สตม.ร่วมกับ PCT โชว์ผลงานจับกุมคดีใหญ่ ทั้งเว็บไซต์ขายบริการต่างชาติฟีดขึ้นอันดับ 1ในไทย–รวบหนุ่มเกาหลีนายหน้าจัดหาหญิงไทยค้ากามเเดนโสม พบเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท และจับหนุ่มไต้หวันราชาฟอกเงินเครือข่ายเเก๊งคอลเซ็นเตอร์-พนันออนไลน์ กว่า 2หมื่นล้านบาท
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. หน.ชุดปฏิบัติการที่ 1 PCT, พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., ร่วมกับ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดีที่น่าสนใจดังนี้
คดีแรก“ปราบ Escort ยึดทรัพย์40 ล้าน”จับถึงรัง เจ้าของเว็บไซต์ขายบริการต่างชาติ ฟีดขึ้นอันดับ 1ในไทย โดยชุดปฎิบัติการที่ 1 pct และบก.สส.สตม. ได้ร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลการก่ออาชญากรรมกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพบว่ามีการก่อเหตุที่จะประสงค์ทรัพย์สินจากชาวต่างชาติหลายครั้งผ่านการซื้อขายบริการทางเพศจากผู้ขายบริการหญิง โดยมีพฤติกรรมการหลอกลวงโดยการมอมเหล้าหรือใช้สารเสพติดให้มึนเมาแล้วลวงทรัพย์ไป ซึ่งทาง PCT1 ตรวจพบช่องทางการขายบริการจะมีเว็บไซด์ Escort ขายบริการซึ่งเป็นผู้หญิงคนไทย โดยเว็บไซต์นี้มีการซื้อขายบริการอย่างเปิดเผย และเว็บไซต์นี้ยังขึ้นฟีด อันดับ 1 จากการค้นหาโดยกูเกิ้ล (google) ของไทย นั้นคือเว็บไซต์ www.absolute-angels-bangkok.comโดยมีชาวต่างชาติอยู่เบื้องหลัง
จากการสืบสวนพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวมีข้อมูลของหญิงขายบริการร่วม 80 คน ครอบคลุมทั่วเเหล่งท่องเที่ยวไทย จึงได้มีการสืบสวนเพื่อหาเครือข่ายผู้เป็นตัวการก็พบว่ามีการเเบ่งหน้าที่กันทำ โดย นางสาวกันยา(นามสมมุติ) อายุ 48 ปี สัญชาติอเมริกัน นายเบรด (นามสมมุติ) สามีนางกันยา มีส่วนในเรื่องการช่วยเหลือด้านเว็บไซต์ จนกระทั่งศาลอาญาจังหวัดพัทยา อนุมัติหมายจับฐานความผิดค้าประเวณี
ต่อมาได้ดำเนินการจับกุมนางกันยาได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และจับกุมนายเบรคได้ที่บ้านพัก อ.หัวหิน โดยพบของกลางสำคัญได้เเก่ 1.คอมพิวเตอร์ จำนวน 4 เครื่อง 2.สมุดบัญชีรายรับรายจ่ายตั้งเเต่ปี 2014 3.เอกสารธุรกรรมทางการเงิน เป็นต้น ทางด้าน นางกันยา รับสารภาพว่า ทางเว็บไซต์นั้นมีการนำเดินมามากกว่า10ปีโดยมีตนเป็นเเอดมินเเละสามีเป็นคนจัดการเว็บไซต์ โดยคณะสอบสวนมีข้อมูลว่าคนร้ายเหล่านี้มีเครือข่ายช่วยเหลือในต่างประเทศซึ่งจะมีการสืบสวนและกระสานงานความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อตรวจสอบต่อไป
คดีที่ 2 รวบหนุ่มเเดนโสมนายหน้าจัดหาหญิงไทยค้ากามเเดนโสม พบเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท
โดย สตม.ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงาน สาธารณรัฐเกาหลี ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณี นายจินหอง นามสมมุติ อายุ 41 ปี สัญชาติเกาหลีก่ออาชญากรรมเป็นขบวนการจัดหาหญิงไทยเพื่อมาค้าประเวณีในเกาหลีใต้ โดยจะเปิดเว็บไซต์หาลูกค้าที่ต้องการซื้อบริการ
จากการตรวจสอบพบว่า นายจินหองได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว และได้นับการอนุญาตให้อยู่ในไทยยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ มีพฤติกรรมที่สมควรเพิกถอนใบอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยต่อ สตม.จึงได้เพิกถอนใบอนุญาตของนายจินหองและสืบสวนสอบสวนหาตัวเพื่อนำมาดำเนินการตามกฎหมาย จนทราบว่านายจินหองซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักเเห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ได้ทำการเเสดงตัวเเละเข้าจับกุมนายจินหอง และตรวจสอบบ้านพัก ผลการตรวจสอบพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ที่มีข้อความแชตคุยกับลูกค้าและกลุ่มของหญิงชาวไทยที่ค้าประเวณี และยังพบสมุดบัญชีอีกหลายรายการ จึงได้ทำการตรวจยึดและนำตัวนายจินหองเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนคดีที่ 3 รวบหนุ่มไต้หวัน ราชาฟอกเงินเครือข่ายเเก๊งคอลเซ็นเตอร์ เเละเเก๊งพนันออนไลน์ ฟอกเงินเกินกว่า 2หมื่นล้านบาท โดย สตม.ได้รับการประสานงานจากเจ้าสำนักงานวัฒนธรรมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย กรณีการฟอกเงินให้กับเเก๊งเเก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเเก๊งพนันออนไลน์ ว่า มี นายกัว ได้เปิดบริษัทในหลายประเทศเพื่อทำการฟอกเงินให้เเก่เเก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ที่ประเทศกัมพูชา และเเก๊งพนันออนไลน์ที่ตั้งอยู่มนประเทศแถบเอเชียและยุโรป ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งกลุ่มฟอกเงินของนายกัวมีสมาชิกจำนวนกว่า16รายปัจจุบันสามารถตามจับได้ครบทุกรายเเล้ว
จากการตรวจสอบนั้นพบว่า นายกัวเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่าไทยเเลนท์ อีลิท (Thailand Elite visa) และได้รับการอนุญาตให้อยู่ในไทยยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ มีพฤติกรรมที่สมควรเพิกถอนใบอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยต่อ สตม. จึงได้อนุมัติให้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในไทยของนายกัวและสืบสวนสอบสวนหาตัวเพื่อนำมาดำเนินการตามกฎหมาย จนทราบว่านายกัว ซ่อนตัวอยู่ที่คอนโดฯหรูแห่งหนึ่งย่านคลองสาน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการของหมายตรวจค้นต่อศาลอาญาธนบุรี และได้เข้าตรวจค้นคอนโดของนายกัวและจับกุมในที่สุด จากการตรวจค้น พบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่คาดว่าใช้ในการกระทำความผิดหลายรายการ และได้นำตัวนายกัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี