ฝนถล่มจมบาดาล

นครพนมประกาศเขตภัยพิบัติ

‘น่าน-ตาก’ดินสไลด์ปิดถนน

อุตุฯเตือนซ้ำ “เหนือ-อีสาน-ตะวันออก” ยังมีฝนหนักต่อเนื่องระวังน้ำท่วม น้ำป่า ขณะที่นครพนมสาหัส ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติทั้งจังหวัด น้ำโขงเพิ่มใกล้แตะจุดวิกฤต “น่าน” อ่วมฝนตกหนัก ดินสไลด์ปิดเส้นทาง “บ่อเกลือ-เฉลิมพระเกียรติ” รถผ่านไม่ได้ 3 เส้นทางส่วน “ตาก” อำเภอแนวชายแดนยังมีฝนหนัก ถนนสายหลักทรุดตัวเป็นระยะทาง 50 เมตร

ไหล่ทางดินสไลด์ รถผ่านไม่ได้ ส่วนแม่น้ำเมยเอ่อท่วมหมู่บ้านวังผา อ.แม่ระมาด

วันที่ 7 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ทำให้เกิดน้ำท่วมน้ำป่าไหลหลากบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรของชาวบ้านเสียหายเป็นวงกว้าง

นครพนมอ่วมน้ำโขงเพิ่มใกล้วิกฤติ

ที่จ.นครพนม ระดับน้ำโขงในพื้นที่ยังสูงต่อเนื่อง แม้ปริมาณน้ำฝนจะลดลง หลัง 10 วันที่ผ่านมาทั่วจังหวัดมีท้องฟ้ามืดครึ้ม ฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม เป็นต้นมา ทำให้ปริมาณน้ำโขงเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำโขงวัดได้ 9.32 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 12 เซนติเมตร ห่างจากจุดวิกฤติล้นตลิ่งแค่ 2 เมตรเศษคือที่ 12 เมตร ส่งผลกระทบลำน้ำสาขาสายหลัก ได้แก่ ลำน้ำก่ำ ลำน้ำบัง ลำน้ำอูน ลำน้ำยาม และลำน้ำสงคราม เริ่มไหลระบายลงน้ำโขงช้า ทำให้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวเสียหายเกือบ 5,000 ไร่ หนักสุดที่ อ.ธาตุพนม มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมกว่า 3,500 ไร่

ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติทั้งจว.

ด้านนายวันชัย จันทร์พร ผุ้ว่าราชการจังหวัดนครพนมนำเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจให้การช่วยเหลือ วางแผนสำรวจชดเชยเยียวยา ตามระเบียบราชการ พร้อมแจกถุงยังชีพช่วยบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมออกคำสั่งประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมทั้งจังหวัดรวม 12 อำเภอ พร้อมเผยว่า สถานการณ์น้ำยังกังวลเรื่องน้ำโขงที่เพิ่มต่อเนื่อง ส่วนปริมาณฝนในพื้นที่ลดลง แต่ทางเหนือของจังหวัดยังมีฝนตกอยู่ จึงเสี่ยงที่จะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากน้ำโขง ยังเพิ่มระดับต่อเนื่อง

ทำลายหิน50ตันเปิดเส้นทางสบเมย

อีกด้านหนึ่งหลายจังหวัดภาคเหนือนอกจากเจอฝนตกหนักน้ำป่าไหลท่วมแล้ว ยังประสบเหตุดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง โดยที่อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน หินภูเขาหนัก 50 ตัน หล่นขวางเส้นทางสัญจรมา 5 วันแล้วเจ้าหน้าที่นำเครื่องจักรเร่งทำลาย เพื่อเปิดเส้นทางสัญจร เพราะหินภูเขาขนาดใหญ่ น้ำหนัก 50 ตัน ปิดขวางเส้นทางสัญจรระหว่างบ้านอุมโละ – บ้านสบโขง ต.แม่สวด อ.สบเมยมา 5 วันแล้ว คาดว่าวันนี้จะดันหินภูเขาที่เหลือออกได้หมด นายอัครพันธุ์ พูลศิริ นายอำเภอสบเมย ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยบ้านแม่ตอละ หมู่ที่ 2 ต.แม่สามแลบ มอบถุงยังชีพพระราชทาน ขณะที่จังหวัดมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น ซึ่งในพื้นที่ตอนนี้ยังมีฝนตกต่อเนื่อง การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก เบื้องต้นมีชาวบ้านเดือดร้อนถูกน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่มบ้านเรือนเสียหาย 27 หลัง มีผู้เสียชีวิต 1 คน ชาวบ้านบางส่วนต้องย้ายไปอยู่พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว

น่านถนนทรุด3เส้นทางรถผ่านไม่ได้

ที่จ.น่าน ดินสไลด์ปิดทับเส้นทางถนนทรุด 3 เส้นทาง รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ได้แก่ เส้นทางสายหลักลาย-บ่อเกลือ บริเวณบ้านห้วยโป่ง ต.บ่อเกลือใต้ เส้นทางบ่อเกลือ-สะปัน บ้านเวร หมู่ 15 บ้านห้วยโป่ง ต.บ่อเกลือใต้ และเส้นทางอ.บ่อเกลือ – อ.เฉลิมพระเกียรติ เลยตัวอำเภอบ่อเกลือไปประมาณ 5 กิโลเมตร จังหวัดประกาศเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวให้เลี่ยงเส้นทางดังกล่าว หมวดทางหลวงบ่อเกลือประสานศูนย์สร้างสะพานพิจิตร นำสะพานแบริ่งมาติดตั้งใน 2 วันนี้ ใช้เวลาติดตั้ง 3 -5 วัน นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนเข้าบ้านเรือนประชาชน บ้านงิ้ว หมู่ที่ 9 ต.เชียงกลาง อ.เชียงกลาง เสียหาย 20 หลังคาเรือน ทางอำเภอสั่งเฝ้าระวังพิเศษที่จุดวัดระดับน้ำสะพานหลังที่ว่าการอำเภอท่าวังผา เนื่องจากระดับน้ำสูง 4.35 เมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยระดับวิกฤติอยู่ที่ 6.50 เมตร

ตากดินสไลด์ถนนพัง-รร.หยุด 3 วัน

เช่นเดียวกับที่จ.ตาก โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนอ.ท่าสองยางพบว่า หลวงแผ่นดินหมายเลข 105 ถนนสายแม่สอด-แม่สะเรียง ช่วงบ้านแม่ตะวอ หมู่ 1 ไปบ้านแม่จวาง หมู่ 8 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 149 ผิวการจราจรทรุดตัว พังเป็นระยะทางกว่า 50 เมตร ลึกกว่า 1 เมตร ไหล่ทางภูเขาเกิดดินสไลด์เป็นแนวลึก รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ ทำให้ครูนักเรียนของโรงเรียนบ้านแม่จวางประมาณ 400 คน โรงเรียนจึงประกาศหยุดเรียน 3 วัน เพราะถนนสายนี้เป็นถนนสายหลัก เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น แต่การซ่อมถนนนั้น ต้องรอฝนหยุดตกก่อน ส่วนสถานการณ์แม่น้ำเมยเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ในหมู่บ้านวังผา หมู่ที่ 4 ตำบลแม่จะเรา อำเภอแม่ระมาด ทหารและฝ่ายปกครองระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย

เหนือ-อีสานระวังฝนหนักน้ำท่วม

เมื่อเวลา 17.00 น.วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและจีนตอนใต้ ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักมากในภาคเหนือ ตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง คลื่นสูง 1-2 เมตร

ตกหนัก70%-กทม.แค่40%

กรมอุตุฯยังพยากรณ์อากาศประเทศไทยถึงเวลา 18:00 น. วันที่ 8 สิงหาคมว่า ภาคเหนือมีฝนร้อยละ 70 ของพื้นที่ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณจ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ฝนตกหนักบริเวณจ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ภาคกลางมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจ.นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร ภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจ.จันทบุรี และตราด คลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ทะเลคลื่นสูง 1-2 เมตร เช่นเดียวกับ กรุงเทพและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ