nn ยังวิพากษ์วิจารณ์และถามกันมาต่อเนื่องทีเดียว กรณีที่จอดรถโรงพยาบาลกลางของ กทม. ซึ่งก่อสร้างด้วยเงินงบประมาณภาษีประชาชน โดยมีจุดประสงค์เพื่อบริการประชาชน และช่วยเหลือประชาชนขณะเจ็บป่วย แต่กลับเห็นเงินเป็นหลักการใหญ่มีการเรียกเก็บเงินที่จอดรถเมื่อประชาชนไปใช้บริการ โดยบังอาจกระทำมานานแล้วอย่างท้าทาย ท่ามกลางที่ผู้คนข้องใจสงสัยว่าผิดกฎหมายหรือไม่ประการใด และถ้าไม่ผิดมีกฎหมายข้อไหน หรือเทียบเคียงกับกฎหมายมาตราใดกำหนดรองรับไว้ว่าให้ปฏิบัติได้

nn ที่สำคัญโรงพยาบาล กทม. หรือโรงพยาบาลรัฐไม่ใช่แหล่งทำธุรกิจแสวงหากำไรอันผิดแผกแตกต่างจากสถานพยาบาลเอกชนที่เขาสามารถกระทำลักษณะนี้ได้ เมื่อไม่ใช่แหล่งหรือหน่วยงานมุ่งหวังกำไร การเรียกเก็บเงินดังกล่าวก็น่าจะเข้าข่ายละเมิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เมื่อถูกตั้งคำถามขึ้นมาอื้ออึงเช่นนี้ ผู้ว่าฯกทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ต้องทุบโต๊ะอธิบายให้ชัดเสียเร็วไว (แม้จะไม่ใช่ผู้เริ่มต้น) เพราะเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ที่ขัดแย้งนโยบายความโปร่งใสของผู้บริหาร “เสาชิงช้า” ชุดนี้สาหัส 

nn และท่ามกลางความสงสัยข้องใจดังกล่าว ข้าราชการ กทม. หลายคนแสดงความคิดเห็นว่าหากประชาชนข้องใจ ควรปรึกษากับสภาทนายความก่อนก็ได้ หรือไม่ก็ร้องถาม ป.ป.ช., ป.ป.ท., ผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่า การที่โรงพยาบาลกลาง กทม. รวมทั้งโรงพยาบาลรัฐฯอีกหลายแห่งลักไก่กระทำดังกล่าวนั้นว่าผิดหรือไม่ผิด หรือถ้าพบว่าผิดข้อกฎหมายก็สามารถร้องทุกข์ได้ทันทีเช่นกัน 

nn อีกเรื่องหนึ่งที่กำลังเดือดแรงสร้างความเจ็บปวดขมับบีบหัวใจให้กับการบริหารงานผู้ว่าฯกทม.คือ การระห่ำตัดงบฯ บางรายการของ สก. แบบอคติ ตรงนี้ข้าราชการหลายเขตรวมทั้ง สก.น้ำดีที่เห็นด้วยกับการบริหารงบฯของผู้บริหารก็กังวลใจไม่น้อย เนื่องจากความจำเป็นต้องใช้เงินแก้ไขปัญหา “ชะตากรรมชะตาทราม” ให้ประชาชน ทว่า บางเขตเมื่อถูกตัดออกไป สิ่งที่ประชาชนจะได้ เช่น ถนน ลำราง คู-คลองตลอดทั้งโครงการจำเป็นต่างๆ ก็ต้องพับไป ตัดเล็กปรับน้อยไร้ปัญหาติติงสาปแช่ง หรือน้อยอกน้อยใจ แต่บางโครงการ “กระเหี้ยนกระหือรือ” ลงมือเล่นกันเหมือนคนขาดยาบ้าแล้วคลั่งเฉกเช่นการตัดงบฯของศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมฯ เขตปทุมวันถูกหั่นเกลี้ยงเหี้ยนสุดน่าเกลียด เกินความสวยงาม ทำเอาทีมงานฝ่ายบริหารปวดแสบปวดร้อนสะบัดหัวทั่วหน้า สุดท้ายผู้ว่าฯ ชัชชาติ ต้องแก้อาถรรพ์เฮี้ยนด้วยการใช้ “งบกลาง” ลงไปช่วยให้ศูนย์ฝึกฯอายุ 40 กว่าปี เปิดอบรมต่อไป นี่คือวีรกรรมอันไร้วิสัยทัศน์ยอดแย่ของ สก.บางคน ที่กำลังถูกแช่งชักหักกระดูกหนักหน่วงว่าใช้สมองส่วนไหนคิด แม้แต่ข้าราชการในเขตหลายคนก็พากันส่ายหัวบอกใบ้สุดแสน “อัปยศ” น่ารังเกียจยิ่ง นี่คือเสียงวิจารณ์ของผู้คน nn

ไผ่ฎำ