"ปลัดมหาดไทย"ประชุมคณะกรรมการอำนวยการติดตามความคืบหน้าการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต.ให้ อบจ. ชื่นชม อบจ.เชียงใหม่ เป็นต้นแบบ อปท.ขับเคลื่อนภารกิจ รพ.สต.อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเน้นย้ำคณะกรรมการร่วมกันบริหารจัดการและดูแลสวัสดิการบุคลากรที่โอนย้าย ให้มีกำลังใจมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ให้ประชาชนเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ที่ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ครั้งที่ 3/2566 โดยมี คณะกรรมการอำนวยการฯ ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายศิริพันธ์ ศรีกงพลี รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเลอพงศ์ ลิ้มรัตน์ ประธานคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายแพทย์ ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนสมาคม หน่วยงาน รวมถึงนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการอำนวยการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดในวันนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าตามมติที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการถ่ายโอนฯ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 ซึ่งได้มีการหารือและเสนอแนะแนวทางพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่จะทำให้การถ่ายโอนหน้าที่การสาธารณสุขมูลฐานที่ครอบคลุมทั้งการป้องกันและการรักษาผู้ป่วยเบื้องต้นก่อนที่จะส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ และโรงเรียนแพทย์ เพื่อให้การบริการพี่น้องประชาชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ยังผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ต้องมีการบริหารจัดการงบประมาณและสวัสดิการของบุคลากร เพื่อให้มีขวัญกำลังใจที่ดีในการมุ่งมั่นดูแลรักษาพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง
“การผลักดันให้การขับเคลื่อนเรื่องถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนั้น เป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชนในการที่จะได้รับบริการด้านสาธารณสุขทุกด้าน โดยเฉพาะความรู้เรื่องสาธารณสุขมูลฐานที่ส่งผลให้พี่น้องประชาชนดูแลป้องกันตัวเองได้ในเบื้องต้น ซึ่งภารกิจงานดังกล่าวนั้นมีภาคีเครือข่ายหลายหน่วยงาน หลายส่วนราชการเข้ามาเกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนให้เดินหน้าต่อไปได้ และเพื่อให้การดำเนินขับเคลื่อนได้ประสบผลสำเร็จราบรื่น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการการทำงาน ประสานงาน ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาด้วย Passion ที่มุ่งมั่นตั้งใจ ซึ่งความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการ และภาคีเครือข่ายตามแนวทาง Partnership ของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 17 เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้การดำเนินงานครั้งนี้สำเร็จได้” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวต่ออีกว่า ตัวอย่างความสำเร็จของการรับโอนภารกิจ รพ.สต.มาขับเคลื่อนจนเกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.เชียงใหม่) ภายใต้การนำของท่านพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นแบบอย่างของผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มุ่งมั่นตั้งใจและให้ความสำคัญในเรื่องการดูแลบริการด้านสุขภาพอนามัยให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นต้นแบบให้ อบจ.อื่นๆ ถอดบทเรียน เพื่อพัฒนาและดำเนินการร่วมกับแนวทางการสนับสนุนด้านการบริหารสาธารณสุขปฐมภูมิเพื่อยกระดับ รพ.สต.สู่ศูนย์บริการสุขภาพของประชาชนในทุกมิติอย่างยั่งยืน ด้วยการดำเนินการ 1) ศึกษาการดำเนินงานของ อบจ.เชียงใหม่ ต้นแบบความสำเร็จ 2) ตั้งเป้าหมายร่วมกันที่จะทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกตำบล/หมู่บ้านได้รับการดูแลและได้รับการช่วยเหลือในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ด้านสุขภาพ 3) อบจ. ทุกแห่งต้องเป็นผู้นำให้ความสำคัญและทำงานเชิงรุกในทุกระดับ 4) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นต้องมีบทบาทภารกิจโดยตรงในการเป็นโซ่ข้อกลางบูรณาการระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงบประมาณ และกระทรวงสาธารณสุข 5) ส่งเสริมการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ครอบคลุมทุกมิติ ด้วยการบูรณาการการดำเนินงานกับกรมการพัฒนาชุมชน ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ลดรายจ่ายและมีอาหารปลอดภัยบริโภค บูรณาการการดำเนินงานกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดำเนินโครงการ “1 อปท. 1 สวนสมุนไพร” บริหารจัดการขยะ จัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน บูรณาการ “ทีมอำเภอ” ภายใต้การนำของนายอำเภอ และมีปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบตำบลเป็นผู้นำการแก้ไขปัญหาทุกเรื่องให้กับพี่น้องประชาชน และ 6) กำกับดูแลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนของ อปท.และขับเคลื่อนให้เกิดผลตามเป้าหมาย
"ในส่วนของการดำเนินการในเรื่องการถ่ายโอนบุคลากรในสังกัด และการถ่ายโอนงบประมาณตลอดจนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง ขอให้ทุกส่วนราชการร่วมมือกันเร่งดำเนินการกำหนดแผนงาน แก้ไขปัญหาและปรับปรุง เพื่อให้การขับเคลื่อนงานเดินหน้าได้อย่างไร้รอยต่อ สร้างความมั่นใจและขวัญกำลังใจให้บุคลากรที่มาอยู่กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความสุข เพื่อจะทำให้การบริการประชาชนของ รพ.สต.ที่ดีอยู่แล้วมีคุณภาพการบริการดียิ่งขึ้นกว่าเดิม" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า องค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่มุ่งเน้นในการดูแลสุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืน โดยในส่วนภารกิจการถ่ายโอน รพ.สต.ให้ อบจ.นั้น ในปี 2566 จังหวัดเชียงใหม่เป็นหนึ่งในจังหวัดเริ่มต้น ซึ่งมี รพ.สต.จำนวน 62 แห่ง โอนมาสังกัด อบจ.เชียงใหม่ด้วยความสมัครใจ ปัญหาที่พบเจอช่วงแรกหลังถ่ายโอนมา คือบุคลากรไม่พร้อม มีการโอนย้ายมาไม่ครบทุกตำแหน่ง จึงได้ผลักดันและขับเคลื่อนให้ผ่านไปได้ด้วยการเปิดสอบสรรหาบุคลากรในตำแหน่งที่ไม่ได้โอนย้ายมาด้วยเพื่อให้มีระบบบริการงานบุคคลที่มีประสิทธิภาพ การประสานหาแพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆ ตามเงื่อนไขกระทรวงสาธารณสุข มาจัดตารางเวรหมุนเวียนไปในแต่ละ รพ.สต.ซึ่งแพทย์เองก็มีความสุขที่ได้ไปพบเจอ ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทำให้พี่น้องประชาชน และบุคลากรเกิดความมั่นใจ
"นอกจากนี้ อบจ.เชียงใหม่ ยังได้ดูแลความพร้อมในการปรับปรุงพื้นที่ของ รพ.สต. ต่าง ๆ เช่น ขาดแคลนน้ำ ก็จะไปดำเนินการเจาะบาดาลให้ หรือปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ รพ.สต.ให้ร่มรื่น สวยงาม เป็นต้น ซึ่งตนในฐานะผู้นำมีความมุ่งมั่นด้วย Passion ที่จะทำสิ่งที่ดีเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนให้จงได้ จึงได้บูรณาการภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะการขอความร่วมมือจากคุณหมอที่ตั้งใจและจริงใจที่จะมาช่วยกว่า 50 คน และเป็นโชคดีที่ตนมีเพื่อนคู่คิด คือ ทันตแพทย์หญิง ธิตินันท์ ต๊ะวันวงค์ ที่ยินดีมาช่วยเหลือและชักชวนเพื่อนพี่น้องบุคลากรทางการแพทย์มาร่วมด้วยช่วยกัน รวมทั้งคุณหมอเฉพาะทางและแพทย์ทางเลือก อาทิ ธาราบำบัด และการบำบัดด้านต่างๆ มาหนุนเสริม นอกจากนี้ ยังได้น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการสร้างความมั่งคงทางอาหารและยา โดยให้มีการปลูกพืชสมุนไพรในพื้นที่ รพ.สต.ต่างๆ ทั้งนี้ องค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่มุ่งมั่นในการป้องกัน การรักษา และดูแลสุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง และพร้อมที่จะทำให้การบริการของ รพ.สต.ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็น Contracting Unit for Primary care (CUP) ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงสาธารณสุขมูลฐานทุกพื้นที่ อันจะยังประโยชน์ทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน" นายพิชัยฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอขอบคุณคณะกรรมการฯ ทุกท่านที่ได้มาร่วมกันประชุมเพื่อผลักดันขับเคลื่อนการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต.ให้กับ อบจ.ให้เกิดประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการให้บริการทางการแพทย์แก่พี่น้องประชาชนอย่างครอบคลุมและมีคุณภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน โดยข้อเสนอแนะของทุกท่านในครั้งนี้ ฝ่ายเลขานุการจะได้รวบรวมและนำไปเสนอต่อคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) เพื่อเสนอแนะให้เกิดนโยบายที่สนองตอบความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์หลัก คือ “การสนับสนุนด้านการบริการสาธารณสุขปฐมภูมิให้ดีที่สุดให้ได้ เพื่อยกระดับ รพ.สต.สู่ศูนย์การบริการสุขภาพของประชาชนในทุกมิติอย่างยั่งยืน”
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี