คุกนายหน้าสาว 36 ปี ชดใช้ 70 ล้าน หลังหลอกเอาที่ดินมรดกไปขาย
30 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สงขลา ถึงความคืบหน้ากรณี 2 พี่น้อง คือ น.ส.อัญชลี และ น.ส.อรอนงค์ เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” และ นายกฤษฎา โลหิตดี หรือทนายโนบิ เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ให้ช่วยเหลือเนื่องจากถูก นางรัชนี นายหน้าค้าที่ดินหลอกเอาที่ดิน 10 ไร่ 8 แปลง มูลค่า 70 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ดินมรดกของครอบครัวไปจำนองขายฝากให้กับนายทุน วันดีคืนดีก็มีคนนำป้ายมาปักในที่ดินห้ามบุรุกและต้องสูญเสียที่ดินไป ซ้ำร้ายต้องจ่ายค่าเช่าที่ดินของตัวเองซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยเดือนละ 90,000 บาทด้วย
สำหรับนางรัชนี ซึ่งสนิทสนมกับครอบครัวนี้ และยังเป็นเพื่อนสนิทกับ น.ส.อรอนงค์ เคยให้ความช่วยเหลือเรื่องการโอนที่ดินมรดกจากพ่อที่เสียชีวิต และรู้ว่ามีที่ดินซึ่งมีมูลค่าสูง จึงออกอุบายว่าโฉนดที่ดินรันเลขผิด มีความคลาดเคลื่อน ต้องดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่ที่ดินจะมีความผิดด้วย ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงมอบโฉนดที่ดินทั้ง 8 แปลงไปให้ แต่กลับถูกนำไปขายจดจำนองและขายฝากกับบุคคลภายนอก 70 ล้านบาท ต่อมาตำรวจชุดสืบสอน สภ.สะเดา จ.สงขลา จับกุม นางรัชนี ดำเนินคดี แต่เจ้าตัวให้การปฏิเสธและทั้ง 2 ฝ่ายต่อสู้คดีกันในชั้นศาล
ล่าสุดมีรายงานว่าศาลจังหวัดนาทวี ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีนี้ปรากฏว่าครอบครัวของ 2 พี่น้องชนะคดี ซึ่งศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานพยานโจทก์และจำเลยรับฟังได้ว่า นางรัชนี จำเลยได้นำโฉนดที่ดินจากสองพี่น้องไปจริงและได้มีการนำเอกสารหนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านของสองพี่น้อง โดยที่ทั้งสองไม่ได้กรอกข้อความใดๆ นำไปใช้และจดแจ้งต่อเจ้าพนักงานที่ดินจนเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานที่ดินได้มีการทำนิติกรรมให้แก่บุคคลภายนอก การกระทำของ นางรัชนี จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดต่างกรรมต่างวาระจึงให้ลงโทษจำเลยเรียงกระทงไปรวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 36 ปีให้จำเลยชดใช้ค่าสินใหม่ทดแทนจำนวน 70 ล้านบาท
ภายหลังศาลมีคำตัดสินทางทนายโนบิ ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัว ที่นางรัชนี ขอยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นอุทธรณ์ แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว
ด้าน น.ส.อรอนงค์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยทำให้ครอบครัวได้ที่ดินคืนมา หลังจากที่ครอบครัวเดือนร้อนมาตลอดและทรมานใจ เพราะที่ดินถูกหลอกขายไป
ส่วนทนายโนบิ กล่าวว่า คดีนี้ค่อนข้างยาก เนื่องจากว่าจำเลยได้นำโฉนดที่ดินทั้ง 8 แปลงไปจำหน่ายจ่ายโอนให้บุคคลภายนอกเรียบร้อยแล้ว และจำเลยไม่ให้ความร่วมมือ ตลอดทั้งปฏิเสธต่อสู้คดีมาตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนจนถึงชั้นศาล และจำเลยเองก็ไม่เคยเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวผู้เสียหายแต่อย่างใด ทำให้ครอบครัวผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนมาก จำเป็นจะต้องกู้หนี้ยืมสินตลอดทั้งเกรงว่าจะไม่มีที่อยู่อาศัยให้กับครอบครัวตลอดทั้งลูกหลานทั้งหกครอบครัว ซึ่งหากแพ้คดี ครอบครัวนี้ก็จะไม่มีที่อยู่อาศัย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี