นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาพอากาศ ในประเทศไทยเริ่มหนาวเย็นลง ประชาชนมักเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น ซึ่ง จ.น่าน ถือว่าเป็นอีกจังหวัดหนึ่ง ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวตามภูเขา หรือตามดอย เพราะมีบรรยากาศที่เย็นสบาย เหมาะแก่การกางเต็นท์นอน จึงอยากเตือนนักท่องเที่ยวหรือประชาชนให้ระมัดระวังตัวไรอ่อน (chigger) กัด เมื่อตัวไรกัดคนจะปล่อยเชื้อที่เรียกว่าริกเก็ตเซีย (Rickettsia) ซึ่งก่อให้เกิดโรคไข้รากสาดใหญ่หรือสครับไทฟัส (Scrub typhus)

โดยไรอ่อนมักจะเข้าไปกัดบริเวณร่มผ้า เช่น อวัยวะสืบพันธุ์ ขาหนีบ เอว ลำตัวบริเวณใต้ราวนม รักแร้ และคอ โรคนี้จะพบมากในช่วงฤดูฝน และต้นฤดูหนาว อาการที่สำคัญ ได้แก่ ปวดศีรษะอย่างรุนแรงบริเวณขมับและหน้าผาก ตัวร้อนจัด มีไข้สูง 40-40.5 องศาเซลเซียส หนาวสั่น เพลีย ปวดเมื่อยตัว ปวดกระบอกตา เยื่อบุตาแดง และเยื่อบุช่องปากแดง บริเวณที่ถูกไร่อ่อนกัด เมื่อกดจะเจ็บ มีจุดสีแดงคล้ำบางรายมีแผลคล้ายถูกบุหรี่จี้กัด เมื่อกดจะเจ็บ มีอาการไอแห้งๆ ไต ตับ ม้ามโต ตรงบริเวณที่ถูกไรอ่อนกัด มีสีแดงคล้ำ เป็นรอยบุ๋ม ไม่คัน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรค ผู้ป่วยประมาณร้อยละ 20-50 อาจจะมีอาการแทรกซ้อน ได้แก่การอักเสบที่ปอด สมอง ในรายที่อาการรุนแรงอาจทำให้หัวใจเต้นเร็วมาก ความดันโลหิตต่ำ อาจถึงขั้นช็อกเสียชีวิตได้

โดยขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่มียารักษาให้หายได้ จึงขอให้ประชาชนที่จะไปท่องเที่ยวตั้งแคมป์ไฟ กางเต็นท์นอนในป่า เก็บกวาดบริเวณค่ายพักให้โล่งเตียน หลีกเลี่ยงการนั่งและนอนบนพื้นหญ้า บริเวณพุ่มไม้ ป่าละเมาะ หรือหญ้าขึ้นรก ควรใส่รองเท้า ถุงเท้า ที่หุ้มปลายขากางเกงไว้