เมื่อวันที่ 27ตุลาคม ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครราชสีมา รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.พิมาย ว่า หลังมวลน้ำจากตัวเมืองนครราชสีมาและเขื่อนต่างๆไหลถึงพื้นที่ อ.พิมาย ช่วงกลางดึกวันที่ 26ตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำจักราชสูงขึ้นอีกกว่า 10เซนติเมตรและได้ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านเอื้ออาทร ในเขต ต.ในเมือง อ.พิมาย จำนวน 829หลัง ระดับน้ำในหมู่บ้านสูงประมาณ 40-60เซนติเมตร บางจุดรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านเข้าไปได้ และมีชาวบ้านติดอยู่ภายบ้านเรือนกว่า 2,500คน ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ อบต.ในเมือง ได้นำเรือท้องแบน และเรือยนต์เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ภายในหมู่บ้านตลอดทั้งวัน สำหรับหมู่บ้านเอื้ออาทรนี้ อยู่นอกเขตพนังกั้นน้ำเคลื่อนที่ที่ทางรัฐบาลนำมาติดตั้ง ซึ่งตั้งตั้งเฉพาะเขตเศรษฐกิจ เขตชุมชนเมือง และพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทหินพิมายเท่านั้น จึงทำให้น้ำที่เอ่อล้นตลิ่งจากลำน้ำจักราชไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็วดังกล่าว
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ภายหลังจากที่น้ำลำตะคองซึ่งไหลผ่านตัวเมืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนหลายชุมชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด ระดับน้ำได้ลงลงสู่สภาวะปกติแล้ว โดยเฉพาะบริเวณชุมชนมิตรภาพซอย4และชุมชนตะคองเก่า ซึ่งอยู่ติดกับลำตะคอง ชาวบ้านได้ขนย้ายข้าวของเข้าไปอยู่ในบ้านและใช้ชีวิตตามปกติแล้ว ขณะที่บางบ้านก็ยังคงไม่ได้ทำความสะอาดพื้นที่บริเวณรอบบ้าน เนื่องจากยังมีน้ำเชอะแชะอยู่ ต้องรอให้พื้นแห้งก่อนประมาณ 2-3 วันจึงจะสามารถทำการเก็บกวาดได้
ที่ จ.บุรีรัมย์ ชาวนาบ้านตะแบง ม.2 ต.หัวฝาย อ.แคนดง ประสบปัญหาเดือดร้อนหนักจากน้ำมูลที่เอ่อท่วมนาข้าว บางรายต้องยอมควักเงินจ้างชาวบ้านในหมู่บ้านรายละ 250บาทต่อวัน นำเรือ กะละมังและภาชนะต่างๆ ลอยคอเกี่ยวข้าวในนาที่ออกรวงแล้วถูกน้ำเอ่อท่วมสูงกว่า 1 เมตร ถึงแม้บางส่วนข้าวยังไม่สุกเต็มที่เพื่อเก็บไว้บริโภคในครัวเรือนบรรเทาความเดือดร้อน เพราะไม่สามารถนำขาย หรือเข้าร่วมโครงการรับจำนำของรัฐบาลได้ ขณะที่นาข้าวของเกษตรกรหลายรายถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร จนไม่สามารถลุยน้ำไปเกี่ยวได้จึงต้องยอมปล่อยทิ้ง จากผลกระทบดังกล่าวจึงได้เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเร่งเข้ามาสำรวจช่วยเหลือ
ขณะที่ นายอุทัย อินทราชา เกษตรอำเภอแคนดงและทางอำเภอได้ลงพื้นที่สำรวจนาข้าวที่ถูกน้ำท่วม พบว่าขณะนี้มีนาข้าวถูกน้ำท่วมแล้วทั้ง 18หมู่บ้าน 4 ตำบล กว่า 12,000ไร่ และคาดว่าจะได้รับความเสียหายทั้งหมด ทั้งนี้ จ.บุรีรัมย์ คาดการณ์ว่า มวลน้ำก้อนใหญ่จากจังหวัดนครราชสีมาที่ไหลลงสู่ลำน้ำมูลจะผ่านพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 30ตุลาคมนั้น จะทำให้พื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นอีก จากกรณีดังกล่าวจะได้ประสานไปยังจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ให้นำกำลังพล ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อปพร.เข้าช่วยเหลือเกี่ยวข้าวในพื้นที่เสี่ยงหนีมวลน้ำก้อนใหญ่ดังกล่าวด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกน้ำท่วมเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งมี 3อำเภอที่เป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เนื่องจากอยู่ติดแม่น้ำมูลที่จะได้รับผลกระทบจากมวลน้ำจาก จ.นครราชสีมาและบุรีรัมย์ แล้วในขณะนี้ ประกอบด้วย อ.ชุมพลบุรี อ.ท่าตูมและอ.รัตนบุรี ล่าสุด น้ำเอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำมูลเข้าท่วมนาข้าวในพื้นที่ 3อำเภอหลายพันไร่แล้วและยังมีบางหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มติดแม่น้ำมูลได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยเฉพาะหมู่บ้านในพื้นที่ ต.กระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี ส่วน ต.หนองเรือ และต.ศรีณรงค์ ของ อ.ชุมพลบุรี ระดับน้ำเริ่มเอ่อล้นท่วมนาข้าว แต่บ้านเรือนยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งทางจังหวัดสุรินทร์ ได้แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมความพร้อมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่พบว่าระดับน้ำใน 1-2 วันนี้ยังคงทรงตัวอยู่
ส่วนบริเวณวังทะลุ บ.ตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม ซึ่งเป็นแอ่งกระทะจุดบรรจบของลำน้ำชีที่ไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรักและแม่น้ำมูลจก จ.นครราชสีมาและบุรีรัมย์ พบว่าน้ำได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมนาข้าวแล้ว ทำให้ชาวนาบางส่วนเร่งเก็บเกี่ยวข้าวหนีน้ำอย่าเร่งด่วน
ขณะที่เส้นทางจาก บ้านยางบ่อภิรมย์ ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางลัด ไปยังหมู่บ้านช้าง บ.ตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม โดยต้องใช้สะพานข้ามแม่น้ำมูลบนเส้นทางดังกล่าวระยะทางกว่า 6 กิโลเมตรถูกน้ำท่วมตัดขาด สูงกว่า 60 -80ซม.รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เทศบาลตำบลนาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี ต้องนำเต๊นท์มากางเป็นจุดอำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่ม โดยมีเจ้าหน้าที่ อปพร.ของหมู่บ้านคอยบอกให้ผู้ที่จะสัญจรเส้นทางดังกล่าวให้กลับรถเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นเนื่องจากน้ำท่วมสูงไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ดังกล่าว เนื่องจากหวั่นจะเกิดอันตราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี