27 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีหนุ่มมาจากไหนไม่รู้ใส่จีวรและสบงทรงอยากเป็นพระ นั่งหน้าประตูห้องกุฏิเจ้าอาวาสทั้งคืนจนไม่กล้าออกไปบิณฑบาต เหตุเกิดที่วัดบ้านโคกน้อย ตำบลเชียงหวาง อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว ความคืบหน้าล่าสุดเช้าวันนี้ (27 ส.ค.66) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดดังกล่าวอีกครั้งเพื่อหาข้อมูลความคืบหน้า แต่กลับพบว่าวัดถูกปิดเงียบไม่มีพระจำพรรษา มีเพียงสุนัข 2 ตัวเฝ้าวัดไว้ จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าหลังเกิดเหตุที่วัดแห่งนี้พระได้ย้ายออกจากวัดนี้ไปทันที โดยไปขอจำพรรษาที่วัดบ้านด่าน ที่ห่างออกไป 5 กิโลเมตร ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปพักสงบสติจากนั้นก็ปล่อยตัวไป เบื้องต้นทราบว่าไม่ใช่คนแถวละแวกหมู่บ้านโคกน้อยแห่งนี้
นายอารีย์ อายุ 66 ปี ชาวบ้านบอกว่า เท่าที่รู้หลังเกิดเหตุพระที่จำพรรษาอยู่ในช่วงเข้าพรรษา ก็ไม่มีใครกล้าอยู่ในวัด ได้พากันหนีออกจากวัดนี้ไปเนื่องจากอาจจะกลัวเพราะก่อนหน้านี้เมื่อปีที่ผ่านมาหลวงปู่ท่านก็เคยถูกทำร้ายร่างกายฟันแขนมาแล้ว 1 ครั้ง สำหรับวัดแห่งนี้มีพระจำพรรษาอยู่รูปเดียวส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจที่พระนี้ไปกลางพรรษาแบบนี้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปวัดบ้านด่าน เพื่อสอบถามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพบกับ พระธง ธัมมะทีโป อายุ 72 ปี พรรษา 21 เล่าว่า คนที่มาวันนั้นอาตมาก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร หลังเกิดเหตุอาตมากลัวมากจึงขอย้ายมาอยู่วัดบ้านด่านซึ่งอยู่ห่างจากวัดเดิม ประมาณ 5 กิโลเมตร หลังเกิดเหตุรู้สึกกลัวมาก ก่อนหน้านี้อาตมาก็เคยถูกฟันแขนมาแล้ว 1 ครั้ง ตอนนั้นตำรวจสามารถจับคนร้ายไว้ได้ ก็อยากให้ตร.ช่วยดูให้หน่อย กลัวโยมคนนี้จะกลับมาเหมือนเดิม ก็ตร.จับกุมและให้ความมั่นใจว่าเขาจะไม่กลับเข้าวัดอีก อาตมาก็จะกลับไปอยู่ที่วัดบ้านโคกน้อยเหมือนเดิมแหละโยม.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี