‘อุบลฯ-โคราช’คึก

แห่เทียนอลังการ

งานเข้าพรรษา

เงินสะพัด400ล.

อลังการขบวนแห่เทียนเทศกาลวันเข้าพรรษาปีนี้ อุบลฯแห่เทียนพรรษา ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายเย็นชุ่มฉ่ำ หอการค้าฯ คาดมีนักท่องเที่ยวนำเงินมาใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท ขณะที่โคราช เมืองย่าโม เปิดงานแห่เทียนพรรษา“แสงเทียนแห่งศรัทธาอย่างยิ่งใหญ่”งานประเพณี นักท่องเที่ยวแห่ชมแน่น คาด4วันเงินสะพัด100 ล้าน

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 บรรยากาศของงานแห่เทียนเทศกาลในวันเข้าพรรษาประจำปีนี้ นักท่องเที่ยวเดินทางไปชมกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะ ที่หน้าประรำพิธีลานขวัญเมือง ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานแห่ต้นเทียนพรรษาประจำปี 2566

โดยขบวนแรกเป็นการอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทาน และผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน ตามด้วยขบวนฟ้อนรำของนางรำประจำต้นเทียนทั้ง 53 ต้น และธิดาประจำงานเทียนพรรษาปีนี้

โดยต้นเทียนพรรษาที่นำมาแห่ไปรอบเมือง แบ่งเป็นต้นเทียนประเภทต้นเทียนแกะสลัก และต้นเทียนประเภทติดพิมพ์ขนาดใหญ่ ยังมีต้นเทียนแบบโบราณ และต้นเทียนขนาดกลาง โดยจะมีการเคลื่อนขบวนสลับกันไปมา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามวิจิตรตระการตาของฝีมือช่างทำต้นเทียนพรรษาในแต่ละประเภทของจังหวัดอุบลราชธานี

สำหรับการลงทุนทำต้นเทียนพรรษาปีนี้ ต้นเทียนขนาดใหญ่แต่ละต้นใช้เทียนมากว่า 10 ตัน ด้วยงบลงทุนต้นละกว่า 1 ล้านบาท และหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี คาดว่าจะมีเงินที่นักท่องเที่ยวนำมาใช้จ่ายท่องเที่ยวงานแห่เทียนพรรษาไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท และตลอดการแห่ต้นเทียนไปรอบเมือง โดยมีฝนตกโปรยปรายลงมาเล็กน้อย ทำให้มีอากาศเย็นสบาย

บริเวณแยกถนนราชดำเนิน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาของจังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2566 ภายใต้ชื่องาน “แสงเทียนแห่งศรัทธา แห่เทียนพรรษาเมืองโคราช”พร้อมปล่อยขบวนแห่ ขบวนเทียนพรรษาจากคุ้มวัดต่างๆ

โดยมีนายชัชวาล วงษ์จร รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา(การศึกษา) พร้อมผู้บริหารร่วมปล่อยขบวน ท่ามกลางนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจำนวนนับหมื่นคน ที่เดินทางไปชมความงดงามอลังการของขบวนเทียนพรรษากันอย่างเนืองแน่นตลอดสองข้างทางที่ขบวนเทียนพรรษาเคลื่อนผ่านหลายหมื่นคน

โดยปีนี้มีขบวนเทียนพรรษา และขบวนแห่จากคุ้มวัดต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา ส่งเข้าร่วมประกวดรวม จำนวน 21 ขบวน โดยขบวนเทียนพรรษาได้เริ่มแห่ขบวนเทียนจากบริเวณแยกถนนราชดำเนิน เคลื่อนขบวนเทียนพรรษาไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ประกอบด้วย ถนนจอมสุรางค์ยาร์ต ถนนสุรนารี ถนนอัษฎางค์และถนนจอมพล เป็นระยะทางรวมกว่า 5 กิโลเมตร เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้ชมความงดงามอลังการของขบวนเทียนพรรษาอย่างใกล้ชิด

สำหรับขบวนเทียนพรรษาของแต่ละคุ้มวัด ยังคงเน้นประดิษฐ์แกะสลักบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ ซึ่งคุ้มวัดที่ชนะเลิศการประกวดแห่เทียนพรรษาทั้งประเภท ก. และประเภท ข. จะได้รับรางวัลถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรางวัลเงินสด

โดยตัวเต็งแชมป์ขบวนเทียนพรรษาของปีนี้เป็นขบวนเทียนพรรษาของ 2 วัดดัง คือ ขบวนเทียนพรรษาของวัดใหม่สระประทุม อำเภอโชคชัย ซึ่งเป็นเจ้าของแชมป์ถ้วยพระราชทาน ประเภท ก. 13 สมัย และขบวนเทียนพรรษาของวัดเดิม อำเภอพิมาย ที่เป็นแชมป์เก่าถ้วยพระราชทาน ประเภท ก. เมื่อปีที่ผ่านมา โดยการจัดงานมีไปจนถึงวันที่ 4 ส.ค. 2566 กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว จ.นครราชสีมา มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท