เหิมเกริม! โจ๋ 3 พี่น้องยกพวกรวม 5 รายขาใหญ่ในพื้นที่รุมกระซวกลูกจ้างร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างและเครื่องเกษตรฯ 2 รายเจ็บสาหัส หลังกลุ่มผู้ก่อเหตุ 3 พี่น้องเดือดแค้นไม่พอใจที่คนเจ็บเข้าไปถามครูที่โรงเรียน ปมเหตุน้องชายเรียนอยู่ชั้น ม.3 โดนโจ๋วัย 15 ปีเพื่อนร่วมชั้นทำร้ายหน้าบวมปูด ก่อนขนอาวุธครบมือยกพวกใช้มีด เหล็กขูดชาร์ป เคียวตัดทลายปาล์มรุมทำร้าย ตำรวจแกะรอยภาพวงจรปิดจับภาพคนร้าย จ่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 24 ส.ค.66 ร.ต.อ.ทรงวุฒิ ทองสม รอง สว.(สอบสวน) สภ.รัษฎา จ.ตรัง พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตรและก่อสร้าง ในพื้นที่หมู่ 1 บ้านคลองมวน ต.หนองปรือ ใกล้กับตลาดคลองมวน หลังจากเมื่อเวลาประมาณ 17.20 น.วานนี้ (23 ส.ค.66) ภาพวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ได้ขณะที่กลุ่มคนร้ายประมาณ 5 คนอายุตั้งแต่ 15–20 ปีขับรถสามล้อพ่วงข้างสำหรับบรรทุกหญ้าวัว และรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 110 ไม่ทราบสีและทะเบียน 2 คันมาจอดบนถนนบริเวณหน้าร้าน ก่อนที่คนร้าย 1 ใน 5 จะเดินลงมาเข้าภายในร้านเพื่อถามหานายแสงตะวัน หรือบอล อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นลูกจ้างของร้านดังกล่าว ระหว่างนั้นนายแสงตะวัน หรือบอล ยังอยู่ในร้านก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะเดินวกกลับมาและขับรถจากหน้าร้านมาจอดบริเวณข้างร้าน
ต่อมานายแสงตะวัน หรือบอล ได้เดินออกมาจากร้านเจอพอดี ปรากฏว่ากลุ่มคนร้ายได้ลงมือก่อเหตุใช้ทั้งอาวุธมีด เหล็กขูดชาร์ป เคียวตัดทะลายปาล์ม แทงและฟันนายแสงตะวัน เข้าที่แก้ม ชายโครง เย็บประมาณ 10 เข็ม และเป็นจังหวะที่นายธีรพัฒน์ หรือเจมส์ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนลูกจ้างที่ร้านเดียวกันรีบปรี่เข้าไปห้ามปรามและพยายามช่วยเหลือเพื่อนแต่กลับถูกแทงและฟันไม่ยั้งมือเข้าที่ศีรษะ ต้นคอ แก้ม และข้างท้องทั้งสองข้าง ก่อนที่กลุ่มคนร้ายทั้งหมดจะรีบบึ่งรถขับหลบหนีไป ทำให้ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายวิ่งมานั่งบนเก้าอี้หน้าร้านในสภาพเลือดอาบท่วมตัว ก่อนที่ทีมพยาบาล รพ.รัษฎา และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ อ.รัษฎา มาทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนายแสงตะวัน หรือบอล ส่งไปยัง รพ.รัษฎา และรีบนำตัวนายธีรพัฒน์ หรือเจมส์ อาการสาหัสนำส่ง รพ.ตรัง ซึ่งขณะนี้ทั้งคู่อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุวันนี้ พ.ต.อ.ณัฐภาคย์ นุ้ยโดด ผกก.สภ.รัษฎา ได้สั่งการให้กำลังตำรวจชุดสืบสวนฯ ลงพื้นที่แกะรอยภาพกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วน ซึ่งในจุดเกิดเหตุบนพื้นปูนซีเมนต์ข้างร้านทางเข้าโรงเรียนบ้านคลองมวน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุและยังพบเลือดหยดเป็นจุดอยู่จำนวนมาก
ขณะที่นางสุจินต์ หรือป้าไทย อายุ 55 ปี แม่ค้าขายฟักทอง และทุเรียนติดกับที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นวัยรุ่นมาเดินวนเวียนอยู่บริเวณที่ร้านขายอุปกรณ์เกษตรและก่อสร้างดังกล่าวแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จังหวะนั้นตนก็นั่งหันหลังให้และเล่นมือถืออยู่ จู่ๆ พนักงานของร้านได้เดินออกมาและพูดคุยกันไม่นาน กลุ่มคนร้ายจึงได้ปรี่เข้าแทงเลย และมีเพื่อนออกมาช่วย กลุ่มคนร้ายจึงหลบหนีไป แต่ตนไม่ได้ยินว่าเขาพูดคุยอะไรกัน ตนตกใจเกือบฉี่ราดและขี้ไหล ซึ่งคนร้ายตนไม่รู้จัก รู้จักเพียงแค่พนักงานของร้านที่ถูกแทงซึ่งขยันทำงาน ไม่ได้เกเร อุปนิสัยนิสัยดี
สอบถามนายอุทัยรัตน์ หรือโกรัตน์ อายุ 56 ปี เจ้าของร้านอุปกรณ์เกษตรและวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นนายจ้างของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตอนนั้นตนขายของอยู่ในร้าน กลุ่มคนร้ายมากัน 5 คนมาจอดหน้าร้าน 1 ใน 5 คนได้เดินเข้าไปถามในร้านถามหาคนชื่อบอล อยู่ไหม ก่อนที่คนในร้านจะไปตาม แต่ตนบอกว่าอย่าออกไปถ้าไม่รู้จักก่อนที่คนร้ายจะขับรถมาจอดรอที่ข้างร้าน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่านายแสงตะวัน หรือบอล ลูกน้องเดินออกไปหาคนร้ายตอนไหน แค่ไม่นานมีคนเข้ามาบอกตนว่าลูกน้องโดนทำร้าย ตนจึงรีบวิ่งออกไปห้ามและขู่ว่าให้หยุด หากไม่หยุดจะแจ้งความคนร้ายจึงหยุดและวิ่งหนีไปเลย ตนเห็นลูกน้องบาดเจ็บจึงให้มานั่งหน้าร้านและแจ้งรถพยาบาลมาช่วยเหลือ
นายอุทัยรัตน์ กล่าวด้วยว่า จากที่ตนได้พูดคุยสอบถาม ทราบว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันวานนี้ น้องชายของบอลได้ถูกน้องชายของผู้ก่อเหตุทำร้ายที่โรงเรียนอยู่ด้านหลังร้านจนหน้าบูมปวด ทำให้นายบอล พร้อมด้วยยายได้เข้าไปที่โรงเรียนเพื่อไปพูดคุยกับครู และทางนายบอล ได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.รัษฎา ไว้ จนกระทั่งตอนเย็นกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่พอใจจึงได้เข้ามาทำร้ายนายแสงตะวันดังกล่าว ซึ่งนิสัยของลูกจ้างตนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร ขอฝากให้ทางเจ้าหน้าที่ ตร.เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยรวดเร็วที่สุด
ด้านนางทรายแก้ว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ยายของนายแสงตะวัน หรือบอล เผยว่า เหตุมาจากน้องฟิล์ม (ชื่อเล่น) อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของนายบอล และมีศักดิ์เป็นหลานตน ถูกนายเจ (ชื่อเล่น) อายุ 15 ปี ทั้งคู่เรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนเดียวกัน ซ้อมและทำร้ายจนหน้าปูดบวม สาเหตุน่าจะหึงหวงและไม่พอใจน้องฟิล์มเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนผู้หญิงเพราะน้องฟิล์มหน้าตาดี หลังจากนั้นตนและนายบอล หลานชายทราบเรื่องจึงเดินทางไปพูดคุยกับครูที่โรงเรียนเพื่อสอบถามว่าทำร้ายและซ้อมน้องฟิมล์ทำไม นายบอล พี่ชายรู้สึกโกรธที่น้องชายตัวเองถูกทำร้าย แต่ครูไม่อยากให้ทั้งสองฝ่ายออกมาเจอหน้ากัน เนื่องจากเกรงว่าจะมีการปะทะเกิดขึ้นอีกตนจึงพาน้องฟิล์มมาโรงพยาบาลและเข้าแจ้งความ ส่วนนายบอลก็กลับไปทำงาน
นางทรายแก้ว เล่าต่อว่า หลังจากนั้น ตามาทราบเรื่องภายหลังว่า นายเจ ได้พาพี่ชาย 2 คน และพรรคพวกรวม 5 คน มาทำร้ายนายบอล หลานชายถึงร้านที่ทำงาน โดยที่นายเจ และพี่ชายไม่พอใจที่นายบอลไปข่มขู่นายเจ แต่นายบอลก็บอกว่าไม่ได้ขู่แค่ถามว่าทำร้ายน้องฟิล์มทำไมแค่นั้น ก่อนที่พี่ชายนายเจ จะเข้ามาบีบคอทำให้นายบอล ต่อยสวนกลับไปทันที ทำให้เหตุการณ์จังหวะนั้นชุลมุนและทำให้พรรคพวกของนายเจ มาจับมัดมือนายแสงตะวันและรุมกันใช้อาวุธแทงและฟันนายแสงตะวัน รวมทั้งนายธีรพัฒน์ หรือเจมส์ เพื่อนที่เข้าไปช่วย
นางทรายแก้ว กล่าวด้วยความรู้สึกหวาดผวา อีกว่า ตอนนี้ห่วงความปลอดภัยของคนในครอบครัวว่าจะถูกทำร้ายต่อ เพราะทั้งบ้านมีแต่ผู้หญิง เป็นเด็กๆ กันทั้งนั้นและบรรดาเด็กๆ ก็ไม่กล้าที่จะไปโรงเรียน รวมทั้งตัวของนายเจ คู่กรณีต้นเรื่องหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุหลังก่อเหตุก็ยังคงโพสต์ภาพดื่มสุราอยู่อีก เยาะเย้ยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงอยากให้ทางตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด
ขณะเดียวกัน ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้เดินทางมาสอบปากคำนายอุทัยรัตน์ หรือโกรัตน์ เจ้าของร้านที่เกิดเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายยังไม่สามารถให้การได้ซึ่งยังอยู่ในระหว่างดูแลรักษาของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยต้องรอให้อาการดีขึ้นจึงจะได้ไปสอบปากคำอย่างละเอียด ส่วนแนวทางการสืบสวนสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเบาะแสของกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วซึ่งอยู่ในระหว่างการหลบหนี และพบว่าเคยมีการก่อเหตุในลักษณะทำร้ายผู้อื่นมาแล้วเช่นเดียว ถือเป็นขาใหญ่ในพื้นที่และมีแบ็กอยู่เบื้องหลังและแฝงตัวอยู่ในกลุ่มนักพนักวัวชน ล่าสุดตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับ ข่าวคืบหน้าจะรายงานต่อไป - 003