เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (15 ก.ย.66) นายจักกฤช มหากิจวรกุล อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(นายก อบต.) แก่งเสี้ยน ได้เปิดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่นายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี อาศัยความตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม วินิจฉัยให้นายจักกฤช มหากิจวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน พันจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ตามมาตรา 64 (4) แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติมจนถึงปัจจุบันฯ ที่บ้านพักส่วนตัว ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยนำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากมาแสดง
นายจักกฤช มหากิจวรกุล กล่าวว่า การแถลงข่าวในวันนี้เพื่อต้องการแจ้งให้สื่อมวลชนได้ทราบว่าที่ตนถูกกล่าวหาว่าเป็นบุคคลล้มละลายนั้น แต่ ณ บัดนี้ตนไม่ใช่บุคคลล้มละลาย ส่วนกรณีนายอำเภอเมืองกาญจนบุรีท่านจะมีคำสั่งต่อตัวผมเองอย่างไรนั้น เรื่องนี้มันเป็นทางของกฎหมาย ซึ่งท่านได้ทำไปตามแนวทางกฎหมายว่าจะทำอย่างไร ตนจะต้องไปดำเนินการให้มันชัดเจน แต่คงต้องรออีกประมาณ 2 อาทิตย์ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม ซึ่งตนคงต้องใช้สิทธิ์ทางศาลฟ้องร้องดำเนินคดีกับคนที่กลั่นแกล้งตน คนที่กลั่นแกล้งผมก็ต้องยอมรับกรรมตามนั้นและให้ไปสู้กันที่ศาล ส่วนตัวตนก็ต้องไปแก้ข้อกล่าวหาและขอยื่นอุทธรณ์ให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนตัวตนจะได้กลับไปนั่งในตำแหน่งนายก อบต.อีกหรือไม่นั้น ตนจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้งหนึ่ง
ต้องขอเรียนสื่อมวลชนว่าการที่ศาลจะสั่งล้มละลายได้นั้นหนี้สินจะต้องน้อยกว่าทรัพย์สิน ซึ่งตอนที่ตนเข้ามารับตำแหน่งตนได้ยื่นทรัพย์ไปยัง ป.ป.ช.จำนวน 131 ล้านบาท แต่หนี้ที่ตนเป็นเป็นหนี้ที่ไม่ได้ไปโกงใคร เป็นหนี้ที่ผมทำธุรกิจถมดินที่บ้านพุน้ำร้อน สำหรับเจ้าหนี้ของตนมีจำนวน 4 คน แต่เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คนตนไม่ได้โกงเขามาแม้แต่คนเดียว โดยเคลียร์กันหมดแล้ว และศาลได้สั่งยกเลิกการล้มละลายไปแล้วด้วยเช่นกัน
ส่วนตัวแล้วมีเจตนาต้องการให้ อบต.แก่งเสี้ยนเจริญเทียบเท่ากับตำบลอื่นเขา ซึ่ง อบต.แก่งเสี้ยนเป็น อบต.ขนาดเล็ก งบประมาณไม่เยอะ 1 ปีได้งบประมาณเพียงแค่ 10 ล้านบาทเศษแต่สิ่งที่สำคัญคือขยะมูลฝอยเป็นจำนวนมากถูกนำมาทิ้งกองอยู่ในพื้นที่ อบต.แก่งเสี้ยน ซึ่งมันเป็นผลประโยชน์ที่มากมายมหาศาล
ต่อแต่นี้ไปผมจะคอยติดตามในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ซึ่งขอให้สื่อมวลชนให้ความเป็นธรรมกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและท่านนายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพราะทั้งสองท่านได้ให้ความเป็นธรรมกับผมมาโดยตลอด แต่มันมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มพยายามร้องเรียนตนแบบวันเว้นวันและพยายามไปบีบท่านผู้ว่าฯและนายอำเภอ
สำหรับผู้ที่ตนจะฟ้องมีอยู่ 2 รายคือรายที่กลั่นแกล้งตนในทุกวิธีเป็นหญิง และรายที่สองเป็นคอลัมน์ทีวีช่องดังช่องหนึ่งที่ไปเอาเอกสารข้อมูลที่ไม่ได้รับการรับรองจากศาลมาตีแผ่ทำให้ตนได้รับความเสียหาย แต่ต้องขอบอกตามตรงว่าตนยังให้โอกาสคอลัมน์ดังกล่าวโดยจะให้เวลาอีก 3 วันหากยังนิ่งเฉยไม่มาขอโทษหรือไม่ขอโทษตนผ่านสื่อผมดำเนินคดีแน่นอน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี