บุรีรัมย์ "ไอ้เท่ห์" เพิ่งออกจากคุกเมายาบ้าคลั่ง พังประตูกระทืบหลานสาว ม.6 ม้ามบวม ไตช้ำหามส่ง รพ.ขู่ฆ่าพ่อแม่ต้องไหว้ขอชีวิต
ไอ้เท่ห์ ชาว อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ เพิ่งออกจากคุกคดียาเสพติดไม่กี่วัน เสพยา-ดื่มเหล้าเมาคลั่งอาละวาดพังประตูกระทืบหลานสาว ม.6 ขณะนั่งอ่านหนังสือในห้องม้ามบวม ไตช้ำหามส่ง รพ. ตายายเข้าช่วยถูกทำร้ายด้วยต้องยกมือไหว้ร้องขอชีวิต ตร.จะเข้าควบคุมตัวโวยวายขัดขืนไม่ยอมให้จับแถมไลฟ์สดอ้างถูกล้อม พ่อเผยถูกจับหลายครั้งออกมาก็มีพฤติกรรมเหมือนเดิม วอนภาครัฐช่วยปล่อยไว้คงมีคนตาย
วันที่ 22 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากครอบครัวหนึ่งในตำบลดงอีจาน อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ว่าได้รับความเดือดร้อนและทุกข์ใจมาก จากกรณีที่ลูกชายติดยาเสพติดคลุ้มคลั่งอาละวาดทำลายข้าวของ และทำร้ายคนในครอบครัว แจ้งตำรวจจับส่งบำบัดและติดคุกหลายครั้งออกมาก็มีพฤติกรรมเหมือนเดิม ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยหวาดระแวง ล่าสุดคืนวันที่ 18 ก.ค.66 ที่ผ่านมา เพิ่งออกจากเรือนจำคดียาเสพติดได้ไม่กี่วัน ก็ไปเสพยาบ้าและดื่มเหล้ากับเพื่อนอีกจนเกิดอาละวาดคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของ พังประตูบ้าน และประตูห้องนอน เข้าไปกระทืบหลานสาวตัวเอง ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.6 ขณะนั่งอ่านหนังสือในห้อง จนหลานมีอาการม้ามบวม ไตช้ำ ถูกหามส่ง รพ. ตา ยาย ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปช่วยหลานก็ไม่ยอมหยุดทั้งยังทำร้ายและขู่ฆ่าด้วย จนพ่อกับแม่ต้องยกมือไหว้ร้องขอชีวิต ลูกชายที่คลุ้มคลั่งจึงยอมหยุด
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปดูตามที่ได้รับการร้องเรียน ก็พบหลังหนึ่งใน ต.ดงอีจาน สภาพประตูบ้านที่เป็นกระจกแตกเสียหายเป็นรูขนาดใหญ่ และประตูห้องนอนหลานสาวก็พังเสียหายทั้งบานเช่นกัน
โดยนายฉลอม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี เล่าให้ฟังว่า คืนวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา นายมนัสชัย หรือเท่ห์ อายุ 28 ปี ลูกชายคนที่ 3 ซึ่งเพิ่งออกจากเรือนจำคดียาเสพติดได้ไม่กี่วัน กลับจากไปกินเหล้ากับเพื่อนและคาดว่าน่าจะเสพยาบ้าด้วย มาอาละวาดโวยวายทุบประตูกระจกหน้าบ้านแตกเสียหาย แล้วเข้าไปถีบประตูห้องนอน น.ส.เอริ์น อายุ 18 ปี หลานสาว ซึ่งเป็นลูกของพี่สาวนายเท่ห์ ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.6 แล้วเข้าไปใช้เท้ากระทืบหลานสาวซึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง อ้างว่าเรียกแล้วไม่ยอมเปิดประตู พอตนกับยายเห็น จึงรีบเข้าไปช่วยหลานสาว โดยยายเป็นคนดึงตัวหลานสาวออกมาจากห้อง ส่วนตนก็ปลุกปล้ำอยู่กับนายเท่ห์ ลูกชายที่คลุ้มคลั่งอาละวาด แต่นายเท่ห์ ก็ไม่ยอมหยุด ยังพยายามตามออกมาทำร้ายหลานสาวข้างนอกอีก ตนกับยายก็พยายามกันเอาไว้ จึงถูก นายเท่ห์ ทำร้ายด้วย แถมยังขู่จะฆ่าอีก ตนกับยาย ซึ่งก็เป็นพ่อและแม่ของนายเท่ห์ ผู้ก่อเหตุจึงต้องยกมือไหว้ลูกชายตัวเองขอร้องให้หยุด สักพักลูกชายจึงหยุดและเดินหนีไป แต่ก่อนจะเดินออกไปก็ขู่อาฆาตไว้ด้วย
ตอนแรกนึกว่าหลานสาวไม่ได้เป็นอะไรมาก จึงไม่ได้พาส่ง รพ. กระทั่งวันต่อมามีอาการช้ำตามร่างกาย ยายจึงพาส่ง รพ. หมอบอกว่าม้ามบวม และไตช้ำ น่าจะเกิดจากที่ถูกระทืบอย่างแรง ตอนนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นางรอง ส่วนแม่ของหลานสาวทำงานที่ต่างจังหวัดกำลังจะเดินทางกลับมา
จากนั้นตนจึงได้แจ้งตำรวจสภ.โนนสุวรรณ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทั่งวันที่ 19 ก.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบที่บ้าน และพยายามจะควบคุมตัวนายเท่ห์ ลูกชายที่ก่อเหตุพังข้าวของและทำร้ายหลานสาว แต่นายเท่ห์ กลับโวยวายขัดขืนไม่ยอมให้ควบคุมตัว แถมยังใช้มือถือถ่ายคลิปไลฟ์สดหาว่า ตร.มาปิดล้อมตัวเอง เจ้าหน้าที่ก็พยายามเกลี้ยกล่อมจนนายเท่ห์ ยอมให้ควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก จากการตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย จึงได้แจ้งข้อหา เสพยาเสพติด และส่งฝากขังที่เรือนจำจังหวัดนางรอง แล้วเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ส่วนคดีทำร้ายร่างกายต้องรอแม่หลานมาแจ้งความ
แต่ที่คนในครอบครัวกังวลคือกลัวนายเท่ห์ จะออกมาแล้วก่อเหตุทำร้ายคนในบ้านอีก ซึ่งผ่านมายังเคยขู่จะใช้ปืนที่ประดิษฐ์ขึ้นเองยิงพ่อ แม้แต่ของในบ้านก็เอาไปขายเกือบหมด พ่อกับแม่ทุกข์ใจมากแต่รู้จะทำยังไง หากเป็นไปได้อยากให้บำบัดรักษาให้เลิกยาเสพติด หรือดำเนินคดีนานๆ เพราะหากปล่อยออกมาคงต้องมีคนตายแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี