จากกรณีที่คนร้ายยิงถล่มรถบรรทุกเทรลเลอร์ 22 ล้อ คนขับเป็นผู้หญิงเสียชีวิตคารถตรงเบาะที่นั่งคนขับ เหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย ซึ่งเป็นรถเทรลเลอร์บรรทุกนมยี่ห้อดัง มาเต็มคันรถ  ตรวจสอบรถคันเกิดเหตุพบร่องรอยรูกระสุนยิงเข้ากระจกด้านคนขับและตัวถังรถรวม 17 รู

4 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้าล่าสุดตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราชได้คลิปภาพจากกล้องหน้ารถคันที่เกิดเหตุขณะที่ นส.ลลิลญา ขับรถไปตามถนนสายเอเชีย41 ขาล่องใต้ เข้าพื้นที่ ต.แก้วแสน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช กล้องหน้ารถได้บันทึกภาพนาทีก่อนเกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะคันที่ก่อเหตุ เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ป้ายแดง มาจอดรถรอริมถนนสายเอเซีย

เมื่อผู้ตายขับรถผ่านไป รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับไล่ตามหลังและขับตามประกบแซงด้านขวา โดยมีคนร้าย 2 คนนั่งมาด้านท้ายกระบะได้ใช้อาวุธปืน 9 มม.ยิงถล่มใส่บริเวณกระจกรถและตัวถังรถตรงที่นั่งคนขับพรุน 17 รู ซึ่งคาดว่าคนร้ายใช้ปืน 2 กระบอก ส่งผลให้คนขับถูกยิงร่างพรุนขับรถประคองไปตามถนนเรื่อย ๆและกล้องหน้ารถยังบันทึกภาพขณะที่รถยนต์กระบะของคนร้ายขับแซงขวาหนีหายไปอย่างชัดเจน ก่อนที่ นส.ลลิลญาจะพยายามขับประคองรถไปจอดเสียชีวิตที่เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งตำรวจได้นำหลักฐานกล้องหน้ารถไปตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป

ขณะเดียวหลังเกิดเหตุพล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ด้วยตนเองทันทีที่ สภ.นาบอน โดยตำรวจมีการพยานหลายปากทั้งสามีผู้ตายและทีมงานคนขับรถบริษัทขนส่งนมบริษัทเดียวกันที่ขับตามหลังกันมาจำนวน 6 คันมาสอบสวนปากคำอย่างละเอียด โดยสั่งเร่งรัดให้ตำรวจ สภ.นาบอนเร่งทำการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกม.โดยเร็วต่อไปแล้ว

เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ตำรวจ สภ.นาบอน ตั้งปมสังหารไว้ 2 ประเด็น คือประเด็นแรกเรื่องขัดแย้งส่วนตัวของผู้ตายหรือสามีผู้ตาย และอีกประเด็นตำรวจสอบสวนทราบว่ามาจากความขัดแย้งในเรื่องในสัมปทานธุรกิจส่งนมไปยังประเทศมาเลเซียซึ่ง เบื้องลึกสอบสวนพบว่ามีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ ซึ่งตำรวจจะเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็วต่อไป