nn “พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ประเทศไทยเปลี่ยนทันที,ปิดสวิตช์สว., ปิดสวิตช์ 3ป., คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไปพร้อมๆ กัน” และอีกประโยคหนึ่งที่ฟังแล้วค่อนข้างคลื่นไส้ทิ่มแทงหัวใจประชาชนไม่น้อย เมื่อถูกถามว่าทำไมเพื่อไทย คำพูดจึงไม่เป็นคำพูด คำตอบคือ “มันเป็นภาพการรณรงค์หาเสียง เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง” วลีนี้ออกมาจากคนพรรคเพื่อไทยที่ได้เป็นรัฐมนตรี ส่วนจะเป็นใครที่ปากเบาน้ำลายไหลอธิบายไว้ คงไม่มีประโยชน์ที่จะนำมาตอกย้ำ เพราะสังคมรับรู้โจ๋งครึ่มว่า “น้ำเน่า” แต่ให้จดจำไว้ว่า ถ้านักการเมืองคนใดพรรคไหนใช้กิริยาอาการสับปลับ ท้าทายประชาชนลักษณะเช่นนี้ คำว่าทุเรศคงไม่เหมาะที่ประณาม เพราะนอกจากจะเป็นการดูถูกดูแคลนประชาชนว่า “งี่เง่าเต่าตุ่น” แล้ว ยังมองประชาชนเหมือนซากศพไร้วิญญาณนึกจะพูดจะทำอย่างไรก็ได้...

nn ที่จริงการเป็นนักการเมืองที่ดีต้องรักษาคำพูด “ได้ต้องได้ อะไรไม่ถูกต้อง ก็ต้องบอกว่าไ่ม่ถูก”ไม่ใช่เมื่อแลเห็นสิ่งที่ไม่ถูกแล้ว ก็บากหน้าไปพบไปคุย ไปคำนับ ไปยกมือไหว้ประเภทไหว้แล้วไหว้อีกจนน่าเกลียด เหมือนจะขอบคุณอะไรบางสิ่งบางอย่าง เข้าตำรา “ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง”ถ้าเป็นจริงแบบนี้เขาเรียกว่า “หน้าไหว้หลังหลอกแหกตาผู้คน”...

nn ขอชื่นชม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หรือชื่อเดิม พล.ต.อ.เสรี เตมียาเวส วีรบุรุษนาแก ผู้ปราบปรามกำราบมาเฟียอิทธิพลทุกรูปแบบจนราบคาบ ทั้งนครพนม ภาคตะวันออก ยันประตูน้ำ แถมยังเป็นผู้ขจัดคราบสกปรกในสภาจนผู้คนที่รักความเป็นธรรมแซ่ซ้องไปทั่ว และคนคนนี้ยังเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีจุดยืนมั่นคง ไม่วอกแวก หวั่นไหวต่ออิทธิพลหน้าไหนทั้งสิ้นเปาบุ้นจิ้นในภาพยนตร์ถือว่าแน่ แต่คนนี้แน่กว่าเพราะของจริงและจริงกว่า สัมผัสพิสูจน์ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดระดับไหน ถ้าพบว่าผิดกฎหมายก็ต้องผิด ถูกก็ต้องถูก เป็นทองแท้เพชรแท้ไม่กลัวเปลวเพลิงทุกชนิดที่เผชิญ การลาออกจาก สส.ว่ากันว่า มี 2-3 เหตุผลใหญ่ ประการแรกสนับสนุนพรรคการเมืองตามสัญญาจบแล้วประกาศเสียเสียสละทันทีในวันรุ่งขึ้น ด้วยการลาออกจาก สส. ประการต่อมาแสดงสปิริตเปิดทางให้เลขาธิการพรรคเข้าสภาฯ เพราะการเลือกตั้งครั้งล่าสุดได้มาเสียงเดียว จึงตั้งใจออกจากสภาฯเพื่อเดินหน้าปรับปรุงพรรคในฐานะหัวหน้าพรรคให้เป็นที่นิยมเข้าใจของประชาชน ประการสุดท้ายน่าจะเป็นสิ่งที่เห็นภาพทางการเมืองลักษณะ “ทุเรศทุรัง” ซึ่งคนการเมืองบางคนขึ้นสู่ตำแหน่งใหญ่ แต่มีปมด้อยติดตัว ไร้ความสามารถ แถมยังมีคดีติดตัวจนมัวหมอง สังคมรับรู้ทั่วหน้า ที่สำคัญบางคนบางคณะก็แย่งตำแหน่งกันแบบ “ไอ้ด่างแย่งชามข้าว”...

nn คนที่ไม่เคยสัมผัสกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อาจมองข้ามจุดยืน แต่ผู้คนส่วนใหญ่ทุกวงการ หากไม่ดัดจริต ย่อมทราบดีว่าเขาคนนี้จะไม่สยบยอมต่อสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภททุกมิติ เพราะกฎหมายปลุกเสกให้สังคมเท่าเทียมและอยู่อย่างเป็นสุขได้...

nn โดยสรุปการลาออกจากสส.ของวีรบุรุษนาแก ผู้มีจุดยืนมั่นคงมาตลอดเวลาคนนี้ ก็เป็นไปได้ที่อาจทำให้สะกิดเตือนใจคนมีอำนาจในรัฐบาลเศรษฐา สำนึกสำเหนียกถึงสัจจะสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน แต่ถ้าใครบางคน “ยังหนายังด้าน” คิดไม่ออกเพราะกิเลส ราคะ อำนาจ ครอบงำ กรรมวิบัติเกิดขึ้นกับผู้นั้นแน่นอน...nn

ไผ่ฎำ