ตะลึง!ปืนใช้ยิงเป็นของตร.
หมายจับ4ตำรวจ
สอบวินัยร้ายแรงโทษไล่ออก
‘กำนันนก’รับกรรมนอนคุก
ผวาหนักไม่ขอประกันตัว
นอภ.ถอนใบอนุญาตปืน
กองปราบฯหิ้วปีกอดีตกำนันนก ฝากขัง สั่งไอ้หน่อง ยิงสารวัตรทางหลวงดับกลางงานเลี้ยง ค้านประกันยาวเหยียด ด้านทนายไม่ยื่นประกัน ระบุอดีตกำนันนก สั่งไม่ให้ยื่นประกันโดยไม่บอกเหตุผล ขณะที่พนักงานสอบสวนจ่อหมายจับ4ตำรวจร่วมโต๊ะจีน อึ้งปืนที่ใช้สังหารเป็นปืนของตำรวจ
เมื่อเวลา09.00 น.วันที่ 9 ก.ย. ที่ศาลอาญาถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.สุชาติ อิ่มสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำตัว นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ อดีตกำนันนกผู้กว้างขวางย่านจ.นครปฐม อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา กระทำความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น มาฝากขังเป็นครั้งแรก
โดยพนักงานสอบสวนสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปว่า ก่อนเกิดเหตุ วันที่ 5 ก.ย.66 พ.ต.ต.ศิวกร สายบัวหรือสารวัตรสิว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำแหน่ง สารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.ส.กก.5 ทล.บก.ทล.)ผู้ตาย และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก. 6 บก.ทล. ผู้บาดเจ็บ กับพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนาย ได้รับเชิญจาก นายประวีณ ผู้ต้องหาให้ไปร่วมรับประทานอาหารที่ บริเวณหน้า บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 2 ต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม
ต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น. ผู้ต้องหาได้มีปากเสียงกับผู้ตาย จากนั้นผู้ต้องหาได้ใช้ให้ นายธนัญชัย หรือหน่อง หมั่นมาก หรือหน่อง ท่าผา ลูกน้องคนสนิท ใช้อาวุธปืนพกสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จ่อยิงผู้ตาย หลายนัด ที่บริเวณลำตัวด้านขวาได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ส่วน พ.ต.ท.วศิน ที่นั่งอยู่ข้างผู้ตายขณะเกิดเหตุ กระสุนปืนพลาดไปถูกที่บริเวณแขนข้างขวา จำนวน 1 นัด เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้น ผู้ต้องหา และ นายธนัญชัยหรือหน่อง ได้หลบหนีออกจากบริเวณที่เกิดเหตุไป ต่อมาวันที่ 7 ก.ย. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่น “คำร้องขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดนครปฐม และศาลอนุมัติหมายจับตามขอ ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่จ. 427/2566 ลงวันที่ 7 ก.ย.2566 ในวันเดียวกันนั้น เวลาประมาณ18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ดำเนินคดี
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80,84 ชั้นสอบสวนและจับกุมผู้ต้องหา ผู้ต้องหาปฏิเสธข้อกล่าวหา
ตำรวจคัดค้านการประกันตัว
พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจาก 30ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา อื่น ๆ ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าว จึงขอหมายขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวน มีกำหนด12 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-20 ก.ย.
ท้ายคำร้องหากผู้ต้องหาขอปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านเนื่องจาก ผู้ต้องหาเป็นกำนัน ต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม มานานประมาณ 9ปี ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานปกครองมีอำนาจหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดและมีอำนาจสืบสวนเฉพาะในเขตพื้นที่ของตน แต่กลับกระทำคน เป็นผู้มีอิทธิพลมีความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายพื้นที่ สามารถโน้มน้าวชักชวนให้ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่และระดับ ต่าง ๆ รวมถึงข้าราชการอื่นมาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ในโอกาสต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างบารมีของตน ซึ่งบางนายอยู่ในที่เกิดเหตุและ เห็นเหตุการณ์ อีกทั้งสนิทสนมกับนักการเมืองท้องถิ่นและนักการเมืองระดับชาติ มีการใช้อำนาจบารมีขอให้ผู้ตายย้ายข้าราชการ ตำรวจที่ตนรู้จัก เมื่อไม่ได้รับการตอบสนอง จึงมีพฤติกรรมอุกอาจใช้ให้ผู้อื่นยิงผู้ตายซึ่งเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ต่อหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหลายนาย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ภายหลังเกิดเหตุยังได้มีการสั่งให้ ทำลายพยานหลักฐานโดยการล้างคราบเลือด เก็บปลอกกระสุนปืน ถอดเสิร์ฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดและหลบหนีไป ประกอบกับเป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึงประหารชีวิต และพนักงานสอบสวนจำต้องทำการสอบสวนสอบพยานที่ไม่ใช่ เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหลายปาก หากมีการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่า จะเป็นอุปสรรคหรือเกิดความเสียหายต่อการ สอบสวนผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงหรือข่มขู่พยานหรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ผู้คุมหิ้วปีกกำนันนกเข้าคุก
ด้านนายเชาว์ แก่นสวาท ทนายความของอดีตกำนันนก เปิดเผยสั้นๆ ว่าวันนี้ไม่มีการยื่นประกันตัว เพราะกำนันนกไม่ประสงค์จะขอประกัน โดยไม่ระบุเหตุผล
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จะนำตัวนายประวีณ ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป .
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนนำตัวกำนันนกไปฝากขัง นั้นทางผู้ต้องหา สวมเสื้อสีฟ้า อยู่ในสภาพอิดโรย จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กำนันนก นอนในห้องขังคืนแรก มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด และไม่รับประทานอาหาร ส่วนเมื่อเช้าก่อนนำตัวไปศาล ก็ไม่รับประทานอาหารเช้าเช่นกัน
ฟันวินัย25ตร.โต๊ะจีนโทษถึงไล่ออก
จากกรณีเกิดเหตุนายธนัญชัย หรือหน่อง ท่าผา ได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.เสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านของนายของนายปวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จว.นครปฐม ทั้งๆที่มีตำรวจระดับ ผกก. - ผบ.หมู่ อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุจำนวนถึง 25 นาย ซ้ำร้ายยังปล่อยให้คนร้ายหนีไปได้อย่างลอยนวล รวมถึงมีการทำลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกด้วย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ก.ย.66 ซึ่งโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงว่า พล.ต.อ.ดำรงศักด์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงทางวินัย
พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่มีคำสั่งที่เป็นทางการ แต่ก็ได้สั่งการให้เตรียมการในเบื้องต้นไว้แล้ว โดยในส่วนการสอบสวนคดีอาญา ซึ่งทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้ลงไปควบคุมสั่งการอยู่แล้ว ในส่วนจเรตำรวจเป็นเรื่องทางวินัย ซึ่งตนจะออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการของจเรตำรวจเข้าไปสอบวินัยตำรวจทั้ง 25 นาย โดยจะมีการประสานข้อมูลกับพนักงานสอบสวนคดีอาญาอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นเหตุการณ์เดียวกัน พยานหลักฐานชุดเดียวกัน โดยเฉพาะประเด็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้คนร้ายหลบหนี ปล่อยให้มีการทำลายที่เกิดเหตุ ทำลายพยานวัตถุ ทำลายหลักฐาน ทำลายระบบการบันทึกระบบวงจรปิดในที่เกิดเหตุ
นอกจากนั้น จะสาวข้อมูลให้ลึกลงไปด้วยว่า ตำรวจทั้ง 25 นาย มีการประพฤติตนอันไม่สมควรอื่นๆที่เอื้อต่อกำนันรายนี้อย่างไร เช่น การเรียกรับส่วย การรับผลประโยชน์ และการเอื้อผู้มีอิทธิพลที่กระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ซึ่งเป็นที่มาของการกล้ากำเริบเหิมเกริมก่อเหตุสังหารตำรวจระดับสารวัตร ต่อหน้าตำรวจที่นั่งกันอยู่เต็มงาน แถมยังมีตำรวจผู้ใหญ่ระดับ ผกก.นั่งอยู่ด้วยถึง 3 นาย ในครั้งนี้ โดยไม่มีตำรวจคนใดกล้าจับกุม หรือขัดขวางการหลบหนี ปล่อยให้เพื่อนตำรวจถูกยิงเสียชีวิตคาตายืนยันว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐานไม่มีการละเว้น และความผิดทางวินัยในเรื่องนี้ มีโทษขั้นสูงสุดคือไล่ออกจากราชการ
บิ๊กทินพร้อมปราบมาเฟีย
ที่มหาวิทยาลัยรังสิต นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงคดีกำนันที่มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดนครปฐมเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุยิงตำรวจว่า ไม่ได้รับรายงานว่ามีทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่กรณีที่อาจจะมีทหารเข้าไปสนับสนุนผู้มีอิทธิพลนััน นายสุทินย้ำว่า เป็นนโยบายของกองทัพที่จะดูแลกำลังพลให้อยู่ในระเบียบวินัยและมีประสิทธิภาพ
เมื่อถามว่า กระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้มีอิทธิพล นายสุทิน กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยโดยตรง ซึ่งกระทรวงกลาโหม พร้อมให้การสนับสนุน และหากต้องการข้อมูลเรื่องใดก็พร้อมประสานให้อย่างเต็มที่
ถอนใบอนุญาติปืนกำนันนก
นายยุทธนา โพธิวิหศ นายอำเภอเมืองนครปฐม ในฐานะนายทะเบียนท้องที่อำเภอเมืองนครปฐม ลงนามด่วนที่สุด ที่ นฐ 0118/4034 ในวันที่ 8 ก.ย. ถึงนายประวีณ จันทร์คล้าย มีเนื้อหาระบุว่า ด้วยวันที่ 7กันยายน 2566 นายประวีณ กำนันตำบลตาก้อง อำเภอเมือง นครปฐม จังหวัดนครปฐม ได้ถูกออกหมายจับในคดีอาญา ตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.469/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโตยเจตนา และ พยายามฆ่าผู้อื่น
อำเภอเมืองนครปฐม พิจารณาเห็นว่า พฤติกรรมของท่านเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เป็นการกระทำความผิดกฎหมายอาญาร้ายแรง ซึ่งถือว่ามีความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง อันอาจ กระทบกระเทือนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ท่านจึงเป็นผู้ต้องห้ามมิออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ2490 มาตรา 13(9) อันเป็นเหตุให้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 66 นายทะเบียน นายท้องที่อำเภอเมืองนครูปฐม จึงเห็นควรเพิกถอนใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปีน (แบบ ป.4) เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายจึงแจ้งมายังท่านเพื่อให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมีโอกาสโต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานต่อ นายทะเบียนท้องที่อำเภอเมืองนครปฐม ภายใน 7วัน นับวันที่ได้รับหนังสือ รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จึงเรียนมาเพื่อทราบ
“บิ๊กโจ๊ก”ยอมรับมีชายปริศนา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีมีข้อมูลระบุว่ามีชายปริศนาสวมเสื้อคลุมสีดํายืนคุยกับนายธนัญชัย หรือ หน่อง ท่าผา มือปืนที่ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง1 กองกํากับการ2 กองบังคับการตํารวจทางหลวง จนเสียชีวิต หลังร่วมรับประทานอาหารที่บ้านของ นายประวีณ หรือ กำนันนก ผู้ต้องหากระทําความผิดฐาน “จ้างวานฆ่าผู้อื่น” ในพื้นที่ จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา
โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า กรณีชายสวมเสื้อคลุมสีดํายืนคุยกับนายหน่องนั้นมีจริง ซึ่งเมื่อวานนี้ ( 8 ก.ย.) มีการสอบปากคําและรู้ตัวแล้วว่าใครเข้าไปทําอะไรบ้าง จึงทําให้สรุปได้ว่ามีการช่วยเหลือกันอย่างแน่นอน แต่ใครช่วยบ้างซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนรู้อยู่แล้ว โดยจะมีการดําเนินคดีกับผู้กระทําความผิดทั้งหมด ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการที่นายหน่องสามารถหลบหนีไปได้หลังก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร นั้น มีการช่วยเหลือ ละเว้นที่เกิดเหตุ และอีกส่วนคือหนีไปทันทีหลังเกิดเหตุ หรือพูดง่ายๆว่าไม่ได้ทําหน้าที่ตํารวจ อีกทั้งยังไปช่วยผู้ต้องหาหลบหนีและทําลายหลักฐานอีกด้วย ซึ่งจะต้องว่ากันไปตามกฎหมายและดําเนินคดีอย่างถึงที่สุ
ญาติรับศพ”หน่อง ท่าผา”
ที่ สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เมื่อเวลา 11.44 น. นายเอ (นามสมมติ) อายุ 50 ปี พี่ชายพร้อมด้วยครอบครัวของนายธนัญชัย หมั่นมาก อายุ 45 ปี หรือ “หน่อง ท่าผา” ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองกบ ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นายเอ เปิดเผยว่า ผมเป็นพี่ชายหน่องจะไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ เพราะมันจบแล้ว น้องมันตายแล้ว ตายไม่ว่า ตายอย่างหมา ผมก็ภูมิใจมันตายอย่างหมา หมาพิทบูลไม่ใช่หมาชิสุ ทางบ้านลุงผมก็เป็นกำนัน คนพื้นที่รู้จักกันหมด น้องผมไม่ใช่หน่อง ท่าผา หรือหน่อง บ่อพลับ น้องผมบ้านเกิดอยู่กรุงเทพฯ คนบ้านโป่ง คนมีศักดิ์ศรีไม่ใช่ไปลงข่าวหน่อง ทาผ่า หน่อง บ่อพลับ ผมขอแค่นี้ครับขอให้จบ ผู้สื่อข่าวถามว่ายังติดใจสาเหตุการตายหรือช่วงระยะเวลาการตายหรือไม่ ได้ตอบกลับมาว่าถ้าผมติดใจนักข่าวช่วยอะไรผมได้ไหม เพราะมีแต่นายสั่งนี้นายสั่งนั้น จึงอยากให้มันจบดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการผ่าพิสูจน์ศพพร้อมทั้งรายงานไปยังพล.ต.ต.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. เบื้องต้นไว้ว่า ร่างกายถูกคมกระสุน 4 จุด ได้แก่ 1.ใต้คางซ้าย 2.ลำคอขวา 3.ราวนมขวา และ4.หน้ารักแร้ซ้าย กระสุนปืนทำลายกระดูกสันหลัง อก ปอดและตับ ทำให้เสียชีวิต
จ่อหมายจับ4ตร.โต๊ะจีน
รายงานข่าวจากตำรวจระดับสูง แจ้งว่า ขณะนี้ จากการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่า ปืนที่ หน่อง ท่าผา ใช้ยิง พ.ต.ต.ศิวกร เป็นปืนของตำรวจที่อยู่ภายในงาน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และดำเนินการยื่นขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องทางคดีเพิ่มเติม ซึ่งได้รับรายงานว่า เป็นตำรวจถึง 4 นาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี