"พิธา"ประกาศลั่นกลางเมืองโคราช "ฟ้าหลังฝนสวยงามมากถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เหลืออีก 5 วันเท่านั้นก็จะมีการโหวตเลือกนายกฯ ในเมื่อประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงเลือกผู้แทนแล้วแต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สาเหตุเป็นเพราะประเทศเราอยู่ในภาวะไม่ปกติ ถ้าวุฒิสภาไม่โหวตให้ก็ต้องโหวตยาวๆ ไปเลย ยันไม่ได้ต้องการปลุกระดมมวลชน แต่ถ้าประชาชนไม่ถอย ตนก็ไม่ถอย"
วันนี้ (8 ก.ค.66) ที่ จ.นครราชสีมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดท นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังจากไปพบปะกลุ่มผู้ประกอบการเอกชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ภาคประชาสังคม จ.นครราชสีมา ที่ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมฟอร์จูน อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ว่า การออกเดินสายต่างจังหวัด ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะปลุกระดมมวลชนออกมากดดัน ส.ว.ให้โหวตเลือกตนเป็นนายรัฐมนตรีตามที่หลายคนตั้งข้อสังเกตอยู่ในขณะนี้ แต่เป็นการเดินทางมาขอบคุณพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา ที่ได้เลือก ส.ส.เขต พรรคก้าวไกล เข้ามาถึง 3 คน และเลือก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จนทำให้พรรคก้าวไกลได้จำนวน ส.ส.มาเป็นลำดับที่ 1 แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่ได้ไปแสดงความขอบคุณ วันนี้ก็มาตามคำเรียกร้องของชาวโคราช ได้มาพบปะหารือกับภาคเอกชน ได้รับทราบปัญหาไม่ว่าจะเรื่องเศรษฐกิจ ภาคการเกษตร ภัยแล้ง ปรากฎการณ์เอลนีโญ และเรื่องอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจสำหรับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะได้ช่วยกันขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาตามลำดับต่อไป
ส่วนเรื่องการปลุกระดมมวลชน ทางพรรคก้าวไกลก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมักจะโดนวิพากษ์วิจารณ์แทบทุกเรื่อง แต่เราก็ยังตั้งใจทำงานของเราอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันที่ 13 กรกฎาคมที่จะถึงจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วตนก็มีความมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ เพราะจากการเข้าไปพูดคุยกัน ก็ได้เห็น ส.ว.หลายท่านได้ให้สัมภาษณ์สื่อฯ และส่งจดหมายเปิดผนึกก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เป็นโอกาสในการคืนความปกติให้กับการเมืองไทยและเป็นการให้โอกาสประเทศไทยด้วย ในครั้งนี้จึงเชื่อว่าทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ยังมีโอกาสที่จะคืนความปกติให้กับการเมืองไทย โดยยึดมติของเสียงข้างมาก ซึ่งจะเป็นวาระสำคัญของประเทศว่า เราจะไปในทิศทางไหน
ส่วนเรื่องมาตรา 112 ตนคิดว่า เป็นเงื่อนไขที่อ่อนลงเรื่อยๆ เมื่อได้รับฟังคำชี้แจงและคำอธิบายถึงเหตุและผล ส.ว.หลายๆ ท่านก็เริ่มจะเข้าใจว่าเองนี้ไม่ใช่เรื่องที่อิงพรรคการเมือง หรือนโยบายของพรรคการเมือง แต่เป็นเรื่องของหลักการที่จะทำให้ระบบกลับมาเป็นปกติได้ เป็นเรื่องที่จะต้องใช้พื้นที่ของสภาฯ ซึ่งมีความหลากหลายทางความคิด ต้องเปิดโอกาสให้สภาฯ ได้ทำงาน ซึ่งตนได้อธิบายให้ ส.ว.ได้รับทราบ หลายท่านก็เบาใจและมีความเข้าใจมากขึ้นว่า การอนุรักษ์ การรักษา และทำให้เกิดการพัฒนา จำเป็นต้องมีการพูดคุยด้วยวุฒิภาวะ จึงทำให้เงื่อนไขต่างๆน้อยลง ซึ่งเรื่องนี้ตนสัญญาไว้กับประชาชนอย่างไร ก็ต้องทำตามนั้น ซึ่งการโหวตเลือกนายกฯครั้งนี้ ตนก็มั่นใจและพยายามเต็มที่ที่สุด แต่หากโหวตครั้งแรกไม่ผ่านก็ต้องยึดความคิดเห็นของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ซึ่งเท่าที่ฟังมาตอนนี้ยังไม่มีแผน 2
ดังนั้น ก็จะโฟกัสให้เต็มที่ก่อนวันที่ 13 ก.ค.นี้ก่อน ซึ่งจะโหวตกี่ครั้งก็ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการที่ควรจะเป็นตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และยึดมติของประชาชนเป็นหลัก ถ้าประชาชนไม่ถอย ตนก็ไม่ถอย ส่วนกรณีที่มีเสียงจากพรรครวมไทยสร้างชาติที่บอกว่า ถ้าโหวตไม่ผ่านในครั้งแรก ก็ควรจะให้โอกาสพรรคลำดับ 2 แทน ไม่ควรจะโหวตซ้ำอีกรอบ ซึ่งเรื่องนี้ ตนมองว่าเป็นความคิดเห็นของพรรครวมไทยสร้างชาติเอง ไม่ได้เป็นหลักการหรือข้อกฎหมายอะไร ตอนนี้ยังไม่มีแผน 2 ยังยึดตามแผนที่พรรคร่วมทั้งหมดได้พูดคุยกันไว้ก่อน
หลังจากนั้นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดท นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย 3 ส.ส.พรรคก้าวไกลของ จ.นครราชสีมา ประกอบด้วยนายฉัตร ศุภทรวณิชย์ , นายปิยชาติ รุจิพรวศิน และนายศุทธสิทธิ์ พจน์ฐศักดิ์ และคณะได้เดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองโคราชท่ามกลางกลุ่มมวลชนที่สวมใส่สัญลักษณ์ด้อมส้ม มารอให้การต้อนรับแน่นขนัดลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พร้อมส่งเสียงเชียร์และเรียกนายก นายก ตลอดเวลา
ต่อจากนั้น นายพิธา ได้ลอดประตูชุมพลตามความเชื่อว่าหากใครได้ลอดประตูชุมพลแล้วจะได้กลับมาหรือมาอยู่ที่โคราชอีกด้วยแล้วจึงขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาที่ได้เลือก ส.ส.เขตพรรคก้าวไกลเข้ามาถึง 3 คนและเลือก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อจนทำให้พรรคก้าวไกลได้จำนวน ส.ส.มาเป็นลำดับที่ 1 โดยขบวนรถแห่ออกจากประตูชุมพลและไปสิ้นสุดที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
ในเวลา 17.30 น. นายพิธา ได้ขึ้นเวทีปราศรัยบริเวณหน้าหอนาฬิการ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ขอบคุณชาวโคราช ท่ามกลางผู้สนับสนุนสวมใส่สีส้มมารอฟังเป็นจำนวนมาก โดยนายพิธา กล่าวในตอนหนึ่งว่า "ฟ้าหลังฝนสวยงามมากถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเสียที เหลืออีก 5 วันเท่านั้นก็จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในเมื่อประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงเลือกผู้แทนแล้วแต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สาเหตุเป็นเพราะประเทศเราอยู่ในภาวะไม่ปกติ มีรัฐธรรมปี 60 ขวางกั้นอยู่ ในเมื่อประชาชนให้โอกาสกับพรรคก้าวไกลแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องคืนความเป็นไทยให้กับประชาชน ผมมีแผนที่จะทำงานไว้แล้ว ถ้าวุฒิสภาไม่โหวตให้กับผมก็ต้องโหวตยาวๆ ไปเลย ขอให้ประชาชนอดทนกันอีกนิดเดียว ดูสิว่าความไม่อปกติของประเทศไทยจะยุติเมื่อใด ผมพร้อมจะทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประชาชนคนไทยทุกคนทุกอาชีพ" นายพิธา กล่าว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี