“ตรีนุช” ชื่นชม จ.ระนอง บูรณาการการทำงานแบบเครือข่ายโดยใช้พื้นที่เป็นฐานจัดการศึกษาได้ดี ถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ประสบความสำเร็จ
8 ก.ค.66 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า จากการที่ตนพร้อมด้วย นายนิรุตติ สุทธินนท์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงศึกษาธิการ, นายภูธร จันทะหงษ์ ปุญยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และคณะ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่จังหวัดระนอง
โดยได้ตรวจเยี่ยม กศน.ตำบลเกาะพยาม , โรงเรียนบ้านเกาะพยาม, โรงเรียนพิชัยรัตนาคาร ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เปิดหลักสูตรนานาชาติ ของ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ในโครงการ Education Hub ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), ศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดระนอง, โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 38 พร้อมทั้งประชุมหัวหน้าส่วนราชการด้านการศึกษาจังหวัดระนอง พบว่า ระนอง เป็นจังหวัดขนาดเล็ก มีประชากรน้อย แต่มีความหลากหลายในมิติของการจัดการศึกษา ด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีเกาะ มีพื้นที่อยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงมีความหลากหลายของโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ปกติ โรงเรียนที่อยู่บนเกาะ มีความหลากหลายของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งหน่วยงานทางการศึกษาทั้งพื้นที่ปกติ และบนเกาะ สามารถบูรณาการการทำงานโดยใช้พื้นที่เป็นฐานได้ดีมาก
โดยเฉพาะการบูรณาการทำงานในรูปแบบของเครือข่าย ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครือข่ายของกระทรวงศึกษาธิการ เครือข่ายของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และเครือข่ายของภาคเอกชน ที่ได้มาร่วมจัดการศึกษาอย่างจริงจัง มีการกำหนดนโยบายและแผนที่สอดคล้องกับสภาพที่แตกต่างกันของพื้นที่ ของกลุ่มชาติพันธุ์และบริบทอื่น ๆ ดังนั้น จึงถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ประสบความสำเร็จ ในการบูรณาการการทำงานโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน และเรื่องของเครือข่ายก็ทำได้อย่างเข้มแข็งมาก
รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การจัดการศึกษาในจังหวัดระนอง ก็ยังมีข้อจำกัดในการบริหารจัดการ เนื่องจากความยากลำบากของพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการที่จะมีครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องที่จะมาปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่บนเกาะ ซึ่งเชื่อมโยงกับงบประมาณรายจ่าย จึงจำเป็นต้องมีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถจัดการศึกษาได้อย่างเท่าเทียมกับโรงเรียนในพื้นที่ปกติ ในส่วนของการขาดแคลนผู้บริหารสถานศึกษา นั้น
ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการ โดยคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษาสำหรับสถานศึกษาในพื้นที่พิเศษแล้ว ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาส และผ่อนปรนในการสรรหา คัดเลือกครูและผู้บริหารพื้นที่พิเศษ ที่จากเดิมจะมีการสรรหาในภาพรวม ก็เปลี่ยนมาเป็นการสรรหาคนในพื้นที่ เพื่อให้ได้ครูและผู้บริหารที่มีความตั้งใจและเป็นคนในพื้นที่ที่มีความพร้อมมาบริหารและทำงานได้ต่อเนื่อง
“สำหรับกรณีเด็กตกหล่นหรือหลุดออกจากระบบการศึกษานั้น จังหวัดระนอง มีเด็กไทยตกหล่นน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กชาติพันธุ์ ที่พ่อแม่เป็นชาวต่างชาติแต่เด็กเกิดในประเทศไทย รัฐบาลไทยก็ให้การดูแลเด็กกลุ่มนี้ให้ได้รับการศึกษาตามหลักสิทธิมนุษยชนเช่นเดียวกับเด็กไทยในพื้นที่ของเรา” รมว.ศธ. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี