สืบ ตม.3 จับกุม‘แก้ว เขาดิน’ เครือข่ายขนต่างด้าวเถื่อนรายใหญ่พื้นที่สระแก้ว
24 สิงหาคม 2566 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.ศท.ตม.ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พรรณศักดิ์ วรวิบูลย์สวัสดิ์ รอง ผบก.สศป.ฯ ปฏิบัติราชการ บก.ตม.3, พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม., พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ
สืบเนื่องจาก กก.สส.บก.ตม.3 ตรวจสอบในสื่อสังคมออนไลน์พบว่า มีชาวกัมพูชา เรียกกันทั่วไปว่า นางแก้ว (นามสมมติ) ประกอบกิจการรถตู้ในพื้นที่ใกล้ด่านชายแดน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ใช้สื่อสังคมออนไลน์ประกาศเชิญชวนลูกค้า ชาวกัมพูชา ว่าสามารถพาคนกัมพูชาเดินทางเข้าออก-ออกประเทศไทยผ่านชายแดนกัมพูชาได้อย่างสะดวก และมีข้อมูล เชิงลึกว่า เครือข่ายของนางแก้วยังลักลอบขนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผ่านช่องทางที่ผิดกฎหมายด้วย จึงได้วางแผนจับกุมแก้วมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
กก.สส.บก.ตม.3 ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมนางแก้วมาโดยตลอด จนกระทั่งต่อมาได้ตรวจสอบพบว่า จะมีการลักลอบขนคนจำนวนมาก จากพื้นที่ ต.คลองหาด จว.สระแก้ว เข้ามาใน กทม. โดยในครั้งนี้คาดว่านางแก้วได้เดินทางมาด้วย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อเดินทางมาถึง ถนนหมายเลข 3259 บริเวณหน้าหน่วยพิทักษ์ ป่าซับวัวแดง ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จว.สระแก้ว พบรถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน กทม. และรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน จ.ระยอง ขับอยู่บนถนน ลักษณะคล้ายกับรถยนต์ตู้ที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ของนางแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ไล่ติดตามและเรียกให้หยุดรถ แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอตรวจสอบรถยนต์ตู้ทั้ง 2 คันดังกล่าว ผลการตรวจสอบพบว่า
1.รถยนต์ตู้ทะเบียน จ.ระยอง
1.1 นายประดิษฐ์ (นามสมมติ) สัญชาติไทย เป็นผู้ขับรถ
1.2 คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จำนวน 5 ราย เดินทางเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายทั้งหมด
2.รถยนต์ตู้ทะเบียน กทม.
2.1 นายมนตรี (นามสมมติ) สัญชาติไทย เป็นผู้ขับรถ
2.2 นายบำเหน็จ (นามสมมติ) สัญชาติไทย เป็นผู้โดยสารและเจ้าของรถ
2.3 นายชานนท์ (นามสมมติ) สัญชาติไทย เป็นผู้โดยสาร
2.4 คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จำนวน 5 ราย เดินทางเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย 4 ราย และถูกกฎหมาย 1 รายซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นบุคคลเดียวกับหญิงสาวในสื่อสังคมออนไลน์ชื่อนางแก้ว
จากการสอบถามคนต่างด้าวทั้งหมดให้การว่า นางแก้วและนายชานนท์จะทำหน้าที่ติดต่อประสานงานพาคนต่างด้าวชาวกัมพูชาโดยสารรถยนต์ตู้เข้ามาในประเทศไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณชายแดน เพื่อมาทำงานในประเทศไทย โดยคนต่างด้าวจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับนางแก้วรายละ 3,500 บาท ในขบวนการนี้มี นายบำเหน็จ, นายมนตรี และนายประดิษฐ์ ทำหน้าที่ ขับรถรับ-ส่งคนต่างด้าวจากชายแดน จว.สระแก้วไปส่งที่ กทม. ซึ่งนายชานนท์จะแบ่งรายได้ให้กับผู้ทำหน้าที่ขับรถ รายละ 1,000 บาทต่อคน สำหรับคนต่างด้าวที่เอกสารไม่ถูกต้อง ซึ่งคนขับรถจะทราบดีว่าคนต่างด้าวชาวกัมพูซาที่โดยสารรถของตนจะไม่มีหนังสือเดินทาง หรือเอกสารประจำตัวไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่ ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา คนไทยทั้ง 4 รายและนางแก้วว่า ร่วมกันให้การช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งบุคคลต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่วนคนกัมพูชา 9 รายแจ้ง ข้อกล่าวหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่ง พงส.กก.สส.บก.ตม.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี