คาด 2 คนร้ายบุกยิงชายวัย 51 ปี ดับคาบ้านพัก

6 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 00.15 น. พ.ต.ต.สมบัติ มุสิกิม สารวัตรหัวหน้า สภ.โคกชะงาย พร้อมด้วย ร.ต.อ.ณฐกัน พรหมปาน ร้อยเวร และ พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง , เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน , แพทย์เวรโรงพยาบาลพัทลุง เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 8 ต.โคกชะงาย อ.เมือง จ.พัทลุง 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เจ้าหน้าที่พบศพนายอุทิต อายุ 51 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตภายในห้องนอนในสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด เข้าบริเวณหน้าอกด้านซ้าย 1 แผล ด้านหลังอีก 2 แผล ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ตกอยู่ข้างศพในสภาพขึ้นลำกล้อง แต่ไม่มีกระสุน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบรอยเลือดหยดตั้งแต่บริเวณหน้าบ้าน ประตูบ้าน บริเวณห้องโถงอีกจำนวนหนึ่ง

นางส่อง อายุ 79 ปี แม่ของผู้ตายซึ่งอยู่บ้านอีกหลังห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ 50-60  เมตร แต่เป็นคนหูหนวก ไม่ได้ยินเสียงปืน เป็นคนพบศพ เนื่องจากทุกวันแม่ต้องนำอาหารมาให้ผู้ตาย เพราะผู้ตายอาศัยอยู่ที่บ้านดังกล่าวเพียงลำพัง ก่อนพบศพแม่ก็นำอาหารมาให้ตามปกติเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.วันที่ 5 สิงหาคม 2566 และได้แจ้งให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทราบ เมื่อเวลา 22.00 น. จากนั้นทางผู้ใหญ่บ้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบดังกล่าว

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนตั้งแต่ช่วงประมาณ  17.00  น.- 18.00 น.วันที่ 5 สิงหาคม 2566 แต่ไม่มีใครสนใจเพราะตามปกติผู้ตายจะยิงปืนเล่นบ่อยครั้ง เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะมา 2 คน ใช้อาวุธปืนคนละกระบอกและคนละชนิด ยิงเข้าใส่ผู้ตายบริเวณหน้าบ้าน จากนั้นผู้ตายวิ่งหนีเข้าบ้าน ทำให้เลือดไหลหยดเป็นทาง จนกระทั่งคนร้ายตามเข้าไปยิงซ้ำในห้องนอนจนเสียชีวิต

นายปราโมทย์  เอียดคง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 กล่าวว่า ว่าผู้ตายเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ไม่สุงสิงกับใคร มีพฤติกรรมเสพยาบ้าจนมีอาการหลอน ช่วง 2-3 ปีหลัง มีอาการหลอนหนักมากขึ้น ถึงขั้นทำลายข้าวของภายในบ้านอยู่เป็นประจำ บางครั้งออกเดินตามถนนสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน แต่ไม่เคยทำร้ายเพื่อนบ้าน สำหรับคู่อริเก่าก็มีเนื่องจากผู้ตายเป็นคนร้ายตัวพอสมควร 

อย่างก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปพิสูจน์การเสียชีวิตอีกครั้งที่โรงพยาบาลพัทลุง เพื่อหาหัวกระสุนที่คาดว่าฝังใน และจะเรียกพยานบุคคลใกล้ตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อหาคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต หลังจากนั้นจะมอบศพให้กับญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

-005