สั่งจำคุก6เดือน
ไม่รอลงอาญา
มืออุ้มฆ่าพี่เตี้ย
สุนัขดังที่‘มช.’
แฟนคลับสุนัขเซเลบ “พี่เตี้ย มช.” เดินทางมาฟังคำพิพากษา คดีประวัติศาสตร์ทารุณกรรมสัตว์ โดยศาลชั้นต้นเชียงใหม่พิพากษาคุก6เดือน “ส.ต.ท. ตำรวจตชด.”ไม่รอลงอาญา ข้อหาอุ้มฆ่าสุนัขพันทางขวัญใจชาว มช. หัวหน้าฝ่ายกฎหมายมูลนิธิวอชด็อกฯชี้เป็นเคสตัวอย่างทำให้เห็นว่าการทารุณกรรมสัตว์มีความผิดตามกฎหมาย เป็นอาญาแผ่นดิน รัฐเป็นผู้เสียหายโดยตรง
จากกรณีการเสียชีวิตของ เตี้ย มช. สุนัขเซเลบชื่อดัง ของนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่หายออกไปจากมหาวิทยาลัยหลายวัน ก่อนจะพบเป็นศพถูกยัดใส่ถุงพลาสติกทิ้งไว้ในป่าริมถนน ต่อมาได้กลุ่มแฟนคลับเข้าแจ้งความกับผู้ต้องสงสัย หลังตรวจสอบกับกล้องวงจรปิดจับภาพได้ ขณะที่นำเตี้ย มช.ขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่ออกไปจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2563 นั้น
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ น.ส.สบันงา นนธะระ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ พร้อมคณะเดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดเชียงใหม่ คดีฆ่าสุนัข “เตี้ย มช.” โดยมีแฟนคลับของพี่เตี้ยมารอให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก มีการนำสเปรย์แอลกอฮอล์ที่มีรูปภาพของพี่เตี้ยมาแจก บางราย นำถุงผ้าสกรีนเป็นรูปพี่เตี้ย และใส่เสื้อมีข้อความสื่อถึงความน่ารักของพี่เตี้ย มารอรับฟังผลการตัดสินคดีด้วย
สำหรับคดีดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เวลาประมาณ 19.21 น. ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งจากพนักงานของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ว่า มีสุนัขพันทางเพศผู้ สีน้ำตาลขาว อายุ 8 ปี หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2563 ได้ติดตามหามาตลอด กระทั่งเวลา 17.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม ก็พบว่าเสียชีวิตอยู่ในป่าข้างทางริมถนนด้านข้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ในสภาพเน่าอืด เสียชีวิตมาแล้วหลายวัน ผลชันสูตรศพพบมีการถูกทำร้ายอย่างทารุณ ซึ่งสุนัขดังกล่าวมีฉายาว่า “เตี้ย มช.” เป็นสุนัขที่มีแฟนคลับเป็นนักศึกษา มช. รวมถึงประชาชนทั้งในจ.เชียงใหม่ และกลุ่มคนที่รักสุนัขทั่วประเทศ หลังมีการสืบสวนและติดตามหาพยานหลักฐาน จึงทราบว่าส.ต.ท.ปริญญา (สงวนนามสกุล) ตำรวจตระเวนชายแดน เป็นผู้ก่อเหตุฆ่าพี่เตี้ย มช.
จากนั้นเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ร่วมกันสืบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติมโดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กระทั่งมีการตัดสินวันนี้
โดยน.ส.สบันงา เปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาว่า คดีที่เกิดขึ้น ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้เห็นว่าการทารุณกรรมสัตว์มีความผิดตามกฎหมาย เป็นอาญาแผ่นดินที่รัฐเป็นผู้เสียหายโดยตรง ซึ่งคดีของพี่เตี้ย ศาลได้ยกฟ้องในเรื่องของการลักทรัพย์กลางคืน เนื่องจากเป็นการสืบทราบพยานหลักฐานที่ไม่ครบ และการยืนยันชัดเจนเรื่องการเป็นเจ้าของ แต่เราดีใจมากที่ศาลตัดสินในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ และเป็นคดีที่ 8 ในประวัติศาสตร์ ที่ได้ดำเนินการมา และได้ตัดสินคดีข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งศาลพิพากษาให้ผู้กระทำผิดจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ส่วนเรื่องที่ผู้ก่อเหตุจะอุทธรณ์ต่อศาลหรือประกันตัวนั้น ทางมูลนิธิฯ ก็จะดำเนินการคัดค้านการอุทธรณ์ตามหลักฐานที่มี
น.ส.ทิวาทร ศิริรัตน์ และน.ส.วราภรณ์ อินสม ทีมแอดมินเพจเตี้ย มช. และเครือข่ายดูแลหมา มช. กล่าวว่า รู้สึกว่าศาลมีเมตตามาก ไม่ว่าสัตว์จะมีเจ้าของหรือไม่มีเจ้าของก็มีผู้ดูแล ก็พิจารณาให้เป็นอย่างดี 3 ปีที่รอคอยก็ถือว่านาน การสืบความพยานหลักฐานนำเข้าตั้งแต่ชั้นสอบสวน สืบสวนแล้ว ในทีมสืบอาชญากรรมก็ดูอย่างละเอียด หลักฐานในคดีนี้มีมาก มีหลักฐานทั้งเหตุและผล มีนิติวิทยาศาสตร์ ศาลพิพากษาตามหลักฐานที่มี และเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับ “เตี้ย มช.” บ้าง ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากที่ได้ส่งหลักฐานมาให้ การรอ 3 ปีถือว่านาน แต่การรอแล้วได้ความเป็นธรรมถือว่าสมการรอคอย
สำหรับ “เตี้ย มช.” หรือ”พี่เตี้ย” เป็นสุนัข เพศผู้อายุ 8 ปี อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นที่รู้จักจากประเพณีรับน้องขึ้นดอย ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในทุกปี “พี่เตี้ย” จะร่วมวิ่งขึ้นดอยกับนักศึกษา โดยเฉพาะช่วง”โค้งสปิริต” โค้งสุดท้ายก่อนถึงดอยสุเทพ ซึ่งหลายคนจะคอยจับตาว่าพี่เตี้ย วิ่งขึ้นดอยชนิดใส่เกียร์หมา พร้อมรุ่นน้องคณะวิศวกรรมศาสตร์ จนทำให้ เตี้ย กลายเป็นขวัญใจของชาว มช.และคนรักสุนัขทั่วประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี