ฟันเปรี้ยง‘แยกดินแดน’!ตั้งทีมไล่หลักฐานเช็คบิล เปิดความเคลื่อนไหวขบวนการ
21 มิถุนายน 2566 จากกรณีมีการเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมของขบวนการนักศึกษาแห่งชาติปาตานี มีการออกแบบจำลองลงคะแนนบัตรประชามติแยกอิสระ ก่อนที่จะมีการเปิดเวทีเสวนาทางวิชาการหัวข้อการกำหนดอนาคตตัวเอง จนกลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อหน่วยความมั่นคงกลับมองเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายมาตราหนึ่งของรัฐธรรมนูญไทย จึงอาจมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่มีการออกมาเคลื่อนไหวของนักศึกษา และองค์กรภาคประชาสังคม เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เกี่ยวกับเหตุกรณีดังกล่าวเป็นเพียงแค่จำลองแบบสอบถาม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ให้สัมภาษณ์ว่า สิทธิและเสรีภาพเป็นสิ่งหนึ่งที่ปวงชนชาวไทย สามารถที่จะกระทำได้ และเป็นสิ่งที่ภาครัฐให้การส่งเสริมสนับสนุน สิทธิขั้นพื้นฐานของพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม สิทธิและเสรีภาพต้องไม่ล้ำสิทธิ์ของผู้อื่น และต้องไม่ละเมิดต่อกฎหมาย ฉะนั้นในการเคลื่อนไหวแสดงออกทางความคิดหรือแสดงออกทางการเมืองที่อยู่ภายใต้หลักกฎหมาย ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ปวงชนชาวไทยทุกคนสามารถกระทำได้ แต่เมื่อมาดูถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคนสะท้อนว่าเป็นงานทางวิชาการ เป็นการจำลองสถานการณ์
“แต่หากมองว่าเป้าหมายของการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงมาตลอด 19 ปีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเป้าหมายคืออะไร คงไม่แค่เพื่อทดลองปฏิบัติ และคงไม่มีเป้าหมายเพื่อสนทนาทางวิชาการ แต่เป้าหมายที่เขาต้องการคือการแบ่งแยกดินแดน โดยมีการเคลื่อนไหวมาโดยลำดับ ไม่เฉพาะการเคลื่อนไหวด้านความรุนแรงเท่านั้น แต่อีกด้านที่สังคมมองไม่เห็น คือการต่อสู้ทางการเมือง การต่อสู้ทางความคิด” พลตรี ปราโมทย์ กล่าว
พลตรี ปราโมทย์ กล่าวว่า เพราะฉะนั้นแนวทางและบทบาทในการดำเนินงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบหลักในการแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกมิติ ทั้งด้านความมั่นคง การพัฒนา และการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในพื้นที่โดยการใช้มาตรการทางกฎหมาย จึงจำเป็นจะต้องเข้าดำเนินต่อทุกการกระทำที่เข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมาย
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยนโยบายของแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำให้ใช้ทั้งหลักนิติศาสตร์และหลักรัฐศาสตร์ภายใต้ความเข้าใจซึ่งกันและกัน ด้วยความระมัดระวังและ รอบคอบที่สุด และให้อยู่ในอำนาจหน้าที่ทางกฎหมาย ที่จะต้องดำเนินการด้วยความเสมอภาค เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการทางด้านกฎหมายขึ้น และมีการประชุมกันหลายครั้ง เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินคดีต่อผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดต่อไป
พลตรี ปราโมทย์ กล่าวถึงประเด็นการถอนกำลังทหารภายในปี 2570 และ การลดการใช้กฎหมายเพื่อความมั่นคง ว่า จริงๆ แล้วการถอนกำลังทหารออกนอกพื้นที่ ได้มีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งจะเห็นว่าในระยะแรกของการเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงได้มีทหารจากกองทัพภาคที่ 1 , กองทัพภาคที่ 2 และ กองทัพภาคที่ 3 มาช่วยในการดูแลพื้นที่ แต่ในปี 2559 เป็นต้นมา ได้มีการถอนกำลังเหล่านั้นกลับไปเหลือเพียงกำลังจากกองทัพภาคที่ 4 โดยกองพลทหารราบที่ 15 และได้ดำเนินการปรับลดอัตราลงเรื่อยๆ ปัจจุบันเหลือกำลังที่ปฏิบัติงานในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เพียง 49,995 อัตรา
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี