ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เมื่อวันที่13 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ร้องรายหนึ่งเมื่อเดือนกันยายน 2565 ระบุว่า ผู้ร้องมีหนังสือเมื่อเดือนเมษายน 2564 ถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม หรือ สพม.นครปฐม (ผู้ถูกร้อง) เพื่อยื่นคำขออนุญาตจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัวให้แก่บุตรของผู้ร้อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ปีการศึกษา 2564
แต่เอกสารสูญหาย ผู้ร้องจึงยื่นคำขออนุญาตจัดการศึกษาต่อผู้ถูกร้องใหม่ เมื่อเดือนกันยายน 2564 จากนั้นได้เข้าพบเพื่อหารือเรื่องแผนการจัดการศึกษาร่วมกับผู้ถูกร้องหลายครั้ง ต่อมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ผู้ร้องได้หารือแผนการจัดการศึกษาร่วมกับ สพม.นครปฐม จนครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ สพม.นครปฐม ได้ประทับตราลงรับในวันที่หารือ และเสนอไปยังคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมพิจารณา ต่อมาคณะกรรมการฯ มีมติอนุญาตให้ผู้ร้องจัดการศึกษา ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปี 1-3
สพม. นครปฐม จึงมีหนังสือเมื่อเดือนมีนาคม 2565 แจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ร้องทราบ แต่ไม่ตรงตามระดับชั้นตามคำขอและไม่ระบุระยะเวลาเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อใด ผู้ร้องเห็นว่า การพิจารณาอนุญาตจัดการศึกษาล่าช้า ส่งผลให้บุตรของผู้ร้องได้รับการประเมินเลื่อนชั้นและจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นล่าช้าออกไปจึงขอให้ตรวจสอบ และมีความประสงค์ให้เสนอรายชื่อบุคคลภายนอกเข้าร่วมเป็นกรรมการวัดผลและประเมินผล และให้บุตรของผู้ร้องได้รับการวัดและประเมินผลในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 และปีที่ 2พร้อมกันให้แล้วเสร็จภายในปีการศึกษา 2565 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
กสม. พิจารณาจากข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว จึงประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไปยัง สพม.นครปฐม ให้พิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งผลการประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สรุปได้ว่า กรณีขอให้บุคคลภายนอกที่ผู้ร้องเสนอชื่อเข้าร่วมเป็นกรรมการวัดและประเมินผลการจัดการศึกษาโดยครอบครัว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงว่า ไม่สามารถอนุญาตให้นำบุคคลที่ผู้ร้องเสนอชื่อเข้าร่วมเป็นกรรมการได้ เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539ซึ่งกรณีนี้ กสม. จะดำเนินการติดตามผลต่อไป
ส่วนกรณีขอให้บุตรชายทั้งสองของผู้ร้องได้รับการวัดและประเมินผลทั้งชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 2 พร้อมกัน ให้แล้วเสร็จภายในปีการศึกษา 2565 เพื่อไม่ให้ผู้เรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นล่าช้า สพม.นครปฐม ได้ออกมาตรการเยียวยาแก่บุตรทั้งสองของผู้ร้องในเบื้องต้นแล้ว แต่ปัญหาของผู้ร้องยังไม่ได้รับการแก้ไข กสม. จึงมีมติรับไว้เป็นคำร้องเพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน
นายวสันต์ กล่าวต่อไปว่า กสม. เห็นว่า สิทธิในการศึกษาของเด็กได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ICESCR) ทั้งนี้ กฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว พ.ศ. 2547 กำหนดให้ ครอบครัว ซึ่งประสงค์จะจัดการศึกษายื่นคำขออนุญาตจัดการศึกษาต่อสำนักงาน และกำหนดให้ สำนักงานเสนอคำขออนุญาตจัดการศึกษาให้คณะกรรมการพิจารณาโดยเร็วและแจ้งผลการพิจารณาภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำขอ
จากการตรวจสอบปรากฏข้อเท็จจริงว่า หลังจากที่ผู้ร้องได้แก้ไขปัญหาเอกสารสูญหาย โดยยื่นคำขออนุญาตใหม่ ซึ่งมีผลเป็นคำขอตามกฎหมายแล้ว ต่อมาคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมมีมติเห็นชอบอนุญาตให้ผู้ร้องจัดการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ปีการศึกษา 2564 และแจ้งให้ผู้ร้องทราบเป็นหนังสือ รวมเป็นระยะเวลานับแต่วันที่คำขอมีผลตามกฎหมาย จนถึงวันแจ้งผลเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 40 วัน ซึ่งเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ผู้ถูกร้องได้รับคำขออนุญาตจัดการศึกษาของผู้ร้อง
แต่เมื่อพิจารณาระยะเวลาตั้งแต่วันที่ผู้ร้องยื่นคำขอครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2564 จนเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ณ วันที่คำขอมีผลตามกฎหมายคิดเป็นระยะเวลา 265 วัน ดังนั้น การที่เอกสารของผู้ร้องสูญหายทั้งที่มีบุคคลลงชื่อรับไว้ ตลอดจนผู้ถูกร้องใช้ระยะเวลาการพิจารณาคำขอของผู้ร้องล่าช้า ส่งผลกระทบต่อสิทธิเด็กอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิในการเข้ารับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ส่วนกรณีการวัดผลและประเมินผลล่าช้า ต่อเนื่องจากการพิจารณาคำขออนุญาตล่าช้านั้น สพม.นครปฐม ได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องนำบุตรทั้งสองเข้ารับการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้เพื่อพิจารณาเลื่อนชั้นกลางปีแล้ว อันเป็นการดำเนินการตามหน้าที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ร้อง จึงเป็นเรื่องที่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมแล้ว ด้วยเหตุผลดังกล่าว กสม. ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 จึงให้มีมาตรการหรือแนวทางในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้แก้ไขปัญหาความล่าช้าในการพิจารณาคำขออนุญาต
โดยปรับปรุงแนวทางการขออนุญาตจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว ในส่วนของขั้นตอนการยื่นแบบแสดงความประสงค์จะขอจัดการศึกษา สำหรับการจัดทำแผนการจัดการศึกษาที่กำหนดให้ครอบครัวหรือผู้จัดการศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาร่วมกัน โดยกำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนเพื่อให้แผนการจัดการศึกษาครบถ้วนสมบูรณ์โดยเร็ว เพื่อให้ครอบครัวหรือผู้จัดการศึกษาสามารถคาดหมายระยะเวลาที่จะรับการพิจารณาอนุญาตให้จัดการศึกษาได้ทันปีการศึกษา
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาดำเนินการ สรุปได้ดังนี้ (1) ให้ สพม. นครปฐม วัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยใช้ข้อมูลจากการเรียนการสอนตามแผนการจัดการศึกษาที่ร่วมกำหนดกับผู้ร้อง เพื่อไม่ให้ผู้เรียนหรือผู้จัดการศึกษาเกิดความรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความไม่สอดคล้องกันระหว่างแผนการสอนกับการวัดและประเมินผล หรืออาจกำหนดให้มีผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงคุณวุฒิที่ผู้ถูกร้องกำหนดรายชื่อในบัญชีร่วมเป็นกรรมการด้วย โดยต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
(2) ให้ผู้ร้องนำบุตรทั้งสองเข้ารับการวัดผลและประเมินผล เพื่อให้สามารถเลื่อนชั้นตามแนวทางการวัดผลและประเมินผลในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หรือเข้ารับการวัดผลและประเมินผลเพื่อเลื่อนชั้นกลางปีตามแนวทางการดำเนินงานการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว และเงื่อนไขที่กำหนดตามกฎหมาย
(3) ให้กระทรวงศึกษาธิการ สภาการศึกษา และ สพฐ.ร่วมกันพิจารณาทบทวนโครงสร้างหน่วยงานการกำกับดูแลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว ให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่มีปรัชญาแนวคิดการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เนื่องจากปรัชญาแนวคิดการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัวสอดคล้องกัน และเห็นควรจัดให้มีหน่วยงานเพื่อเป็นกลไกในการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา ให้คำปรึกษาแนะนำ และรับเรื่องร้องเรียน ตลอดจนให้ความรู้ ส่งเสริม และสนับสนุนด้านวิชาการ ด้านการบริหารจัดการ กรณีเกิดปัญหาอุปสรรคหรือข้อขัดข้องในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี