามารถช่วยได้ แต่อย่างไรก็ตามตั้งแต่เราซื้อโรงแรมมาได้ประมาณ 4 ปี หน้าต่างดังกล่าวไม่เคยใช้งานมาก่อนเลย แต่หลังจากที่เป็นข่าวออกไปทางโรงแรมได้แก้ไขด้วยการเชื่อมเพื่อปิดล็อกหน้าต่างด้านนอกเพื่อไม่ให้สามารถเปิดปิดได้ รวมทั้งนำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งและติดไฟสว่างเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีผู้เสียหายไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เรื่องนี้ทางโรงแรมจะรับผิดชอบอย่างไร ผู้จัดการโรงแรมตอบว่าเรื่องนี้ทางเราให้ความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการนำพนักงานโรงแรมไปตรวจสอบหรือเจ้าหน้าที่ต้องการเข้ามาตรวจสอบภายในโรงแรม ทุกอย่างทางเรายินดีที่จะให้ความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง ส่วนเรื่องความเสียหายนั้นทางโรงแรมขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จเสียก่อน หากผลตรวจสอบออกมาว่าทางโรงแรมต้องรับผิดชอบ ทางโรงแรมก็ยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหาย
ด้านนายเอกศักดิ์ เศรษฐพิศาล จ่าจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าช่องหน้าต่างลับที่เป็นข่าวน่าจะมีทุกห้องตามที่เป็นข่าวจริง ซึ่งเราจะขอตรวจสอบแบบแปลนของโครงสร้างอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพราะหากมีช่องดังกล่าวจริง ซึ่งทางโรงแรมเองไม่ได้แจ้งให้ผู้เข้าพักทราบก่อน และช่องดังกล่าวนั้นสามารถเปิดจากด้านนอกเข้ามาภายในห้องพักได้ ซึ่งมันขัดกับ พ.ร.บ.โรงแรมและกฎของกระทรวงที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความปลอดภัยของแขกผู้เข้าพัก
"ตรงนี้ทางจังหวัดขอตรวจสอบแบบแปลนของโรงแรมก่อนว่าการก่อสร้างโรงแรมตรงตามแบบหรือไม่ ถ้าการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบแปลน ก็จะต้องถูกดำเนินการตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ก็จะให้พนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารสั่งให้แก้ไขให้ตรงตามแบบ ส่วนในเรื่องของการเปรียบเทียบหรือการดำเนินคดีก็จะเป็นหน้าที่ของพนักงานท้องถิ่น ส่วนเรื่องของ พ.ร.บ.โรงแรม ทางเราจะสั่งการให้ทางโรงแรมทำการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด หากไม่แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด ก็จะสั่งให้หยุดดำเนินกิจการต่อไป" - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี