ชาวบ้านมุกดาหาร ถือป้ายหน้าศาลากลาง จี้ยกเลิกกังหันลม
3 สิงหาคม 2566 ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายอดิศักดิ์ ตุ้มอ่อน ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย พร้อมด้วยชาวบ้านโนนคำกว่า 100 คน จากตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร และได้ถือป้ายผ้าที่มีข้อความจำนวนหลายป้าย เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร สั่งยกเลิกใบอนุญาตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมูแปลง 2 เพื่อดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมของบริษัทเอกชน เพราะพื้นที่โครงการได้ทับที่ดินทำกินทั้งที่อยู่ในและนอกพื้นที่พิพาทที่กำลังอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหาจากนโยบายทวงคืนผืนป่า
จากนั้นนายบุญเรือง เมฆฉิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานประชุมร่วมกับ นายวิมล อึ้งพรหมบัญฑิต ผอ.ทสจ.มุกดาหาร , นายชลวิทย์ นามจันทรา นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ พร้อมด้วยกลุ่มชาวบ้าน เพื่อหารือข้อยุติและหาทางออกให้กับกลุ่มชาวบ้านที่ได้ผลกระทบ
นายวิมล กล่าวกับกลุ่มชาวบ้านว่า ทางกรมป่าไม้ได้มีหนังสือมาที่จังหวัดมุกดาหาร และทางผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบใหม่ โดยมีคณะกรรมการ 3 ฝ่าย แต่ทาง ผวจ. ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นหลายฝ่ายเพื่อตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดเริ่มต้นใหม่ว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหนบ้าง และมาแก้ไขให้ถูกต้อง ส่วนเรื่องให้ทางจังหวัดยกเลิกใบอนุญาตนั้น ทางจังหวัดไม่มีอำนาจ และจะได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ส่งให้ทางกรมป่าไม้เพื่อพิจารณาต่อไป
ล่าสุด ผอ.ทสจ.มุกดาหาร มีข้อสรุปในที่ประชุมว่ามีชาวบ้านมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม และในขณะนี้จังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงขอให้บริษัทชะลอการเข้าพื้นที่ และแต่งตั้งคณะกรรมการ และบริษัทเป็นผู้ร่วมให้ข้อมูลในคำสั่ง เพื่อให้ผู้ชุมนุมได้สบายใจ ส่วนกลุ่มชาวบ้านจะปักหลักที่หน้าศาลากลางจะอยู่ต่อหรือไม่ ต้องรอดูหนังสือบันทึกข้อตกลงเสียก่อน ถ้ายังไม่เห็นหนังสือก็ยังจะปักหลักค้างแรมต่อไป
ขณะที่ราษฎรกลุ่มอนุรักษ์น้ำซับฯได้ลุกขึ้นมาปกป้องที่ดินทำกินและแผ่นดินถิ่นเกิดยังโดนกระทำซ้ำ ในระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากนโยบายทวงคืนผืนป่า ได้มีโครงการพลังงานทางเลือกตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG เข้ามากระทำซ้ำ เมื่อปลายปี 2565 บริษัทได้ยื่นขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมูแปลง 2 เพื่อดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม ต่อมากรมป่าไม้ก็ได้อนุญาตให้เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนฯดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 ทั้งที่กระบวนการยื่นคำขอไม่ถูกต้องตั้งแต่ขั้นตอนแรก เนื่องจากไม่มีการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ในรัศมีที่จะตั้งโครงการ ไม่มีการทำประชาคมหมู่บ้านก่อนยื่นต่อสภาเทศบาลตำบลคำป่าหลายเพื่อให้มีมติ ไม่มีการตรวจสอบพื้นที่และกำหนดขอบเขตที่จะตั้งโครงการให้ชัดเจน ไม่มีการตรวจสอบสภาพป่าก่อนยื่นเอกสารประกอบให้สภาเทศบาลคำป่าหลายมีมติเห็นชอบ และที่สำคัญพื้นที่โครงการได้ทับที่ดินทำกินทั้งที่อยู่ในและนอกพื้นที่พิพาทที่กำลังอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหาจากนโยบายทวงคืนผืนป่า
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กรมป่าไม้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เพื่อขอให้พักใบอนุญาตโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมของบริษัทดังกล่าว เพราะอาจทำผิดเงื่อนไขแนบท้ายการอนุญาต แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารยังนิ่งเฉยไม่มีการดำเนินการตามหนังสือของกรมป่าไม้แต่อย่างใด ถึงเวลาแล้วที่ราษฎรจะเป็นคนกำหนดอนาคตในการจัดการทรัพยากรที่ดิน ป่าไม้ แหล่งน้ำ โดยมีหมุดหมายร่วมออกมาทวงคืนสิทธิ์หลังถูกนโยบายรัฐและทุนพรากไปกว่า 9 ปี
ทั้งนี้ นับกว่า 9 ปี ราษฎรกลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย ใช้สิทธิในปกป้องแผ่นดินเกิด เคลื่อนไหวต่อสู้กับโครงการเหมืองแร่หินทรายเพื่ออุตสาหกรรม นโยบายทวงคืนผืนป่า คสช. และปัจจุบันโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมที่จะก่อสร้างในพื้นที่ ซึ่งมีที่มาจากกฎหมายหรือนโยบายรัฐและนายทุน ที่พยายามยัดเยียดโครงการพัฒนาที่ไม่เป็นธรรมและไม่เคยฟังเสียงราษฎรในพื้นที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี