บก.น.1 สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง'ผกก.สน.พญาไท'ออกนอกพื้นที่โผล่งานเลี้ยงบ้าน'กำนันนก'ว่าเป็นการเบียดบังเวลาราชการหรือเป็นการกระทำผิดทางวินัยหรือไม่ ขณะที่เจ้าตัวเขียนรายงานชี้แจงแล้ว อ้างรุ่นพี่ชวนไปหลังเลิกงาน พร้อมยอมรับนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม'สารวัตรศิวกร' ส่วนรายละเอียดชี้แจงกับชุดสืบสวนสอบภาค 7 -ตำรวจสอบสวนกลางไปแล้ว จึงยังเปิดเผยไม่ได้ ส่วนต้องให้ไปช่วยราชการหรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณาตามระเบียบและข้อมูลที่ได้รับ
8 ก.ย.66 จากกรณีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ จำนวน 21 นาย ที่อยู่ในงานเลี้ยงบ้านนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ในพื้นที่ จ.นครปฐม ก่อนเกิดเหตุนายธนัญชัย หรือ หน่อง ท่าผา มือปืนลูกน้องกำนันนก กระหน่ำยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรสิว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. บาดเจ็บเหตุ ซึ่งกรณีดังกล่าวถูกสังคมตั้งข้อสงสัยว่า ขณะเกิดเหตุมีตำรวจทางหลวงไปร่วมงานเลี้ยง และอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนหลายนาย แต่เหตุใดจึงไม่มีการจับกุมผู้ก่อเหตุและปล่อยให้หลบหนีไปได้ อีกทั้งยังพบเรื่องการปล่อยให้มีการทำลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่ง 1 ใน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปร่วมงาน พบว่าเป็น ผกก.สน.พญาไท ซึ่งอยู่ในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ ผกก.สน. พญาไท ทำรายงานแจ้งเหตุผลการเดินทางไปร่วมงานที่บ้านกำนันนกในวันเกิดเหตุว่าเดินทางออกนอกพื้นที่ได้อย่างไร และชี้แจงรายละเอียดภายในช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุทั้งหมด ซึ่ง ผกก.สน.พญาไท ได้ให้เจ้าหน้าที่นำรายงานมาส่งให้ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้ว โดย ผกก.ชี้แจงว่า มีรุ่นพี่ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปร่วมงานชวนตนให้ไปร่วมงานด้วย ในฐานะที่ในอดีตเคยสังกัดกองบังคับการตำรวจทางหลวงมาก่อน โดยเดินทางออกนอกพื้นที่นครบาลช่วงหลังเลิกงาน
พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เจ้าตัวยังได้ระบุว่า ไม่ได้เป็นการเบียดบังใช้เวลาราชการไปทำเรื่องส่วนตัว ส่วนในระหว่างเกิดเหตุ ผกก. นั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสารวัตรศิวกร ส่วนรายละเอียดเหตุการณ์ทั้งหมดให้ปากคำกับชุดสืบสวนสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจสอบสวนกลางแล้ว จึงไม่สามารถเปิดเผยให้ทราบได้เนื่องจากอยู่ในสำนวน ซึ่งจนถึงขณะนี้ ผกก.สน.พญาไท ก็ยังไม่ได้เดินทางกลับเข้าพื้นที่ เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบปากคำในฐานะพยานในคดี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนจึงได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ ผกก.สน.พญาไท เรื่องการไปร่วมงานดังกล่าวว่าจะเข้าข่ายทำผิดวินัยหรือไม่ ส่วนที่จะจำเป็นต้องให้ไปช่วยราชการหรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณาตามระเบียบและข้อมูลที่ได้รับ
ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับการไม่ได้เข้าไปจับกุมหรืออาจมีส่วนกับการทำลายพยานหลักฐานซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 เรื่องนี้ทราบว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. อยู่ระหว่างการดำเนินการ จึงไม่อาจก้าวล่วงได้แต่หากมีการดำเนินคดีจริงก็ต้องพิจารณาตามระเบียบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี