ตำรวจ ปส.บุกทลาย 7 เครือข่ายยานรก รายสำคัญ จับกุมผู้ต้องหาได้ 17 คน พร้อมยึดของกลางยาบ้า22 ล้านเม็ด ไอซ์ 620 กิโลกรัมรถยนต์และรถกระบะ 12 คันเร่งสอบสวขยายผลทันควัน
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปราบยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส. พล.ต.ต.สมกิต พุ่มวารี ผบก.ขส. พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 พร้อมคณะ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปส.และ กอ.รมน.แถลงจับกุมเครือข่ายยาเสพติด 7 ราย จับกุมผู้ต้องหา 17 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 22 ล้านเม็ด ไอซ์ 620 กิโลกรัม รถยนต์และรถกระบะ รวม 12 คัน พร้อมกับยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด รวมมูลค่า 8 ล้านบาท
สำหรับการจับกุม ทั้ง 7 ราย ประกอบด้วย คดีที่ 1 ตำรวจ บก.ปส.2 ร่วมกับ บก.ขส.จับกุมนายสุวิทย์ พร้อมของกลาง ยาบ้า รวม 2 ล้านเม็ด ภายหลังขับรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต โคโลราโด สีเทา ทะเบียนจังหวัดมหาสารคาม ลอบขนยาบ้าในพื้นที่ จ.ขอนแก่น โดยเป็นการขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อนหน้านี้ซึ่งมีการจับกุมในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม คดีที่ 2 ตำรวจ บก.สกส.ร่วมกับ บก.ขส.จับกุม นายพีรวัฒน์ กับพวก ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง หลังจากลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือไปส่งในพื้นที่ภาคกลาง ยึดไอซ์ 500 กิโลกรัม ซุกซ่อนในรถยนต์ ทะเบียนจังหวัดสระบุรี จับกุมได้ที่ลานวัดโคกกระต่ายทอง ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อเนื่องลานจอดรถตลาดนัด ต.กุดนกเปล้า อ.เมือง จ.สระบุรี คุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและขยายผลการจับกุม
คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 18–19 มิถุนายนที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปส.2 สืบสวนขยายผลเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ จนทราบว่ามีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.บึงกาฬ ผ่านไปทางถนนหมายเลข 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ติดตามพบรถยนต์ต้องสงสัย จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบนายธนพัฒน์ พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนักรวม 120 กิโลกรัม บรรจุในถุงชา สีเขียว 3 กระสอบ สอบสวนนายธนพัฒน์ รับสารภาพว่า ลักลอบขนไอซ์ มาแล้ว 5 ครั้ง ได้รับค่าจ้างล่วงหน้าบางส่วน โดยที่เหลือจะได้รับเมื่อทำงานเสร็จ
คดีที่ 4 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ตำรวจ บก.สกส.และ บก.ขส.ขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดภาคกลาง จนสามารถจับกุมนายปกรณ์ และนายฉัตรชัย พร้อมของกลาง ยาบ้า 3 ล้านเม็ด หลังจากเตรียมนำยาบ้าจากพื้นที่ จ.สุโขทัย ไปส่งลูกค้าที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยสามารถจับกุมนายฉัตรชัย ได้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาโก่งธนู จ.ลพบุรี ส่วนนายปกรณ์ จับกุมได้ที่ริมถนนในพื้นที่หมู่ 1 ต.สำพะเนียง อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา คดีที่ 5 ตำรวจ บก.ปส.3 เข้าจับกุมนายเจษฎากร และนายอภิเษก พร้อมของกลาง ยาบ้า 6 ล้านเม็ด ภายหลังสืบทราบว่ามีการลำเลียงยาบ้าจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ไปซุกซ่อนไว้ในพื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อส่งมอบให้เครือข่าย โดยมีการใช้รถกระบะ ทะเบียนจังหวัดสระบุรี ก่อเหตุ ติดตามจับกุมนายเจษฎากร ได้ที่บริเวณแยกห้วยปลากั้ง ถนนเลี่ยงเมืองเชียงรายตะวันตก และจับกุมนายอภิเษก ได้ที่แยกขัวแคร่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ก่อนจะเร่งสืบสวนขยายผล
คดีที่ 6 ตำรวจ บก.ขส.และ บก.ปส.2 จับกุม 6 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายเจริญชัย น.ส.เกศินี นายสุพรรณ น.ส.รัฐชิตา นายโยธณัฐ และ น.ส.ธิติมา พร้อมของกลาง ยาบ้า 5 ล้านเม็ด หลังจากสืบทราบว่าทั้งหมดเป็นเครือข่ายยาเสพติดของนายสุพรรณ หรือเบนซ์ ซึ่งมีการใช้รถยนต์ 3 คัน ลำเลียงยาเสพติดจากริมฝั่งแม่น้ำโขง ด้าน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ไปยัง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่จึงติดตามสกัดจับได้ที่ปั๊มน้ำมัน บริเวณถนนมิตรภาพ จ.นครราชสีมา และยึดทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 8 ล้านบาท เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไป
ส่วนคดีที่ 7 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตำรวจ บก.สกส.และ บก.ขส.ร่วมกันสืบสวนขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเตรียมส่งยาล็อตใหญ่ให้ลูกค้าในพื้นที่ชั้นใน กระทั่งพบรถกระบะต้องสงสัย ทะเบียนจังหวัดขอนแก่น ในพื้นที่ ต.โตนด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบตัวนายอิสระ เป็นคนขับ ภายในรถพบยาบ้า 6 ล้านเม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมอย่างต่อเนื่องต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี