ชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูงจังหวัดกาฬสินธุ์สุดอึ้ง หลังประมวลข้อมูลลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุตัดไม้พะยูงขายในโรงเรียนหนองโนวิทยาคมและโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ อำเภอห้วยเม็ก ระบุนอกจากจะพบพิรุธตัดไม้พะยูงขายแบบไม่สมเหตุสมผลแล้วจำนวนเงินที่มีการซื้อขายยังถูกแบ่งเค้กแบบจ่ายเงินก้อนโตแต่ลงบิลเงินปลีก คาดพ่อค้าจ่ายจริงมากกว่า 700,000 บาทแต่ลงใบเสร็จส่งเงินเข้าหลวงเพียง 104,000 บาท เงินสดปึกใหญ่หายไปกว่า 600,000 บาท
จากกรณีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อนมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อย่างไร้ร่องรอยและยังมีปัญหาการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ที่ให้นายหน้าเข้ามาตัดไม้พะยูงภายในโรงเรียน 22 ต้น กับอีก 2 ตอ ราคา 153,000 บาท โดยเรื่องนี้ จังหวัดได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.- ส.ต.ง.-ป.ป.ท. เอาผิดทางวินัย แพ่ง อาญา ล่าสุด ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ตั้งคณะไต่สวนจัดชุดใหญ่ ตรวจสำนวนตำรวจ ส่วนชาวบ้านที่รักษ์ผืนป่าทยอยส่งหลักฐาน การประมูลไม้พะยูงตามโรงเรียนในเขต สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 หลายแห่ง โดยปรากฏที่โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก และที่โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ อ.ห้วยเม็ก มีการนำหลักฐานกล้องวงจรปิดจับภาพชายฉกรรจ์ 7 คนเข้าไปเจาะดูแก่นไม้พะยูง ภายในโรงเรียนโคกกลางเหนือพิทยา อ.ห้วยเม็ก และยังเกิดเหตุคนร้าย 5 คนอาวุธครบมือ ลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียนโนนศิลาสว่างวิทย์ อ.ฆ้องชัย อย่างอุกอาจ ล่าสุด ชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง จ.กาฬสินธุ์ เรียกสอบบุคคลในภาพ ซึ่งพบหลักฐานเอกสารและการนำนายทุนเข้าเจาะไม้ วัดไม้ สำรวจก่อนประมูลขาย ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
วันที่ 7 ก.ย.66 นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยาและโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ ร่วมกับนายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายอดิสร คงสมกัน หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส. 1 นายกิตติภูมิชัย วงศ์สนิท นายอำเภอห้วยเม็ก และผู้นำชุมชน เมื่อวันที่ 4 ก.ย.66 ที่ผ่านมานั้นพบพิรุธถึงความไม่เหมาะสมในการตัดไม้พะยูง รวมทั้งการบริหารจัดการเงินที่เข้าข่ายฉ้อราษฎร์บังหลวงชัดเจน
นายนิยม กล่าวอีกว่า จากการสรุปรายงานเบื้องต้น ที่โรงเรียนหนองโนวิทยาคม ไม้พะยูง 9 ต้น ราคาขายในใบเสร็จรับเงินจำนวน 104,000 บาท ขณะที่ราคาตลาดท้องถิ่นทั่วไปราคาประมาณ 304,550 บาท แต่ราคาประเมินของไม้ท่อนหวงห้ามของกรมป่าไม้ ลูกบาศก์เมตรละ 250,000 บาท ถ้าเป็นไม้แปรรูป ราคาลูกบาศก์เมตรละ 500,000 บาท รวมไม้พะยูง จํานวน 9 ต้น ปริมาตร 6.091 ลูกบาศก์เมตร ๆ ละ 250,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,512,750 บาท
ส่วนที่โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ จํานวน 3 ต้น ในราคาซื้อขายตามใบเสร็จรับเงิน 30,000 บาท เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ 2 ต้นหรือ 2 ตอ เนื่องจาก 1 ตอได้ขุดขายไปแล้ว ทั้งนี้หากราคาตลาดท้องถิ่นทั่วไปราคา ประมาณ 446,400 บาท ขณะที่ราคาประเมินของไม้ท่อนหวงห้ามของกรมป่าไม้ ลูกบาศก์เมตรละ 250,000 บาท ถ้าเป็นไม้แปรรูป ราคาลูกบาศก์เมตรละ 500,000 บาท รวมไม้พะยูง จํานวน 2 ต้น ปริมาตร 8.928 ลูกบาศก์เมตร ๆ ละ 250,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,232,000 บาท ที่หากเทียบกับราคาที่ลงในใบเสร็จรับเงินจะเห็นว่าราคาต่างกันมากทีเดียว
ด้านนายสมภาร บุดดี ผู้อำนวยการโรงเรียนโคกกลางเหนือพิทยาสรรพ์ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนหนองโนวิทยาคม กล่าวว่าว่า ตามที่มีข่าวตัดไม้พะยูงโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี เมื่อวันที่ 17 ส.ค.66 ที่ผ่านมา และมีประเด็นเป็นการขายที่ผิดกฎหมายและหลายฝ่ายลงความเห็นว่าการขออนุญาตตัดไม้ไม่สมเหตุสมผล ตนรู้สึกกังวลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เนื่องจากก่อนหน้านี้คือวันที่ 15 เม.ย.66 ได้มีการตัดไม้พะยูงโรงเรียนหนองโนวิทยาคมที่ตนเป็นผู้บริหาร หลังจากทำหนังสือขออนุญาตไปที่ผู้อำนวยการ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 เพื่อขออนุญาตตัดไม้พะยูงในเขตที่ราชพัสดุ
ต่อมามีเจ้าหน้าที่ธนารักษ์ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการประเมินราคามาสำรวจไม้ ร่วมประชุมคณะกรรกมารสถานศึกษา ก่อนทำสัญญาซื้อขาย จ่ายเงินจำนวนเงิน 104,000 บาทและต่อมา 3 วันคือวันที่ 15 เม.ย.66 นายหน้าก็ได้นำรถบรรทุกพร้อมเลื่อยยนต์เข้ามาทำการตัดและขนไม้พะยูงไป ถึงวันนี้ตนยังรู้สึกเป็นกังวลในเรื่องการขออนุญาตตัดไม้พะยูงอยู่ เพราะมีข้อมูลเปรียบเทียบของประกาศหลายฉบับ ทั้งข้อมูลของจังหวัดของกรมธนารักษ์ และระเบียบการให้อนุญาตของธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์เอง
อย่างไรก็ตาม ตามที่ฝ่ายความมั่นคงได้สอบถามครู และกรรมการสถานศึกษา รวมทั้งข้อมูลที่ได้จากแหล่งข่าวในพื้นที่ ระบุตรงกันว่าการตัดไม้พะยูงขายในโรงเรียนหนองโนวิทยาคม 9 ต้น ราคา 104,000 บาทนั้นมีลับคมใน และเพิ่งจะมีการเปิดเผยเป็นข้อมูลใหม่ในวันนี้
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ก่อนการขออนุญาตขายมีไทม์ไลน์เช่นเดียวกันกับที่โรงเรียนอื่นคือเริ่มจากมีคนร้ายเข้ามาลักลอบตัด ทำให้ครู ผู้นำชุมชน ต้องเข้าเวรยามป้องกันรักษา จากนั้นก็ยังมีเหตุมาลักลอบตัดบ่อยครั้ง บางครั้งแค่มาตัดให้ไม้พะยูงโค่นล้ม บางครั้งขนย้ายไม้พะยูงไปด้วย กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ของธนารักษ์ และบุคคลภายนอกเข้ามาแนะนำให้ทำเรื่องขออนุญาตตัดขาย เพื่อที่จะได้หมดภาระเฝ้าระวังและได้เงินเข้าหลวง หากไม่ทำตามและเกิดเหตุคนร้ายลักลอบเข้ามาตัดอีกจะถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งพอทำเรื่องขออนุญาตก็ได้รับอนุญาตง่ายดาย ไม่มีการตรวจสอบความสมเหตุสมผล ต่อมาทำการเจาะไม้ ประเมินราคา ทำสัญญาซื้อขายราคาต่ำ ท่ามกลางกระแส "รับเงินปึกลงบิลเงินปลีก" เรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ โดยขบวนการ "ฟอกขาว" แน่นอน
โดยที่โรงเรียนหนองโนวิทยาดังกล่าวแหล่งข่าวระบุว่ามีการประสานงานโดยคนของธนารักษ์คนหนึ่ง มีการปลอมแปลงลายเซ็นคณะกรรมการสถานศึกษาบางคน มีการล็อคสเป็กผู้มารับซื้อไม้ โดยผู้รับซื้อไม้จะจ่ายเงินให้กับโรงเรียน 200,000 บาท บ้านหนองโน 2 หมู่บ้านๆละ 200,000 บาท รวม 600,000 บาท แต่พอมีการจ่ายจริงจ่ายจริงเพียงแห่งละ 133,000 บาท รวมจ่าย 399,000 บาท และลงจำนวนเงินในใบเสร็จรับเงินส่งสำนักงานพื้นที่การศึกษาเขต 2 เพียง 104,000 บาท ทั้งนี้ หากพ่อค้าจ่ายจริงจะได้ตัวเลขกลมๆ 600,000+104,000 บาท เท่ากับ 704,000 บาท ซึ่งราคาใกล้เคียงกับโรงเรียนคำไฮวิทยา จำนวน 22 ต้นกับอีก 2 ตอ พ่อค้าซื้อไม้พะยูงจ่ายจริง (ตามคำให้การของแหล่งข่าวภายใน) จำนวน 930,000 บาท ลงรับเงินในใบเสร็จ 153,000 บาท ซึ่งหากมีการจ่ายจริงที่โรงเรียนหนองโนวิทยาจำนวน 704,000 บาท หมายความว่าเงินก้อนใหญ่หายไปถึง 600,000 บาททีเดียว ทั้งนี้ ข้อมูลตัวเงินซื้อขายดังกล่าวมีพยานบุคคลยืนยันชัดเจน ซึ่งอยู่ในสำนวนของชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง จ.กาฬสินธุ์แล้ว เพียงแต่ว่าจะมีการเปิดเผยกระจ่างชัดเมื่อไหร่เท่านั้น
ขณะที่นายกิติภูมิชัย วงศ์สนิท นายอำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับคำสั่งของทางจังหวัดให้ทางอำเภอทำการสอบปากคำบุคคลในภาพ ซึ่งบันทึกจากกล้องวงจรปิดในโรงเรียนหนองโนวิทยา และโรงเรียนโคกกลางเหนือพิทยาสรรพ์ ขณะทำการเจาะไม้ วัดไม้ สำรวจก่อนประมูล ซึ่งครูและชาวบ้านระบุเป็นคนของธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ และ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 นั้น ทางอำเภอได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เพื่อทำบันทึกตรวจสอบและจะรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดภายใน 7 วัน เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี