นครพนมอ่วม

ฝนกระหน่ำท่วมทั่วเมือง

กาฬสินธ์ุน้ำป่าไหลหลาก

กรมอุตุฯเตือน 33 จังหวัดภาคเหนือ-อีสาน ฝนตกหนัก ส่วนนครพนม ฝนกระหน่ำส่งผลให้น้ำเอ่อท่วมเขตเทศบาลเมืองฯเจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ ขณะที่ รร.เก่าแก่นับ 100 ปี งดการเรียนการสอน 1 วัน หวั่นไฟฟ้ารั่ว โดยให้ นร.เรียนออนไลน์ ด้าน จ.กาฬสินธุ์ น้ำป่าเทือกเขาภูพาน หลากท่วมหลายอำเภอ เสียหาย

เมื่อวันที่ 7กันยายนกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งใน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้

ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้และอ่าวไทย โดยเฉพาะใน 33จังหวัดเสี่ยงภัยฝนตกหนักและหนักมาก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

อนึ่ง พายุโซนร้อน “ยุนยาง” (YUN-YEUNG) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศญี่ปุ่นช่วงวันที่ 8-9 กันยายน 2566 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางช่วงวันและเวลาดังกล่าว

วันเดียวกัน ที่ จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่าภายหลังฝนตกหนักต่อเนื่องใน อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่ตัวเมืองนครพนม ทำให้น้ำท่วมขังชุมชนในเขตเทศบาลเมือง ระดับน้ำสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร เนื่องจากระบายลงแม่น้ำโขงไม่ทัน สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งทางเทศบาลเมืองนครพนม ต้องระดมเจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำออก โดยเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ที่มีการติดตั้งเสริมในฤดูฝน 6 จุด เร่งสูบน้ำลงแม่น้ำโขง ซึ่งหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม คาดว่าระดับน้ำจะกลับสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ดี ทางเทศบาลฯ ยังคงเฝ้าติดตามถานการณ์ และเตรียมพร้อมเพื่อแก้ปัญหาต่อไปสำหรับระดับน้ำโขง วัดได้ 5.90 เมตร เพิ่มจากวันที่ 6 กันยายนทีผ่านมา 8 เซนติเมตร

ขณะที่โรงเรียนปิยะมหาราชาลัย โรงเรียนประจำจังหวัดนครพนม ซึ่งมีอายุเก่าแก่ถึง 114 ปี ได้ออกหนังสือด่วน ส่งไปในไลน์กลุ่มผู้ปกครอง ประกาศงดการเรียนการสอน ในวันที่ 7 กันยายน 2566 เป็นเวลา 1วัน เนื่องจากสถานการณ์น้ำและฝนตกหนักในเขตเทศบาลเมืองฯ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมภายในโรงเรียน อาคารสถานที่ ตลอดจนบ้านพักครูได้รับผลกระทบ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการใช้อาคาร เพราะอาจเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วขึ้นได้ จึงให้มีการตรวจสภาพอาคาร ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ให้แน่ใจเสียก่อน โดยจะให้จัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ทดแทน และจะเปิดเรียนตามปกติในวันที่ 8 กันยายนนี้

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ร่วมกับป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครพนม รวมถึงเทศบาลเมืองนครพนม และบุคลากรของโรงเรียนดังกล่าวเพื่อตรวจสอบบริเวณโรงเรียนหลังจากนายมัฆวาน ประทังคติ ครูชำนาญการ ระบุว่าพื้นที่โดยรอบโรงเรียนต่ำกว่าระดับถนนในเขตเทศบาลเมืองฯ จึงทำให้น้ำไหลเข้าท่วมภายในโรงเรียน แม้จะพยายามเร่งสูบน้ำออก แต่ก็ยังมีปริมาณน้ำทะลักเข้ามาอีก ทาง ผอ.โรงเรียนฯ จึงตัดสินใจประกาศงดการเรียนการสอนชั่วคราว 1 วัน ในวันเดียวกันนี้ เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่าเด็กนักเรียนจะได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้าที่อาจจะรั่วได้ แต่ก็ยังมีนักเรียนบางคน ไม่ทราบประกาศของทางโรงเรียน ได้เดินทางมาเรียนตามปกติ ทางคณะครูจึงต้องแจ้งผ่านเครื่องขยายเสียงอีกครั้ง โดยให้นักเรียนที่มีบ้านอยู่นอกเขตเทศบาลเมืองฯ เรียนออนไลน์ในห้องปฏิบัติการชั่วคราว

ที่ จ.กาฬสินธุ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณใกล้เทือกเขาภูพาน ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่การเกษตร ถนน และบ้านเรือนประชาชนใน อ.กุฉินารายณ์ อ.เขาวง อ.นาคู และ อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาดังกล่าว โดยปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นที่ ลำพะยังที่รับน้ำจากเทือกเขาภูพาน จนน้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้างนอกจากนี้น้ำป่าที่ไหลหลากจากเทือกเขาภูพานใน อ.เขาวง ได้ทะลักเข้าท่วม อ.กุฉินารายณ์ พื้นที่การเกษตร ถนนสายต่างๆ รวมทั้งบ้านเรือนประชาชน ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วมกว่า 10หลังคาเรือน ในพื้นที่ อบต.บัวขาว พร้อมสั่งการให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกสำรวจความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป