กทม.ออกแนวทางปฏิบัติทรงผม-เครื่องแบบนักเรียนในสังกัด ใส่ชุดอะไรก็ได้อย่างน้อย1วัน/สัปดาห์ ให้เขตเรียกประชุมคกก.รร.-ผู้ปกครอง-นร.ร่วมกำหนด

วันที่ 28 มิถุนายน 2566 ที่โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ เขตบางเขน  นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังกรุงเทพมหานครมีประกาศเรื่องแนวทางการแต่งกายของนักเรียนโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครและ แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับทรงผมของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร โดย

นายศานนท์ กล่าวว่า  ก่อนหน้านี้ กทม.ได้ออกประกาศเรื่องสิทธิเด็ก และชุดลูกเสือ ไปแล้ว ส่วนเรื่องทรงผม และเครื่องแบบเนื่องจากมีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องหลายส่วนจึงใช้เวลานานก่อนจะมีประกาศแนวทางปฏิบัติซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และไม่เกินระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการที่มีออกมาก่อนหน้านี้  ขณะนี้คุยไปแล้วหลายรอบ ตกผลึกแล้ว หัวใจของแนวทางนี้คือเรื่องสิทธิมนุษยชนที่อยากให้เด็กไปโรงเรียนอย่างมั่นใจ ถูกสุขอนามัย และการลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง  ปัจจุบันได้เงินอุดหนุนจากรัฐปีละ 2 ชุด แนวทางคือ มีอย่างน้อย 1 วันในสัปดาห์ที่นักเรียนจะใส่ชุดอะไรก็ได้ สิ่งสำคัญคือให้รักเรียนได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย โดยเป็นแนวทางปฏิบัติในทุกโรงเรียนสังกัดกทม. ซึ่งหลังจากนี้ผู้อำนวยการเขตจะแจ้งเรื่องดังกล่าวให้กับโรงเรียนในสังกัดทราบและจะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา หรือคณะกรรมการโรงเรียนมาพูดคุยร่วมกัน โดยมีผู้ปกครองและตัวแทนนักเรียนมาคิดร่วมกัน ทำให้แต่ละโรงเรียนอาจกำหนดไม่เหมือนกันได้ เพราะบางโรงเรียนก็มีการสอนศาสนาด้วย

"สำหรับเรื่องทรงผม หัวใจหลักคือการไม่ริดรอนสิทธิเด็ก แต่ต้องเรียบร้อย เหมาะสม ถูกสุขอนามัย ส่วนชุดไปรเวทที่ให้ใส่สัปดาห์ละ1 วันนั้นจะใส่ชุดอะไรมาก็ได้ตามที่เด็กนักเรียนต้องการเช่น ชุดนักเรียนเหมือนเดิม ชุดพละ  หรือชุดอื่นๆ ที่เรียบร้อยเหมาะสม ไม่ได้เป็นการบังคับแต่เป็นการเข้ามามีส่วนร่วมและหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน " รองผู้ว่าฯศานนท์ กล่าว

ขณะที่ นายชัชชาติ ระบุว่า “สุดท้ายในการดำเนินการตามแนวทางปฏิบัตินี้ ก็จะต้องมีการประเมิน ซึ่งเราพร้อมที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น เราต้องกล้าทำในสิ่งต่างจากเดิมบ้างเพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนช่วยกันคิด แต่เราก็มีกรอบมีกติกาอยู่ มีการประเมิน สุดท้ายถ้าดีก็ทำต่อ แค่ถ้ามีต้องปรับปรุงเราก็ปรับปรุง กทม.ยินดีรับคำติชม”

ทั้งนี้ สำหรับแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับทรงผมของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ได้มีออกมาในช่วงวันที่ 23 มิถุนายน 2566 โดยเป็นบันทึกข้อความ ถึงผู้อำนวยการเขตระบุว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ออกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ส่งผมของนักเรียนพ.ศ 2563 พ.ศ 2566 ประกาศณวันที่ 16 มกราคม 2566 นั้น เพื่อเป็นการเคารพสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนักเรียนจึงให้โรงเรียนจัดทำข้อกำหนดฯ ให้นักเรียนไว้ทรงผมได้อย่างอิสระบนพื้นฐานสุขอนามัยที่ดีสะอาดส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจจากนั้นให้นำไปประชาสัมพันธ์ให้ทราบเป็นการทั่วไปก่อนนำไปประกาศใช้ โดยในกรณีมีนักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวได้ให้โรงเรียนรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียนผู้ปกครองเพื่อทำความเข้าใจและตกลงร่วมกันแต่ห้ามไม่ให้มีการดำเนินการในลักษณะที่จะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพทางร่างกายและจิตใจของนักเรียนเช่นการตัดผมทำให้อับอาย

ส่วนแนวทางการแต่งกายของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร นั้น ระบุว่า ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 ที่กำหนดให้ สถานศึกษาใดจะกำหนดให้นักเรียนแต่งเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาติ นักศึกษาวิชาทหาร หรือแต่งชุดพื้นเมืองฯลฯ ให้เป็นไปตามที่สถานศึกษากำหนด โดยคำนึงถึงความประหยัดและเหมาะสม เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง จึงได้ให้โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครจัดทำข้อกำหนดให้นักเรียนแต่งกายด้วยชุตใดก็ได้ที่ไม่เป็นการบังคับ อย่างน้อยหนึ่งวันต่อสัปดาห์ โดยให้นักเรียนเป็นผู้มีส่วนร่วมในการกำหนด จากนั้นให้นำไปประชาสัมพันธ์ให้ทราบเป็นการทั่วไปก่อนนำไปประกาศใช้ โดยในกรณีที่มีนักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวได้ ให้เป็นไปตามความประสงค์ของนักเรียนผู้นั้นที่จะสวมชุดนักเรียน ชุดพละ หรือชุดอื่นใดที่โรงเรียนกำหนดให้มีไว้อยู่แล้ว แต่ห้ามไม่ให้มีการดำเนินการในลักษณะที่จะกระทบต่อสิทธิสรีภาพทางร่างกายและจิตใจ รวมทั้งให้คำนึงถึงอัตลักษณ์ ความหลากหลาย ความเชื่อทางศาสนา และเพศวีถีของนักเรียน