“คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม” เกิดขึ้นตามบทบัญญัติในมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย มาตรการ ข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานการปฏิรูปที่ดินของ ส.ป.ก. ตลอดจน การควบคุมการบริหารงานของ ส.ป.ก. รวมทั้งอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังนี้ (1) จัดหาที่ดินของรัฐเพื่อนำมาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
(2) พิจารณากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินตามมาตรา 25 การจัดซื้อหรือเวนคืนที่ดินตามมาตรา 29 และการกำหนดเนื้อที่ที่ดินที่จะให้เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรเช่าระยะยาว หรือเช่าซื้อตามมาตรา 30 (3) พิจารณาการกำหนดแผนผังและการจัดแบ่งแปลงที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (4) พิจารณาอนุมัติแผนงานและโครงการการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตลอดจนงบค่าใช้จ่ายของ ส.ป.ก. เสนอรัฐมนตรี (5) พิจารณากำหนดแผนการผลิตและการจำหน่ายผลิตผลเกษตรกรรมในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อยกระดับรายได้ และคุ้มครองผลประโยชน์ของเกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกร
(6) พิจารณากำหนดแผนการส่งเสริม และบำรุงเกษตรกรรมในเขตปฏิรูปที่ดิน รวมถึงการจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตและคุณภาพผลิตผลเกษตรกรรม ตลอดจนสวัสดิการ การสาธารณูปโภค การศึกษาและการสาธารณสุขของเกษตรกร (7) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการคัดเลือกเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ซึ่งจะมีสิทธิได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตลอดจนแบบสัญญาเช่าและเช่าซื้อที่จะทำกับเกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน
(8) กำหนดระเบียบการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินและปฏิบัติตามแผนการผลิตและการจำหน่ายผลิตผลเกษตรกรรม (9) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินกู้ยืมจาก ส.ป.ก. ตลอดจนเงื่อนไขของการกู้ยืมโดยอนุมัติรัฐมนตรี
(10) กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตลอดจนการควบคุมดูแลกิจการอื่นๆ ภายในเขตปฏิรูปที่ดิน (11) ติดตามการปฏิบัติงานของ ส.ป.ก. ให้เป็นไปตามแผนงานและโครงการที่ได้รับอนุมัติ ตลอดจนกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน (12) กำหนดกิจการและระเบียบการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของ ส.ป.ก. หรือสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับวัตถุประสงค์ของการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ครั้งที่ 4/2566 ซึ่งที่ประชุม ให้ความเห็นชอบหลักการแนวทางการปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์สำหรับกิจการที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เนื่องจากระเบียบ คปก. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการอนุญาตและการให้ผู้รับอนุญาตถือปฏิบัติในการใช้ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์สำหรับกิจการที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2541
ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเพื่อรองรับกรณีผู้ได้รับอนุญาตรายเดิมไม่ประสงค์จะทำประโยชน์ในที่ดินหรือถึงแก่ความตาย และมีคู่สมรส บุตร หรือ เครือญาติ หรือทายาทมายื่นคำขออนุญาตไว้เป็นการเฉพาะ รวมทั้งยังไม่มีหลักเกณฑ์รองรับการจัดการทรัพย์สินหรือหนี้สินของผู้ได้รับอนุญาตที่เกิดขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมายในระหว่างการใช้ประโยชน์ในที่ดินก่อนการสละสิทธิหรือถึงแก่ความตาย
นอกจากนั้น ยังได้อนุมัติแผนการใช้จ่ายเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 4,010 ล้านบาท เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาผู้ไร้ที่ดินทำกิน พัฒนาศักยภาพพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล พัฒนาโครงสร้างปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เพื่อให้เกษตรกรใช้ประโยชน์ร่วมกัน พร้อมกันนี้ยังได้อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้าสำรวจก่อสร้าง หรือดำเนินการใด ๆ เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ อันเป็นกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ จำนวน 2 โครงการ
ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ในเขตปฏิรูปที่ดิน เนื้อที่รวมประมาณ 1,537-3-04 ไร่ และโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่ – มหาสารคาม – ร้อยเอ็ด- มุกดาหาร – นครพนม เนื้อที่รวมประมาณ 1,917-3-75 ไร่ เป็นระยะเวลาหนึ่งปี โดย รฟท. จะดำเนินการในพื้นที่ต่าง ๆ โดยแบ่งเป็นช่วงหรือระยะเวลาที่มีการเยียวยาหรือจ่ายค่าชดเชยเกษตรกรแล้ว และในการออกหนังสืออนุญาตหรือให้ความยินยอมจะนำเสนอ คปก. พิจารณาอนุญาตตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป และในส่วนการเก็บค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินและการเก็บค่าหลักประกันเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่ ส.ป.ก. กำหนด
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า การกำหนดหลักเกณฑ์รองรับการพิจารณาอนุญาตและการจัดการทรัพย์สินหรือหนี้สินในกรณีที่ผู้ได้รับอนุญาตรายเดิมสละสิทธิ โอนสิทธิ หรือถึงแก่ความตาย เป็นไปเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมแก่เกษตรกร นอกจากนี้ การเพิ่มประเภทกิจการเพื่อรองรับกรณีที่เกษตรกรผู้ได้รับมอบที่ดินจาก ส.ป.ก. ประสงค์จะใช้ที่ดินบางส่วนสำหรับประกอบอาชีพเสริมไว้เป็นการเฉพาะด้วย
โดยการใช้ที่ดินดังกล่าวจะต้องไม่เกินกว่าสัดส่วนที่กำหนดเพื่อมิให้กระทบต่อการใช้ที่ดินเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ได้รับที่ดินตามเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รวมทั้งสอดคล้องกับบริบทและสภาพของสังคมในปัจจุบัน ที่ประชุมได้มีการเห็นชอบในเรื่องของงบบริหารกองทุนฯ ที่จะใช้ในการขับเคลื่อนงานเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
“นอกจากนี้ ในส่วนของการดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟ เป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในพื้นที่ ช่วยเกษตรกรในการส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าและการขนส่งสินค้า ส่งเสริมการจ้างงานและการลงทุน ทั้งในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ส่งเสริมการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศ ทำให้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การเกษตร การท่องเที่ยว และโลจิสติกส์ ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องยืนยันความมุ่งมั่นของ ส.ป.ก. ในการทำให้พี่น้องเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินอยู่ได้ อยู่ดี มีความสุข ตลอดไป” เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี