31 กรกฎาคม 2566 ร.ต.อ.ปรีชา เต็กสี ร้อยเวรสอบสวนสภ.ลาดหลุมแก้ว ได้รับแจ้งเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บหน้าสนามชนไก่ดีดีอนันตชัย ม.1 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ปัญญา เหล็กดี รองผกก.สอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสภ.ลาดหลุมแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง

ที่เกิดเหตุพบว่ามีพลเมืองดีนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลลาดหลุมแก้วไปก่อนแล้วและเสียชีวิตในเวลาต่อมาทราบชื่อนายอภิชัย อุดมผล อายุ 40 ปีหรือ เสี่ยโก้ ชาวจังหวัดราชบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบเข้าที่ลำตัวจำนวนหลายนัด ส่วนหน้าสนามชนไก่พบเบนซ์ สปอร์ต รุ่น AMG GLC 43 สีดำ ทะเบียน ฆฆ 5454 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ข้างป่าข้างทาง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่กระจกฝั่งคนขับจำนวนหนึ่งและที่ประตูฝั่งคนนั่งข้างมีรอยกระสุนปืนออกมา 1 รู และถนนทางเข้าสนามชนไก่พบปลอกกระสุนปืนพร้อมหัวกระสุนปืนตกอยู่จำนวนหลายปลอก พร้อมกันนี้ยังมีคราบเลือดและรองเท้าของผู้ตายตกอยู่บนพื้นฝั่งคนขับ 1 ข้าง

จากการสอบถามนายนพดล (สงวนนามสกุล) กล่าวว่า ผู้ตายมาเล่นไก่ตั้งแต่เช้าซึ่งช่วงเกิดเหตุสนามชนไก่เลิกแล้วคนพันกว่าคนเดินออกมาพร้อมกันซึ่งตนเองก็เดินตามพี่โก้ออกมาซึ่งพี่โก้เดินออกมาก่อนจังหวะเดินนั้นคนมันเยอะและถนนก็แฉะซึ่งตนไม่ทราบว่ารถของพี่โก้จอดอยู่ตรงไหน และตนเองก็ได้ยินเสียงดังแปะ ตนเองก็นึกว่ารถมันทำอะไรจากนั้นมือปืนก็รัวอีกหลายนัดซึ่งเป็นการยองแบบออโต้ปัง ปัง ปัง และคนก็วิ่งย้อนกลับมาที่สนามและรถก็ติดด้วย จากนั้นก็มีคนตะโกนว่าพี่โก้โดนยิง ซึ่งมาเล่นซึ่งมากับเพื่อนอีก 1 คนไม่ได้เอาไก่มาด้วยเพียงแต่มาเล่นตีไก่เท่านั้น ช่วงเช้านั้นเสีย แต่มาได้ช่วงเย็นซึ่งเพื่อนที่มาด้วยนั้นกลับไปแล้วซึ่งพี่โก้เขาเล่นหลายคู่และตนเองเข้าไปเป็นคนที่ 1500 และตอนออกคนเยอะด้วยจึงเดินตามเขาไม่ทันเสียปืนดังหลายนัดประมาณ 1 แม็กทุกทีเราจะจอดรถแถวหน้าบ่อนไก่ แต่วันนี้รถเยอะเราจึงเอารถมาจอดไว้ด้านนอกที่เกิดเหตุมืดเลยมองไม่เห็นอะไร ซึ่งพี่โก้โดนยิงในรถเลย

ด้านร.ต.อ.ปรีชา เต็กสี ร้อยเวรสอบสวนสภ.ลาดหลุมแก้ว หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ส่วนประเด็นของมือปืนที่ก่อเหตุครั้งนี้นั้นยังมีหลายประเด็น และจะได้สอบสวนพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง