ปิดเมืองไล่ล่า!ตำรวจหวิดได้ตัว‘รปภ.ปืนโหด’ แต่นกรู้หนีไปก่อน ทิ้งกระสุนไว้อื้อ

ปิดเมืองไล่ล่า!ตำรวจหวิดได้ตัว‘รปภ.ปืนโหด’ แต่นกรู้หนีไปก่อน ทิ้งกระสุนไว้อื้อ

วันจันทร์ ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2566, 18.45 น.

ปิดเมืองไล่ล่า!ตำรวจหวิดได้ตัว‘รปภ.ปืนโหด’ แต่นกรู้หนีไปก่อน ทิ้งกระสุนไว้อื้อ

31 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้าเหตุนายสุขชัย อายุ 54 ปี รปภ. ใช้อาวุธปืนยิงนายวิชา อายุ 72 ปี พี่เขย ก่อนจะขี้รถจักรยานยนต์ (จยย.) มาที่หมวดทางหลวงละหาน หมู่ 9 บ้านลี่ ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ แล้วใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงนายพงศ์ธร อายุ 31 ปี เพื่อนร่วมงาน ลูกจ้างชั่วคราวหมวดทางหลวงละหาน เสียชีวิต ก่อนจะหลบหนีไป (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไล่ล่า รปภ.ปืนโหด!ออกหมายจับแล้ว แฉขู่ก่อเหตุซ้ำยิงพี่สาว-พนักงานหมวดทางหลวง)


ทั้งนี้ ที่วัดเพชรพิบูรณ์ บ้านนางเม้ง หมู่ 3 ต.โพนทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบริเวณตั้งศพของนายพงศ์ธร พนักงานหมวดทางหลวงละหาน มีชาวบ้านมาแสดงความเสียใจและไว้อาลัยกับเหตุการณ์ โดยมีนายจักรกฤษณ์ บุญเรืองศรี ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชัยภูมิ นำพวงหรีดมาไว้อาลัย อีกทั้งทางญาติของผู้เสียชีวิตได้ติดต่อขอรับร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.กระบี่ ซึ่งพ่อของผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำรถพยาบาลเคลื่อนร่างกลับไปตามความประสงค์ของญาติ

ด้าน พ.ต.อ.อภิวัชร์ นาทอง ผกก.สภ.บ้านค่าย กล่าวว่า ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงและถนนหลักเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุจะใช้หลบหนีและให้เจ้าหน้าที่ทางชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ชุดสืบสวน สภ.บ้านค่าย และ สภ.จัตุรัส ลงพื้นที่ติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุที่คาดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกันแล้วนั้น หลังจากที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านผู้ก่อเหตุพบปืนสั้นยาว พร้อมเครื่องกระสุน จำนวนหลายรายการ ทั้งยังพบว่ามีประวัติการครอบครองปืนอย่างถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 5 กระบอก  และยังมีปืนของปลอมอีกจำนวนหนึ่ง จึงทำการตรวจยึดและนำไปทำการตรวจสอบ

อีกทั้งยังได้ประสานท้องที่ใกล้เคียงบริเวณรอยต่อ ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุจะหลบหนีไป โดยให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามเขตรอยต่อ อ.เมือง อ.จัตุรัส อ.บ้านเขว้า และ อ.หนองบัวแดง เพื่อเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และขอแจ้งเตือนประชาชนผู้ที่พบเห็น หรือ พบเจอผู้ก่อเหตุขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันไม่ให้ก่อเหตุซ้ำอีก เนื่องจากผู้ก่อเหตุนั้นมีอาวุธติดตัวอยู่ตลอด พร้อมจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด

ขณะที่ช่วงบ่ายผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นไปตรวจสอบอีก 1 พิกัดที่มีการแจ้งว่าคนร้ายไปโผล่อยู่ที่ อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร (กม.) ชาวบ้านในพื้นที่พบชายต้องสงสัยอยู่ภายในป่าไผ่ใกล้กับไร่อ้อย ถือมีดยาวคล้ายมีดตัดอ้อย สะพายกระเป๋าสวมกางเกงยีนส์ เมื่อช่วงเวลา 09.00 น ของวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่ไม่พบรถจักรยานยนต์แต่อย่างใด จนกระทั่งตนเองกลับมาที่บ้านเห็นข่าวในทีวีจึงจำได้ว่าบุคคลที่เห็นเป็นคนเดียวกัน จนกระทั่งทางผู้ใหญ่บ้านได้เดินทางมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเขว้า เวลาประมาณ 22.00 น สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากตนเอง แล้วก็ออกจากบ้านไป ซึ่งยอมรับว่าตนเองค่อนข้างที่จะกลัวหากชายคนดังกล่าวเป็นคนร้าย หรือฆาตกรที่ฆ่าคนมาจริง ก็เกรงว่าตนเองจะเป็นอันตรายไปด้วยรวมถึงคนในหมู่บ้านได้

ด้านชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ชุดสืบสวน สภ.บ้านค่าย และชุดสืบสวน สภ.จัตุรัส ได้วางกำลังออกปูพรมแกะรอยหาแบะแสเส้นทางหลบหนี โดยล่าสุดทราบเบาะแสว่าคนร้ายได้หลบมายังบ้านท่าวังย่างควาย ต.วังชมพู  อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ อยู่กับคนรู้จักที่พักกระท่อมกลางไร่อ้อย เจ้าหน้าที่จึงบุกจู่โจม แต่คนร้ายได้ไหวตัวและหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง พบเพียงกล่องกระสุนปืนและเครื่องกระสุนปืนขนาด.38 จำนวนกว่า 40 นัด และกระสุน 9 มม. อีกจำนวน10 นัด   

ทั้งนี้เมื่อทราบว่าคนร้ายมีปืนที่พกติดตัวจำนวนถึง 2 กระบอก ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องยกระดับความปลอดภัยโดยการติดอาวุธหนักครบมือออกไล่ล่าคนร้ายรายนี้อย่างกะชันชิด โดยทราบเส้นทางที่ทางหลบหนีแล้ว

ส่วนนางอุลัยวรรณ อายุ 68 ปี พี่สาวผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า น้องชายส่วนตัวเป็นคนอารมณ์ร้อน เก็บตัวไม่ชอบสุงสิงกับคนหมู่มาก ตนเคยได้ยินชาวบ้านลือกันว่าน้องชายจะมาฆ่าคนในครอบครัวให้หมด ก็มีความกังวลใจอยู่มาก และมีหลายคนกลัวที่จะมาร่วมงาน ส่วนตัวห่วงน้องชายไม่อยากให้ไปทำร้ายคนอื่นส่วนตนเองแก่แล้วเดี๋ยวก็ตาย ซึ่งสภาพจิตใจญาติพี่น้องหลายคนขณะนี้ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  โดยที่ผ่านมาพี่เขยและตนเห็นใจน้องชายที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวและไม่เคยก้าวก่ายสิทธิส่วนตัวน้องชายเลย มีแต่พยายามเอาใจทำดี เพื่อที่หวังว่าน้องชายจะเห็นความดี ปรับเปลี่ยนนิสัยให้เข้ากันได้กับตนเองและพี่เขยบ้าง ซึ่งในเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นแล้วก็ให้มันผ่านไป ตนเองพยามอภัยและอโหสิกรรม ที่ทำไว้เพียงแต่ขอให้น้องชายออกมายอมมอบตัวรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้นและกลับตัวกลับใจเสียใหม่เท่านี้

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top