ผู้สื่อข่าวรายงายว่า นายดำรง ปลั่งกลาง เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่าขณะนี้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มมีการเพาะปลูกข้าวแล้ว ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเริ่มมีฝนตกลงมาตั้งแต่เดือน พ.ค. ซึ่งตอนนี้มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปี 2566 แล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ว่าข้อเท็จจริงเกษตรกรมีการเพาะปลูกประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว เนื่องจากว่าการขึ้นทะเบียนเกษตรกรต้องปลูกก่อน 15 วัน จึงมาขึ้นทะเบียน ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ มีพื้นที่ปลูกข้าว 2.99 ล้านไร่ อย่างไรก็ตาม ที่กรมอุตุนิยมวิทยา และหลายหน่วยงานได้คาดการณ์ไว้ จะเกิดมีฝนทิ้งช่วง ประมาณเดือนก.ค.ซึ่งจะทำให้ต้นข้าวขาดน้ำได้รับความเสียหาย พี่น้องเกษตรกรจะได้เตรียมการเพาะปลูกอีกรอบ จึงขอแจ้งเตือนพี่น้องเกษตรกรที่อยู่ในจุดเสี่ยง คือพื้นที่นาดอน ก็ต้องเฝ้าติดตามคำพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนการปลูกให้ลดความเสี่ยงน้อยที่สุดโดยพื้นที่เสี่ยงจากภัยแล้ง เมื่อปี 2562  ถือว่าประสบปัญหาวิกฤตภัยแล้ง น้ำในอ่างเก็บน้ำก็ไม่มี ซึ่งมีพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 300,000 ไร่ คิดเป็นกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ปลูก ส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่ อ.หนองกี่ โนนสุวรรณ และ อ.ปะคำ  

ขณะเดียวกัน ตอนนี้พบว่ามีหนอนกะทู้ระบาดกัดกินต้นข้าวในพื้นที่ อ.ห้วยราช ก็อยากแจ้งให้พี่น้องเกษตรกรทราบว่า หนอนกะทู้ กัดกินข้าว แต่ไม่ได้กินถึงราก ก็เหมือนเราตัดใบข้าวเสร็จ หนอนกะทู้ก็อาจมากินต้นข้าว แต่ไม่ได้รับผลกระทบมากมาย ซึ่งหากพี่น้องเกษตรกรมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นหน้าแล้งเพลี้ยไฟ จะเริ่มมา หรือว่ามีหนอนกะทู้ หรือแม้จะมีเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ก็สามารถมาแจ้งได้ที่เกษตรกรอำเภอ หรือที่ อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ที่มีอยู่ทุกหมู่บ้าน โดย เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ ยังกล่าวอีกว่า ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้าวขาดน้ำ หรือว่าโรคแมลงต่างๆ ซึ่งกรณีที่ข้าวขาดน้ำ ในที่เขตพื้นที่ไหนที่มีแม่น้ำใกล้ๆ น้ำมูล ถ้าขาดน้ำก็จะได้ขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ ทุกปีก็ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดก็เคยให้ช่วยไป หรือ แม้แต่ทางชลประทานก็ยืนยันว่า มีเครื่องสูบน้ำที่จะให้บริการพี่น้องประชาชน