จังหวัดขอนแก่นนำร่อง เปิดตัวแกนนำนักข่าวเยาวชนต้านทุจริต 1 อำเภอ 1 โรงเรียน เป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย ในชื่อ โครงการนักข่าวเยาวชนไทย ต้านภัยทุจริต ต้นแบบ 13 อำเภอ จังหวัดขอนแก่น โดยการสนับสนุนจาก กองทุน ป.ป.ช ดำเนินการโดย สมาคมศูนย์ข่าวเยาวชนไทย
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น มอบโล่เกียรติยศ และเกียรติบัตร ให้กับผู้บริหาร อาจารย์และนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ นักข่าวเยาวชนไทยต้านภัยทุจริต ต้นแบบ 13 โรงเรียน จังหวัดขอนแก่น โดยมอบหมายให้ นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ผู้แทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา จังหวัดขอนแก่น , ผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดขอนแก่น และผู้บริหารโรงเรียนบ้านพร้อมบุญ ในฐานะผู้สนับสนุนโครงการ โดยมีผู้บริหาร อาจารย์ และนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการจาก 13 อำเภอ เข้าร่วมในพิธีมอบโล่และเกียรติบัตร ณ ห้องพระธาตุขามแก่น ศาลาว่าการจังหวัดขอนแก่น
นายรัชพล สุวรรณโชติ นายกสมาคมศูนย์ข่าวเยาวชนไทย ผู้ริเริ่มและดำเนินการ โครงการนักข่าวเยาวชนไทย ต้านภัยทุจริต ต้นแบบ 13 โรงเรียน จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า “ขอขอบคุณกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ กองทุน ป.ป.ช.ที่กรุณาให้การสนับสนุนโครงการนี้ ซึ่งสมาคมศูนย์ข่าวเยาวชนไทย ตั้งใจคิดและดำเนินการเพื่อเป็นต้นแบบในการดำเนินการ 77 จังหวัด เริ่มจากแนวคิดจัดตั้งเครือข่ายนักข่าวเยาวชนต้านทุจริต 1 อำเภอ 1 โรงเรียนต้านทุจริต ตามยุคสมัยที่ปัจจุบันสื่อมีอิทธิพลอย่างสูงต่อการดำเนินชีวิตและความคิดของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อโซเซียล และเด็กเยาวชน เป็นกลุ่มที่เข้าถึง ใช้ ผลิต และสื่อสาร สื่อโซเซียลได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากสามารถสร้างเครือข่ายเด็กเยาวชนที่ผลิตสื่อต้านทุจริต ก็จะสามารถเพิ่มสื่อดีดีเติมเข้าไปในสื่อโซเซียลที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันได้อีกช่องทาง และแนวคิดเรื่องการต้านทุจริตก็เป็นเรื่องที่สังคมส่วนมากให้ความสนใจอยู่แล้ว การมีสื่อเพื่อรณรงค์ต่อต้านการทุจริตที่เด็กเยาวชนช่วยกันคิดและผลิต จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยลดปัญหาการทุจริต สร้างความตระหนักรู้ ในการแก้ปัญหาทุจริตของประเทศชาติต่อไปได้
โครงการนักข่าวเยาวชนไทย ต้านภัยทุจริต ต้นแบบ 13 โรงเรียน จังหวัดขอนแก่น เป็นโครงการที่คิดจะดำเนินการที่จังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดแรก แต่เนื่องจากติดช่วงโควิคทำให้ย้ายโครงการไปทำครั้งแรกที่จังหวัดภูเก็ต 14 โรงเรียน แต่ด้วยเป็นช่วงโควิค ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้เต็มรูปแบบ จึงได้นำโครงการกลับมาเริ่มต้นที่จังหวัดขอนแก่นอีกครั้งใน 13 อำเภอของจังหวัดขอนแก่น โดยได้รับการสนับสนุนข้อมูลและวิชาการจากสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดขอนแก่น และการประสานงานกับโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในพื้นที่โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา จังหวัดขอนแก่น และโรงเรียนบ้านพร้อมบุญ โดยเริ่มต้น 13 อำเภอ(ขอนแก่นมี 26 อำเภอ)แรก ดำเนินการอบรมเชิงปฏิบัติการ ให้ความรู้พื้นฐานด้านการผลิตสื่อ และการต่อต้านการทุจริต จากนั้นดำเนินการนถ่ายทำใน 13 อำเภอตามบทที่เด็กๆ ช่วยกันคิดสร้างสรรค์ และเผยแพร่ผ่านรายการ 5 เช้าวันใหม่ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และสื่อโซเซียลในหลากหลายช่องทาง”
ทั้งนี้ โครงการนักข่าวเยาวชนไทยต้านภัยทุจริต ต้นแบบ 13 โรงเรียน จังหวัดขอนแก่น มีโรงเรียนที่เป็นตัวแทน 1 อำเภอ 1 โรงเรียน เข้าร่วม ดังนี้ อำเภอเมือง-โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน , อำเภอพล-โรงเรียนพล , อำเภอบ้านไผ่-โรงเรียนบ้านไผ่ศึกษา , อำเภอกระนวน-โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม ,อำเภอน้ำพอง-โรงเรียนบัวใหญ่พิทยาคม ,อำเภอภูผาม่าน-โรงเรียนภูผาม่าน, อำเภอภูเวียง-โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม ,อำเภอมัญจาคีรี-โรงเรียนมัธยมโพนเพ็ก ,อำเภอโนนศิลา-โรงเรียนโนนศิลาวิทยาคม ,อำเภอชุมแพ-โรงเรียนชุมแพศึกษา,อำเภอหนองสองห้อง-โรงเรียนหนองสองห้องวิทยา ,อำเภอหนองเรือ-โรงเรียนหนองเรือวิทยา และ อำเภอแวงน้อย-โรงเรียนแวงน้อยศึกษา
โครงการนักข่าวเยาวชนไทยต้านภัยทุจริต ต้นแบบ 13 โรงเรียน จังหวัดขอนแก่น ทางสมาคมศูนย์ข่าวเยาวชนไทย ผู้ดำเนินการและกองทุน ป.ป.ช.ผู้สนับสนุน มีแผนการจะดำเนินการในเฟส 2 อีก 13 อำเภอ ให้ครบ 26 อำเภอของจังหวัดขอนแก่นต่อไป.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี