ตำรวจ​ สภ.ห้วยราช​ จ.บุรีรัมย์​  รวบคนร้ายสวมเสื้อโจ๊กเกอร์และหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ควงมีดปลายแหลมและปังตอ บุกเดี่ยวปล้นร้านสะดวกซื้อและห้างค้าปลีก​ 2​ แห่ง ภายในสัปดาห์เดียว​  สารภาพนำเงินไปซื้อยาบ้าเสพ

วันที่ 25 สิงหาคม 2566 พ.ต.อ.สาธิต​ สถิตย์ถาวร​ ผกก.สืบสวนสอบสวนภูธร จ.บุรีรัมย์​ พร้อม​ พ.ต.ท.สุชาติ​  วิชาสวัสดิ์​  สารวัตรสืบสวนกองกำกับการภูธร จ.บุรีรัมย์​, ร.ต.อ.ภคพล​  เถลิงรัมย์​  รองสารวัตรสืบสวนกองกำกับการสืบสวนภูธร​  จ.บุรีรัมย์​ , พ.ต.ท.ไกรศร​  อินชัย​  รอง​ ผกก.สืบสวน​ สภ.ห้วยราช​ ,  พ.ต.ท.เลิศชาย​   วงศ์อนุชิต​  สารวัตรสืบสวน​ สภ.ห้วยราช​ ,  ร.ต.อ.เรืองธสิทธิ์​  เนื่องมัสฉา   รองสารวัตร​สืบสวน​ สภ.ห้วยราช​, ร.ต.อ.ชาติตระการ​  ปานแดง​ รองสารวัตร​สืบสวน​ สภ.ห้วยราช​,  ร.ต.อ.ณัฐธพงษ์​  วงศ์ธนัฐชัย​ รองสารวัตร​สืบสวน​ สภ.ห้วยราช​  ได้ร่วมกันติดตามจับกุมนาย​บุญยัง​ หรืออ้วน​ อายุ​ 42​ ปี​ ชาว ต.เมืองโพธิ์​  อ.ห้วยราช​  หลังก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ​บริเวณสามแยกสง่างาม​ ต.ห้วยราช อ.ห้วยราช​ เมื่อเวลาประมาณ​   21.40  น. คืนวันที่​ 24​ ส.ค.66​ได้เงินไปจำนวน​ 1,300  บาท​ เป็นเหรียญทั้งหมด​  โดยใช้มีดปลายแหลมจี้พนักงานบังคับให้เอาเงินเหรียญที่ไว้สำหรับทอนใส่ถุงให้​ ก่อนจะขี่​ จยย.หลบหนี​ 

และก่อนหน้านี้เมื่อวันที่​ 19​ ส.ค.66​ เวลา​ 18.49  น.​ นายบุญยัง​ ได้ก่อเหตุใช้มีดปังตอด้ามยาวจี้ชิงเงิน​ห้างค้าปลีก​ (ทวีกิจ)​ หน้า​ ร.ร.ห้วยราชพิทยาคม​ ได้เงิน​ไป 1,700​ บาท​ โดยทั้ง​ 2​ แห่ง นายบุญยัง​ คนร้ายจะสวมเสื้อผ้าชุดเดิมในการก่อเหตุ​ คือเสื้อคอกลมลายสกรีนลายโจ๊กเกอร์ ซึ่งเป็นตัวร้ายในหนัง​ ใส่กางเกงยีนส์​ และสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า​  

โดยหลังเกิดเหตุ​พ.ต.อ.ประดิษฐ์​ ทะประสิทธิ์จิตต์​ ผู้กำกับการ​ สภ.ห้วยราช​  ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน​  ลงพื้นที่ติดตามตัวคนร้าย​ ซึ่งจากการหาข้อมูลเบาะแส​ และไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี​ จนทราบเบาะแสและนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้​ ขณะนั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างสระสาธารณะ​บ้านเมืองโพธิ์​ ต.เมืองโพธิ์​ อ.ห้วยราช ในสภาพเบลอๆ​ เนื่องจากเสพยาบ้า​  ซึ่งรูปพรรณตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ทั้ง​ 2​ แห่ง​  จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุม​ ซึ่งคนร้ายก็ให้การรับสารภาพ​ และได้นำตัวไปตรวจยึดเสื้อผ้าและ​ จยย.ที่ใช่ก่อเหตุ

จากการสอบสวน นาย​บุญยัง​ ผู้ต้องหา​ให้การรับสารภาพว่า​ ก่อเหตุชิงทรัพย์ทั้ง​ 2​ แห่งเพื่อนำเงินไปซื้อยาบ้า​มาเสพ​ โดยจะเสพวันละ​ 3​-4  เม็ด

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา​ "ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะและอาวุธมีด"