วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
สสจ.เชียงใหม่ เตรียมพร้อมเฝ้าระวัง'ฝีดาษวานร' หลังพบผู้เสียชีวิตรายแรกในไทย

สสจ.เชียงใหม่ เตรียมพร้อมเฝ้าระวัง'ฝีดาษวานร' หลังพบผู้เสียชีวิตรายแรกในไทย

วันอังคาร ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566, 16.32 น.
Tag : ฝีดาษลิง เพศสัมพันธ์ชายแปลกหน้า โรคไวรัสฝีดาษลิง
  •  

สสจ.เชียงใหม่ เตรียมพร้อมเฝ้าระวัง “ฝีดาษวานร” พร้อมแนะการป้องกัน หลังพบผู้เสียชีวิตรายแรกในประเทศไทย

วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการที่กรมควบคุมโรค เผยสถานการณ์โรคฝีดาษวานร ที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และล่าสุดพบผู้ป่วยฝีดาษวานร เสียชีวิตรายแรกของไทย เมื่อ 11 ส.ค. 2566  ผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย อายุ 34 ปี มีประวัติเป็นไข้ ปวดศีรษะ คัน มีผื่นและตุ่มขึ้นบริเวณผิวหนังตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี แพทย์สงสัยเป็นโรคฝีดาษวานร จึงส่งตัวอย่างตรวจยืนยันผลพบสารพันธุกรรมของไวรัสฝีดาษวานร ขณะเดียวกันยังตรวจพบการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และเชื้อซิฟิลิส 


สำหรับความคืบหน้าการเฝ้าระวังโรคฝีดาษวานรในประเทศไทย ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขรายงาน พบมีการติดเชื้อใน 19 จังหวัด สถานการณ์น่าห่วงโดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ที่เจอผู้ป่วยสะสม ถึงหลักร้อยคน โดยมีรายงานจากกรมควบคุมโรค ระบุตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. -15 ส.ค. 2566 มีผู้ป่วยฝีดาษวานร 217 ราย เป็นชาวต่างชาติ 30 ราย คนไทย 187 ราย อายุเฉลี่ยตั้งแต่ 20 – 64 ปี ทั้งนี้ มีรายงานการติดเชื้อใน 19 จังหวัด แบ่งตามระดับสี ได้แก่

“ระดับสีแดง” 3 จังหวัด คือ กทม. 136 ราย นนทบุรี 14 ราย ชลบุรี 9 ราย

“ระดับสีส้ม” 3 จังหวัด คือ สมุทรปราการ 9 ราย ภูเก็ต 8 ราย ปทุมธานี 7 ราย

“ระดับสีเหลือง” 13 จังหวัด คือ ระยอง 3 ราย สมุทรสาคร ลพบุรี มหาสารคาม ขอนแก่น พะเยา จังหวัดละ 2 ราย นครราชสีมา กาฬสินธุ์ ฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี นครนายก เชียงราย และพระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย
 
สำหรับสถานการณ์ในจังหวัดเชียงใหม่  พบว่า พบผู้ป่วยในจังหวัด  2 ราย เป็นผู้ป่วยภูมิลำเนาจังหวัดเชียงใหม่ 1 ราย มีความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์กับชายแปลกหน้าที่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังมีการระบาดของโรคฝีดาษวานรด้วย ให้การรักษาและกักตัว จนปัจจุบันเกือบครบระยะกักตัวและระยะแพร่กระจายของโรคแล้ว ส่วนอีกรายเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด มีความเสี่ยงกับชายแปลกหน้าที่ต่างจังหวัด แล้วเดินทางเข้ามาเที่ยวและเกิดอาการที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการรักษา และส่งต่อไปรักษาต่อยังภูมิลำเนาของผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว โดยทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีมาตรการในการเฝ้าระวังทีมควบคุมโรค สสจ. เชียงใหม่ ดำเนินการสอบสวนโรค ค้นหาไทม์ไลน์ของผู้ป่วย ค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงตรวจหาเชื้อ และเฝ้าระวังอาการหลังสัมผัสเชื้อทุกวัน 21 วัน ให้คำแนะนำและเฝ้าระวังในกลุ่มเสี่ยงต่ำ เช่น สถานที่ที่ผู้ป่วยเดินทางไปเที่ยวหรือใช้บริการ และติดตามการกักตัวอย่างเคร่งครัดของผู้ป่วยจนกระทั่งตุ่มหนองหายเป็นปกติ และสื่อสารความเสี่ยงให้กับประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ 

ดร.ทรงยศ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคฝีดาษวานร สามารถป้องกันได้ โดยงดเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่สัมผัสแนบเนื้อกับผู้ที่มีผื่น ตุ่มหรือหนอง แนะนำให้ล้างมือบ่อยๆ และไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถตรวจสอบอาการเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง หากมีผื่น/ตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก หรือตามร่างกาย และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิด สัมผัสแนบชิด หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้สงสัยฝีดาษวานร หรือผู้ป่วยฝีดาษวานร ให้สังเกตตนเองภายหลังสัมผัสผู้ป่วยภายใน 21 วัน หากมีอาการ ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่น หรือ ตุ่มน้ำหรือ ตุ่มหนองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หรือทวารหนัก หรือบริเวณรอบๆ ตามมือ เท้า หน้าอก ใบหน้า หรือบริเวณปาก ให้รีบเข้ารับการตรวจที่สถานบริการสุขภาพ หรือโรงพยาบาลทันที โดยแจ้งอาการและประวัติเสี่ยงประกอบการวินิจฉัย เกือบครึ่งของผู้ป่วยฝีดาษวานรรายใหม่ เป็นผู้ติดเชื้อ HIV โดยปัจจุบันประเทศไทยได้รับมอบยาต้านไวรัสชื่อ Tecovirimat (หรือ TPOXX) จำนวนหนึ่งจากองค์การอนามัยโลกมาใช้รักษาผู้ป่วยฝีดาษวานรที่มีอาการมากที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน และจะต้องมีการวัดประสิทธิผลของยานี้ไปพร้อมกัน

หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำในการปฏิบัติตนสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422” หรือ กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทร 053-211048-50 ต่อ 110

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กรมควบคุมโรค ทุ่มงบ 21 ล้าน ซื้อวัคซีน ฝีดาษลิง 3,000 โดส ฉีดกลุ่มเสี่ยง กรมควบคุมโรค ทุ่มงบ 21 ล้าน ซื้อวัคซีน ฝีดาษลิง 3,000 โดส ฉีดกลุ่มเสี่ยง
  •  

Breaking News

‘อิ๊งค์’ยินดีฟังความเห็น‘ทักษิณ’ ประกาศ‘สงครามว้า’

เปิดหมดเปลือกชีวิตและความรัก'แอริน'เผยช่วงหลังคลอดเกิดอาการBaby Blueหนักมาก

วันงดสูบบุหรี่โลก! 'ประธานรัฐสภา'ปักธงสภาไทยไร้ควัน ปลอดบุหรี่ 100%

‘ผู้ช่วยรมต.ต่างประเทศ’ยันไทยเดินหน้าเจรจาสหรัฐฯต่อ แม้ศาลมะกันสั่งยับยั้ง‘ภาษีทรัมป์’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved